นอกจากจะถูกเทคโนโลยี Disrupt แล้ว ตอนนี้วงการโฆษณา ยังถูก Tech Company ทั้ง Alibaba และ Amazon รุกเข้าไปในธุรกิจและเพิ่มดีกรีความร้อนแรงในการแข่งขันด้วย โดยเฉพาะ Alibaba หลังจากมีรายงานข่าวว่า ทาง Alibaba และ Tencent เตรียมเข้าไปซื้อหุ้นธุรกิจโฆษณาในประเทศจีนของ WPP 20% มีมูลค่าดีลราว 2,000 – 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับ WPP ถือเป็น 1 ในกลุ่มโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงหลังจากผู้ก่อตั้งและซีอีโอวัย 73 ปีของ WPP อย่าง Martin Sorrell ได้ลาออกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มบริษัท Alibaba ได้ทุ่มเงินไป 1,430 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อหุ้นบริษัท Focus Media Information Technology ของจีน โดยบริษัทนี้ทำธุรกิจสื่อนอกบ้าน มีจอดิจิทัลอยู่ตามท้องถนน, รถไฟใต้ดิน และในลิฟต์โดยสารที่กระจายอยู่กว่า 300 เมืองทั่วประเทศจีน เข้าถึงสายตาคนดูกว่า 200 ล้านคน
การเข้าซื้อหุ้นของ Focus Media เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การค้าปลีกใหม่ที่มีขนาดใหญ่ ที่ผสมผสานการค้าขายทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน โดยทาง Alibaba เรียกว่า Uni Marketing การนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ เพื่อให้แบรนด์สามารถทำการตลาดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ Alibaba มีความแข็งแกร่งทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ส่วน Amazon เอง ก็ได้เขย่าวงการโฆษณาเช่นกัน ด้วยการเริ่มหันมาทำโฆษณาในเว็บไซต์ของตัวเองในรูปแบบทำงานร่วมกับแบรนด์โดยตรง โดยไม่ผ่านคนกลางอย่างเอเยนซี่โฆษณา แม้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ทาง Google ก็ได้ใช้วิธีนี้เช่นกัน
แต่สำหรับ Amazon ถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่ ซึ่งทาง Seth Dallaire รองประธานฝ่ายขายโฆษณาและการตลาด ของ Amazon กล่าวว่า การทำงานในลักษณะนี้จะทำให้ Amazon เข้าไปช่วยแบรนด์ที่เป็นลูกค้าวิเคราะห์ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ข้อมูลการขาย การบริหารสินค้า และโปรโมชั่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย
นับจากนี้ จึงน่าจับตาเป็นอย่างมากว่า วงการโฆษณาจะปรับตัวอย่างไรกับการถูกท้าทายและรุกคืบของ Tech Company
ที่มา : reuters.com / alibaba