11.11 ปีนี้ ไม่ใช่มีแต่คนไทยที่ตื่นเต้น แน่นอนว่าประเทศแม่ต้นกำเนิดจีน ก็ตื่นเต้นคึกคักไม่แพ้กัน แถมคาดการณ์กันว่าปีนี้ตัวเลขสินค้านำเข้าจากต่างประเทศจะมากกว่าทุกๆ ปีอีกด้วย
เทศกาล 11.11 หรือที่เรียกว่าเทศกาลคนโสด Singles Day นับเป็นมหกรรมการช้อปปิ้งที่สร้างปรากฏการณ์แคมเปญเลขคู่มาหลายต่อครั้ง และทุกครั้งก็สามารถทำเงินทำลายสถิติยอดขายทะลุของเก่าในทุกๆ ครั้ง แต่ปีนี้เป็นที่จับตาว่า สินค้าต่างประเทศจะนำเข้าประเทศจีนมากกว่าทุกปีเพราะว่าคนจีนไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เหตุจากโควิด ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะทำให้เกิดการสั่งซื้อสินค้านำเข้าเพิ่มมากขึ้น เป็นคำยืนยันจาก ผู้บริหารซีเนียร์จาก Alibaba
“นักช้อปชาวจีน ซึ่งปกติมักจะซื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุดด้วยการบินไปช้อปปิ้ง แต่ครั้งนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์แทน” เป็นคำคาดการณ์จากปากของ Alvin Liu ประธานทีมอลล์ อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ท กล่าว
ทั้งนี้ Tmall คือแพล็ตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์หลักของ Alibaba ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่นิยมที่จะซื้อสินค้าอิมพอร์ตจากที่นี่ ซึ่งวันที่ 11 เดือนพฤศจิกาบนนี้ นับเป็นมหกรรมเทศกาลสินค้าครั้งใหญ่ที่ถูกจัดเป็นประจำทุกปี และทำรายได้เป็นพันๆ ล้านบนแพล็ตฟอร์มแห่งนี้
“ผมคิดว่าสินค้าอิมพอร์ตในปีนี้จะมียอดการสั่งซื้อมหาศาลในวันคนโสด คุณรู้ไหมว่า เพราะว่ามันไม่มีการเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้น คนจีนที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ เดินทางไม่ได้ แต่ก็ยังอยากที่จะซื้อสินค้าแบรนด์เนมคุณภาพสูงอยู่ดี ฉะนั้นผมคิดว่าในเทศกาลวันคนโสด จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะได้ซื้อสินค้าแบรนด์เนมจำนวนมาก” Liu กล่าว
เทศกาลคนโสดหรือแคมเปญ 11.11 เป็นเทศกาลที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็น Alibaba ไปจนถึง JD.com จะลดราคากระหน่ำครั้งใหญ่ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งเคยทำสถิติบนแพล็ตฟอร์มช้อปปิ้งเมื่อปีที่แล้วให้ Alibaba ได้สูงถึง 268.4 พันล้านหยวน หรือเกือบ 40 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
สำหรับปีนี้ทาง Alibaba เองก็พยายามที่จะเพิ่มจำนวนสินค้าแบรนด์เนมเข้ามาเพิ่มากขึ้น โดย Tmall เตรียมนำเข้าแบรนด์เนมมากกว่า 2,600 แบรนด์ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังแผ่นดินมังกรเพื่อเอาใจนักช้อปปิ้งชาวจีน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะอัดบูสต์ปริมาณสินค้าแบรนด์เนมนำเข้ามาจำนวนมาก แต่อาจจะไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวจีน ทั้งนี้ ผลการเซอร์เวย์จาก AlixPartners ระบุว่า 66% ของผู้บริโภคชาวจี อยากที่จะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ภายในประเทศแทนสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมากกว่า โดยเหตุผลส่วนใหญ่มาจากความ “ชาตินิยม” ซึ่งทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์ในประเทศแทน
จากความตึงเครียดระหว่างจีนและประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ที่เพิ่มระดับทวีความเข้มข้นมากขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อยอดสั่งซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้
ทั้งนี้ ผลเซอร์เวย์ยับแสดงให้เห็นว่า 57% ของผู้บริโภคชาวจีน ใช้เงินซื้อสินค้าจากอเมริกาน้อยลงมากในปีนี้
แต่ Liu เมินข้อมูลเหล่านี้ เขากลับมองว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ เขายืนยันว่านักช้อปชาวจีนยังต้องการสินค้าไฮควอลิตี้จากต่างประเทศอยู่อย่างแน่นอน
“ผมว่ามันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่มีบิ๊กเชนจ์อะไร เราก็ยังจะเห็นผู้บริโภคชาวจีนยังคงชอบที่จะซื้อสินค้าจากต่างประเทศอยู่ดี และสินค้าจากสหรัฐฯ ก็ยังจะเป็นหนึ่งในช้อยส์ที่ลูกค้าคนจีนจะเลือกซื้อและเราก็จะเห็นปริมาณความต้องการที่สูงมาก ซึ่งแคทากอลี่สินค้าที่ซื้อส่วนใหญ่จะซื้อ ก็อย่างเช่น เฮลท์แคร์ต่างๆ อาหาร อาหารเสริม และก็สินค้าบิวตี้” Liu กล่าว และว่า แต่อย่างไรก็ตามยังมีสินค้าใหม่ๆ แบรนด์ใหม่ๆ จากแผ่นดินจีนให้เลือกช้อปปิ้งใน Tmall ด้วย
Source: CNBC