วิถีชีวิตแบบไทยๆ เปลี่ยนแปลงไปไกลจากเดิม ด้วยศักยภาพและประสิทธิภาพสูงของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เมื่อโลกหมุนไปอย่างไร หากเราไม่หมุนตามไปให้ทัน ก็ย่อมส่งผลทำให้เรา “ตกขบวน” หรือก้าวตามไม่ทันกระแสโลก พลาดโอกาสหรือเพลี่ยงพล้ำจนหลุดวงโคจรทางธุรกิจไปได้ แต่หากเราเข้าใจและรู้วิธีใช้ “เทคโนโลยี” ก็เป็นตัวเชื่อมโยงที่นำไปสู่เส้นทางหรือโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างทรงพลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนรุ่น Gen Y ที่เดี๋ยวนี้อยากรู้อะไรก็สามารถสืบค้นหาได้อย่างรวดเร็วทันใจ ขณะที่ ในภาพใหญ่ระดับประเทศ หลายธุรกิจเริ่มหาหนทางใหม่ เพื่อไม่ให้ธุรกิจที่ดำเนินอยู่นั้นถูก Disruption และหนึ่งในเรี่ยวแรงสำคัญในการ Transform องค์กรเพื่อนำไปสู่ทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรแห่งอนาคต คือ คุณกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล AIS โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวในการนำองค์กรเติบโตด้วยศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นของพนักงานที่มีอยู่กว่า 12,000 คน ตลอดจนพันธกิจสำคัญในการนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี ส่งต่อให้กับคนไทยได้ใช้ประโยชน์และเติบโตไปพร้อมกัน
“ด้วยวิสัยทัศน์ของพี่สมชัย เลิศสุทธิวงค์ CEO ของ AIS ที่มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี นั่นจึงทำให้ AIS ตระหนักถึงศักยภาพของเทคโนโลยี จึงเป็นที่มาของ AIS Academy มาเป็นเวลา 3 ปีกว่า เราเปลี่ยนจาก Operator สู่การเป็น Digital Life Service Provider”
นี่คือจุดเริ่มต้นการทำงานของ AIS Academy การพัฒนาทักษะ จึงเป็นสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนเป็นอย่างแรก เนื่องจากรูปแบบการพัฒนาทักษะแบบเดิมๆ ไม่เข้ากับยุคเทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล ยกตัวอย่างเช่น หากอยากรู้ว่าในสังคมวันนี้คุยเรื่องอะไรกัน เรามีช่องทางให้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ต่างๆ ให้เราอัพเดทข้อมูลได้อย่างทันเหตุการณ์
สำหรับ AIS Academy มีบทบาทในการนำเสนอรูปแบบการพัฒนาองค์ความรู้สมัยใหม่ให้แก่พนักงาน AIS ในรูปแบบใหม่ โดยมองไปถึงการเพิ่มทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเมื่อโลกไม่หยุดนิ่ง คนยิ่งต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“เมื่อก่อน การพัฒนาความรู้ให้พนักงานจะมีรูปแบบการจัดอบรม สัมมนาที่เกิดขึ้นแล้วจบไป และวัดผลได้ยาก แต่หากเรานำองค์ความรู้ใหม่ๆ จากประสบการณ์ของคนภายนอกองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจ และทำให้พนักงานตื่นรู้ ขณะเดียวกัน เราก็ได้พัฒนาแพลตฟอร์มให้พนักงานเข้าถึงการเรียนรู้ได้ตลอดเวลาด้วยแนวคิด Anywhere Anytime Any Devices”
เมื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้บุคลากรภายในองค์กรแล้ว ด้วยสำนึกในความเป็นไทย AIS จึงมองเห็นถึงความสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสำหรับคนในสังคมไทยด้วย ในบทบาทของภาคเอกชนไทย AIS จึงต้องการนำเอาองค์ความรู้ ประสบการณ์จากการทำงาน การพัฒนาด้านเทคโนโลยี ส่งต่อให้สู่สังคม เป็นแนวทาง “คิดเผื่อ” ให้กับคนไทยทุกคน
นอกจากนี้ AIS ยังเชื่อว่า โลกทุกวันนี้ ธุรกิจไม่สามารถเติบโตเพียงคนเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนา ยิ่งมองภาพรวมในระดับประเทศแล้วนั้น ความร่วมมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ AIS อาจจะเชี่ยวชาญในเรื่องการให้บริการดิจิทัลบนสมาร์ทโฟน แต่ในด้านอื่น AIS อาจจะต้องอาศัยความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกองค์กรมาช่วยเติมความรู้ใหม่ๆ ด้วย นั่นจึงทำให้เกิดงาน ACADEMY for THAIs ขึ้นมา
ซึ่งเกิดจากความร่วมมือขององค์กรธุรกิจชั้นนำของไทยและระดับนานาชาติ มาช่วยกันเสริมศักยภาพและเสริมสร้างองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ทัดเทียมในระดับนานาชาติ
“อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ อย่างเทคโนโลยี AI ใครจะคิดว่า จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเรา ยิ่งในอนาคต AI จะถูกพัฒนาและทำสิ่งต่างๆ ได้อีกหลายอย่าง นั่นหมายความว่าเราจะต้องพัฒนาทักษะที่ AI ทำไม่ได้ หรือเรียนรู้เพื่อควบคุมการทำงานของ AI ได้ ไม่เช่นนั้น อนาคตเราจะอยู่อย่างลำบากเมื่อ AI เข้ามาทดแทนการทำงานของคนได้”
ย้อนกลับไปที่งานสัมมนา ACADEMY for THAIs เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา จึงเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการ “คิดเผื่อ” ที่ AIS เป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับองค์กรชั้นนำของไทยและระดับสากล นำเอาองค์ความรู้เกี่ยวกับ Digital Disruption ผ่านมุมมองและประสบการณ์จากวิทยากรผู้มีชื่อเสียงระดับโลก มาร่วมถ่ายทอดให้คนไทยได้เข้าใจและเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“ผลตอบรับที่ดีจากงานสัมมนาในครั้งนี้ เรายืนยันว่า AIS พร้อมเป็นศูนย์กลางที่จะเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในสังคมไทย มาร่วมกันเสริมสร้างความรู้ในโลกยุคดิจิทัลให้กับผู้สนใจ ซึ่งจะช่วยเปิดมุมมองที่หลากหลายครบถ้วน นอกจากนี้ เรายังมีแผนในการขยายการเรียนรู้ไปสู่ภูมิภาค โดยอ้างอิงถึงภาคส่วนธุรกิจในแต่ละท้องถิ่นด้วย” กานติมา กล่าว