แค่พูดถึง พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า หรือ พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ เชื่อว่าบรรยากาศและชื่อที่ทุกคนคุ้นเคยในบทบาท ห้างไอทีแห่งแรกของประเทศไทย แต่วันนี้บรรยากาศเหล่านั้นกลายเป็นเพียงอดีต เพราะโฉมใหม่อย่าง ‘AEC TRADE CENTER – PANTIP WHOLESALE DESTINATION’ ถูกปักธงไว้ด้วยเป้าหมายศูนย์ค้าส่งครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ และย่านประตูน้ำ โดยเพิ่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2563
เมื่อเป้าหมายใหญ่ ‘ภารกิจ’ และ ‘ความท้าทาย’ จึงไม่ธรรมดา!
อย่างที่บอกไปว่า เป้าหมายที่บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ในฐานะผู้บริหารพื้นที่ได้ตั้งไว้สำหรับ AEC TRADE CENTER คือการรวมสินค้าคุณภาพที่หลากหลายจากทั่วประเทศ มาตอบโจทย์ครบทั้งผู้ซื้อและผู้ขายในพื้นที่เดียวกัน ภายใต้ราคาต้นทาง พร้อมด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อบูรณาการข้อมูลการตลาด ช่วยให้ความรู้ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้สนใจประกอบธุรกิจส่งออก พร้อมกับการส่งเสริมให้ผู้ค้าได้ใช้ความสามารถทางเทคโนโลยี ดิจิทัล เพื่อยกระดับมูลค่าธุรกิจ พร้อม ๆ กับการยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้เข้าแข่งขันในตลาดนานาชาติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมกัน
ต้องยกความดีให้กับประสบการณ์ธุรกิจจากการทำศูนย์การค้าของ AWC ที่ทำให้สามารถต่อยอดทำเลและพันธมิตรธุรกิจที่มีศักยภาพ จนกลายเป็นประตูโอกาสแห่งใหม่ กับพื้นที่ 30,000 ตร.ม. ของโครงการ เพราะจากที่ได้เยี่ยมชมโฉมใหม่ของ AEC TRADE CENTER ด้วยตามาแล้ว เราจึงได้เห็นความโดดเด่นหลายอย่าง เช่น…
Yiwu Selection Thailand Showcase: การได้แบรนด์ Yiwu (อี้อู) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดของโลก จากเมืองอี้อู ประเทศจีน ซึ่งทำการค้ากับ 219 ประเทศทั่วโลก เข้ามาเป็นพันธมิตรรายใหญ่ พร้อมกับจัดตั้ง Yiwu Selection Thailand Showcase ศูนย์แสดงสินค้าจากผู้ผลิตประเทศจีน เพื่อเพิ่มโอกาสขยายธุรกิจและช่องทางการขายสินค้า ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มากขึ้น โดยภายในปี 2564 จะต่อยอดไปย่านประตูน้ำพระอินทร์ จังหวัดอยุธยา เพื่อตอบโจทย์ด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเป็นทำเลขนาดใหญ่ 300,000 ตร.ม. จึงเหมาะกับธุรกิจค้าส่ง
IC MALL: ศูนย์คัดสรรสินค้าจากผู้ประกอบการไทยเพื่อส่งออกสินค้าคุณภาพจากไทยไปขายที่จีน ผ่านช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น Tmall.com, JD.com, Alibaba.com, Koala.com, IC_Mall Wechat Application ซึ่งปัจจุบัน IC MALL มีสาขากว่า 300 แห่งในประเทศจีน
ศูนย์กลางค้าส่งแบบ One Stop: กับทำเลย่านประตูน้ำที่เดินทางได้จากหลายเส้นทาง ทั้งร้านค้าและผู้ขนส่งสินค้าต่างคุ้นเคยกับเส้นทาง รวมถึงการมีอาคารจอดรถที่มีเพดานสูง จึงสะดวกต่อรถขนส่งสินค้าและรองรับการจราจรได้เพียงพอจึงไม่แออัดหรือลำบากต่อการจัดส่งสินค้า ทั้งยังใช้เป็นจุดกระจายสินค้าได้ง่าย
Solution Service Center : หรือ SSC เป็นศูนย์ส่งเสริมผู้ประกอบการ ที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาด้านการส่งออกและนำเข้าสินค้า คอยเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ระหว่างผู้ซื้อ ผู้ผลิต และผู้ส่งออก, ห้องประชุม สัมมนา ห้องเปิดตัวสินค้า, Live Studio เทคโนโลยีเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ค้าในการ Live ขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย หรือถ่ายวิดีโอแนะนำสินค้า, รวมถึง ANTMAN ทีมช่วยขาย ที่จะมีผู้เชี่ยวชาญในการช่วยมองหาและขยายช่องทางขายสู่ตลาดใหม่ ๆ
ทั้งหมดนี้ถือเป็นโอกาสอันดีของ ‘ผู้ขาย’ เพราะไม่จำเป็นต้องรองานจัดแสดงสินค้าในประเทศหรือต่างประเทศเพียงช่องทางเดียว ก็สามารถทำธุรกิจได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุด ผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ที่ส่งตรงถึงประเทศจีนได้ง่าย ๆ รวมถึงประเทศใกล้เคียงในกลุ่ม CLMVT หรือแม้แต่การขายผ่านหน้าร้าน ก็ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อได้มั่นใจว่าเป็นผู้ประกอบการตัวจริงที่ผ่านมาคัดเลือกมาแล้ว เป็นต้นทางของสินค้าที่มีคุณภาพพร้อมขาย
แม้จะไม่ใช่ผู้ประกอบการหรือผู้ขายที่มีหน้าร้านอยู่ภายใน AEC TRADE CENTER เหล่า ‘ผู้ซื้อ’ ก็ยังใช้ประโยชน์จากความครบครันต่าง ๆ ได้ เพราะสามารถลดระยะเวลาเดินทางไปยังหลาย ๆ สถานที่ เพื่อเลือกชมสินค้าหรือทำการสั่งซื้อ เพราะมีร้านและสินค้าหลากหลายถูกรวมไว้ภายในโครงการฯ แล้ว ทำให้สามารถลดต้นทุนการค้าและเปลี่ยนเป็นกำไรได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ยังได้ซื้อสินค้าราคาต้นทางจากผู้ประกอบการโดยตรง และได้มาตรฐานตามคุณภาพสินค้าเช่นเดิม
‘สะดวก – ครบครัน – ราคาต้องดี’ ต้องมาพร้อมกัน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
เพราะโจทย์ศูนย์ค้าส่งครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค…ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ทำเล หรือการเดินทางที่สะดวกสบาย แต่รวมถึงความหลากหลายของสินค้า นี่จึงเป็นอีกโจทย์สำคัญที่ทำให้โครงการ AEC TRADE CENTER ประกอบด้วยร้านค้ามากกว่า 400 ร้าน และสินค้าหลากหลายถึง 50,000 รายการ จาก 18 กลุ่มสินค้า ที่ทางเจ้าของพื้นที่ตั้งโจทย์ไว้ว่าต้องครอบคลุมลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย จะเป็นตัวแทนจำหน่ายที่กำลังมองหาสินค้าคุณภาพ หรือร้านค้าส่ง พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือผู้บริโภคทั่วไป ก็มีสินค้าให้เลือกตั้งแต่…อาหารและเครื่องดื่ม, อาหารแช่แข็ง, สินค้าแฟชัน, ของขวัญของชำร่วย, เครื่องเขียนและเครื่องใช้สำนักงาน, ของแต่งบ้าน, เครื่องใช้ในครัว, เฟอร์นิเจอร์, สินค้าไอทีและเกตเจ็ต, ของเล่น, บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน AEC TRADE CENTER ยังตอบโจทย์ราคาดี ด้วยการเป็นสินค้าคุณภาพราคาต้นทางจากผู้ประกอบการ พร้อมกับเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการเปิดพื้นที่ให้ผู้ขายและผู้ซื้อได้พบปะกัน เจรจาธุรกิจกันได้ด้วย
ให้ขายออนไลน์บนแพลตฟอร์มใหม่ ฟรี 6 เดือน
หากพูดถึงภาพรวม โครงการ AEC TRADE CENTER ถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 ชั้น ประกอบด้วยร้านค้าต่าง ๆ ตามที่กล่าวไป โดยขณะนี้มีผู้เช่าใช้พื้นที่แล้ว 24,000 ตร.ม. ซึ่งเป็นพื้นที่ขายออฟไลน์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าขายให้กลับมาคึกคัก ทาง AWC เจ้าของพื้นที่ได้เปิดให้ใช้งาน ‘Phenixbox’ แพลตฟอร์มออนไลน์ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2564 ฟรี 6 เดือน เพื่อสนับสนุนการส่งออกและกระตุ้นธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยจะมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์งานธุรกิจ เช่น การทำใบเสนอราคา, การทำธุรกรรมการเงินออนไลน์, ระบบโลจิสติกส์, ฟังก์ชันค้นหาสินค้าอัจฉริยะ, การจัดการซื้อขายลักษณะกลุ่ม (Group Purchase) เพื่อประหยัดต้นทุนและขยายฐานลูกค้า เป็นต้น
ประเดิม ‘BIG Festivals’ กิจกรรมแรก ฉลองโฉมใหม่ศูนย์ค้าส่ง
เป็นอีกเสน่ห์ของอาคารแห่งนี้ กับการมีพื้นที่โล่งต้อนรับตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา โดย AEC TRADE CENTER ยังคงพื้นที่ดังกล่าวไว้เพื่อจัดกิจกรรมแบบหมุนเวียน โดยประเดิมครั้งแรกในธีม BIG Festivals ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึง 3 มกราคม 2564 เพื่อเป็นสีสันและคงกลิ่นอายเทศกาลแห่งความสุขในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จากร้านค้าผู้ผลิตและผู้ส่งออกที่เลือกสรร มาออกบูธสินค้าคุณภาพ ทั้งของขวัญ เครื่องเขียน ของเล่น ของแต่งบ้าน เครื่องใช้ในครัว และนวัตกรรมการพิมพ์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ชมและเลือกซื้อสินค้าตามความต้องการ