Adobe จับมือ Microsoft บูรณาการเทคโนโลยีขับเคลื่อน ‘Modern Workplace’ พัฒนาวิธีการทำงานในปัจจุบัน

  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ปัจจุบันในการเตรียมสถานที่ทำงานให้ทันสมัย สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาท้าทายของการทำงานแบบไฮบริด นั่นคือ การสร้างประสบการณ์แบบรอบด้านที่ช่วยให้การเชื่อมต่อของทุกคนทันสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมใดก็ตาม ที่งาน Microsoft Build อะโดบีเผยข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการครั้งสำคัญของความร่วมมือระหว่างอะโดบีกับไมโครซอฟท์ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุง และพัฒนาวิธีการทำงานในปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าของกระบวนการทำงานและระบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาด เรายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์การทำงานที่ทันสมัยที่สุดให้แก่ลูกค้าของทั้งสองบริษัท โดยมุ่งเน้นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงทีมเวิร์ก ประสิทธิภาพ และการทำงานร่วมกัน เป้าหมายหลักคือเพื่อช่วยให้ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ซึ่งหมายถึงการนำเอาประสบการณ์ดิจิทัลแบบครบวงจรไปไว้บนแพลตฟอร์มที่รองรับการทำงานของคนส่วนใหญ่ เช่น แพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ เป็นต้น

 

ขยายวิสัยทัศน์สำหรับ Digital-first Workplace

ฟีเจอร์ใหม่ๆ ภายใต้วิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัทสำหรับผู้ใช้ นักพัฒนา ผู้ดูแลระบบ และผู้บริหารฝ่ายไอที มีดังนี้:

  • พัฒนาการใหม่ล่าสุดสำหรับ Acrobat และ Acrobat Sign for Teams: เรายังคงพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์ม Microsoft Teams เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ด้านการแก้ไข การคอมเม้นท์ การแปลงเอกสาร การเซ็นชื่อ และการทำงานร่วมกันบนไฟล์ PDF ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิม โดยไม่จำเป็นต้องย้ายไปมาระหว่างแอพและอินเทอร์เฟซต่างๆ หรือการล็อกอินแยกต่างหาก ส่วนใน Acrobat for Teams เราได้เพิ่มความสะดวกของ Single Sign-On (SSO) และใส่ แท็บ Personal เพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นหน้าโฮมเพจสำหรับการจัดการดูแลเอกสารล่าสุด เครื่องมือ และการทำงานร่วมกัน โดยรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว  ฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ยังพร้อมใช้งานใน Acrobat Sign for Teams ด้วยเช่นกัน นอกเหนือไปจากการรองรับการเซ็นชื่อจากข้อความแจ้งเตือนใน Teamsตอนนี้คุณสามารถเซ็นชื่อเอกสารได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดเบราว์เซอร์หรือแอพ
  • พรีวิวเทคโนโลยีของ Live Share ที่รวมเข้ากับio: Frame.io ซึ่งตอนนี้กลายเป็นบริษัทในเครือของอะโดบี จะเปิดพรีวิว Live Share ที่บูรณาการเข้ากับ Frame.io ที่งาน Build  การบูรณาการดังกล่าวแสดงให้เห็นวิธีการใช้งาน Frame.io ร่วมกับ Microsoft Teams เพื่อรองรับการตรวจสอบงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟที่มีการซิงโครไนซ์  นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ในอนาคตจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมหลายคนสามารถประชุมร่วมกันผ่าน Teams ขณะที่กำลังตรวจสอบเนื้อหาจาก Frame.io ไปพร้อมๆ กัน และมีการเล่นวิดีโอแบบซิงโครไนซ์บนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของทุกคน
  • Acrobat และ Microsoft Purview Information Protection: อีกไม่นานผู้ใช้จะสามารถใช้ป้ายระบุและนโยบายPurview Information Protection สำหรับเอกสารสำคัญภายในโปรแกรม Acrobat เวอร์ชั่นเดสก์ท็อป ทั้งนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารองค์กรธุรกิจจะต้องเพิ่มเติม Purview Information Protection ไว้ในสัญญาธุรกิจที่ส่งถึงกันในรูปแบบ PDF เช่น ใบสั่งซื้อ ข้อตกลงความร่วมมือ และสัญญาบริการ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีเพียงคู่สัญญาและฝ่ายที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะสามารถดู จัดการ และอนุมัติเอกสารดังกล่าวได้
  • Acrobat Sign และ Power Automate ถูกรวมไว้ภายใน: เราเพิ่มความสะดวกและความคล่องตัวให้แก่ลูกค้าในการทำงานซ้ำๆ รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลและแอพต่างๆ โดยการนำเอา Power Automate ไปใส่ไว้ใน Acrobat Sign โดยตรง ซึ่งนั่นหมายความว่าองค์กรต่างๆ จะสามารถสร้างระบบอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วสำหรับขั้นตอนการทำงานและการตรวจสอบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ โดยครอบคลุมกระบวนการทางธุรกิจหลายร้อยรายการ เช่น คำร้องขอบริการภาคสนาม สัญญาซื้อ-ขาย แบบฟอร์มว่าจ้างพนักงานใหม่ และคำร้องขอด้านไอที  
  • ตัวเชื่อมต่อ Adobe Experience Manager Forms สำหรับ Power Automate: Adobe Experience Manager Forms นำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับการสร้าง จัดการ และนำเสนอแบบฟอร์มและเอกสารแบบไดนามิกที่รองรับอุปกรณ์มือถือ โดยบูรณาการเข้ากับ Acrobat Sign อย่างกลมกลืน ตอนนี้ผู้ใช้จะสามารถเชื่อมต่อเครื่องมือที่ทรงพลังนี้เข้ากับ Power Automate ได้อย่างง่ายดาย และเริ่มต้นเวิร์กโฟลว์ทางด้านธุรกิจ หลังจากที่แบบฟอร์มถูกส่งผ่าน Adobe Experience Manager Forms  การดำเนินการต่างๆ เช่น ตรวจสอบ อนุมัติ และทริกเกอร์การแจ้งเตือน ถูกบูรณาการไว้ภายใน Power Automate อย่างไร้รอยต่อ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและการประสานงานร่วมกัน
  • Acrobat Sign Graph Connector: งานใหม่บนข้อตกลงที่ใช้อยู่จะถูกจัดทำดัชนีควบคู่ไปกับข้อมูลจาก Microsoft 365 และอีโคซิสเต็มส์ของไมโครซอฟท์ ผู้ใช้ Acrobat Sign จะสามารถค้นหางานภายใต้ข้อตกลงได้ภายใน Microsoft Search การเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจสอบสถานะของลายเซ็น และการได้รับแจ้งเตือนเกี่ยวกับสัญญาที่เพิ่งดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ จะช่วยลดระยะเวลาที่ต้องใช้สำหรับกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การสรุปสัญญาซื้อ-ขาย ไปจนถึงการจัดการดูแลพนักงานใหม่ 
  • การติดตั้งแบบครบวงจรสำหรับ Acrobat & Acrobat Sign for Microsoft 365: ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถติดตั้งและจัดการ Acrobat & Acrobat Sign Add-in บน Teams, Word, Outlook และ PowerPoint โดยลดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการติดตั้ง Add-in ดังกล่าวสำหรับผู้ใช้
  • Adobe Acrobat Sign for Government ได้รับการอนุญาตระดับ FedRAMP Moderate: Acrobat Sign ซึ่งโฮสต์อยู่บน Microsoft Azure Government Cloud ได้รับการอนุญาตในระดับใหม่จากรัฐบาล นั่นคือ FedRAMP Moderate ซึ่งขยายขอบเขตการใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมกระบวนการที่มีความอ่อนไหวสูงอย่างเช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัว FedRAMP Program เป็นโครงการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่กำหนดแนวทางมาตรฐานสำหรับการประเมินความปลอดภัย การให้อนุญาต และการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์

แอชลีย์ สติล รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายดิจิทัลมีเดียของอะโดบี กล่าวว่า “ไม่มีบริษัทใดที่จะมีความพร้อมมากไปกว่าอะโดบีและไมโครซอฟท์ในการตอบสนองความต้องการและความจำเป็นทางด้านธุรกิจของโลกไฮบริดในปัจจุบัน ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่สะดวกและปลอดภัยโดยใช้ PDF และลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เป็นองค์ประกอบหลัก  ด้วยการบูรณาการเชิงลึกมากขึ้นระหว่างอะโดบีและไมโครซอฟท์ เรายังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับการทำงานของบุคลากรให้มีความคล่องตัวสูง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

ชาร์ลส์ ลามานนา รองประธานบริษัท ฝ่ายแอพและแพลตฟอร์มด้านธุรกิจของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “ภารกิจสำคัญอันดับหนึ่งขององค์กรชั้นนำในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมคือ การเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจร่วมกับลูกค้า พนักงาน และคู่ค้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม  อะโดบีและไมโครซอฟท์ร่วมกันนำเสนอเทคโนโลยีด้านเวิร์กโฟลว์ที่ก้าวล้ำโดยอาศัย Power Automate และAcrobat Sign ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

 

Modern Work ในปัจจุบัน

รายงานการศึกษาของฟอเรสเตอร์เกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2565 (2022 Forrester Total Economic Impact Study) ตามที่ได้รับมอบหมายจากอะโดบี ชี้ว่า องค์กรที่ใช้ Adobe Document Cloud และเครื่องมือของไมโครซอฟท์ สามารถทำงานต่างๆ ให้เสร็จได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยองค์กรธุรกิจระบุว่าการทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้น 30% และข้อร้องเรียนจากลูกค้าเกี่ยวกับขั้นตอนการเซ็นชื่อมีจำนวนลดลง 40% 

Norfolk County Council (สหราชอาณาจักร) ใช้การบูรณาการที่ไร้รอยต่อของ Acrobat Sign และ Microsoft 365 เพื่อจัดการคำร้องขอและงานเอกสารในรูปแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรได้อย่างมาก ทั้งยังเพิ่มความแข็งแกร่งในการกำกับดูแล ด้วยเส้นทางการตรวจประเมิน (Audit Trails) และการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ Norfolk County Council สามารถประหยัดเวลาได้ 4.5 วันต่อเดือนเมื่อใช้ขั้นตอนการเซ็นชื่อแบบอัตโนมัติ และลดเวลาในการจัดเตรียมเอกสารด้านกฎหมายจากเดิมที่ต้องใช้เวลา 45 นาที เหลือเพียง 12 นาทีเท่านั้น

เคิร์ท ฟรารี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและรองผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการข้อมูลและเทคโนโลยีของ Norfolk County Council กล่าวว่า “ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของเรามาโดยตลอด การแพร่ระบาดทำให้เราจำเป็นต้องรีบเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้  Adobe Acrobat Sign มีความโดดเด่นในแง่ของการบูรณาการเข้ากับระบบอื่นๆ รวมถึงความสะดวกในการใช้งาน และการสนับสนุนที่ดีเยี่ยม  ด้วยความช่วยเหลือจากอะโดบี เราสามารถเริ่มต้นใช้งานลายเซ็นดิจิทัลโดยมีการผนวกรวมเข้ากับโซลูชั่นของไมโครซอฟท์ได้อย่างสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึง 4 สัปดาห์”

การทำงานในรูปแบบไฮบริดนับเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้มีการปรับเปลี่ยนจากเอกสารที่เป็นกระดาษไปสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วมากขึ้น และทุกองค์กรจำเป็นที่จะต้องรีบเร่งดำเนินการเพื่อก้าวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง  ผู้ใช้เทคโนโลยีของไมโครซอฟท์กว่า 180 ล้านคนในภาคธุรกิจ รวมถึงองค์กรชั้นนำอย่างเช่น Hitachi, TSB Bank, Clark County, City of Seattle, Sanofi และ Iowa State University ใช้งาน Acrobat Sign โดยเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการทำงานบนแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์  นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังดำเนินการปรับเปลี่ยนภายในองค์กร โดยหันไปใช้ Acrobat Sign ซึ่งเป็นโซลูชั่นลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่แนะนำให้ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของไมโครซอฟท์

 

 

ก้าวต่อไป

การแถลงข่าวของเราที่งาน Build ถือเป็นหลักไมล์ที่สำคัญสำหรับความร่วมมือของทั้งสองบริษัท แต่ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกมากที่รออยู่ เพราะภารกิจหลักของเราคือการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันเพื่อช่วยให้ลูกค้ายกระดับประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม และการนำเสนอประสบการณ์ที่ทันสมัยจะยังคงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการทำงานของเราอย่างต่อเนื่อง


  • 7
  •  
  •  
  •  
  •