จากการถูก Digital disruption นอกจากแบงก์ต่าง ๆ จะบุกออนไลน์มากขึ้นแล้ว ยังได้มีการลดจำนวนสาขา รวมถึงจับมือพาร์ทเนอร์ในธุรกิจรีเทลทั้งศูนย์การค้า , ร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงร้านกาแฟ ให้ทำหน้าที่ Banking Agent ซึ่งล่าสุด ‘ธนาคารกรุงเทพ’ เพิ่งได้แต่งตั้ง เทสโก้ โลตัส เป็น Banking Agent รายแรกหลังจากหลายแบงก์ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้
การร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าธนาคารกรุงเทพกว่า 17 ล้านบัญชี สามารถฝาก/ถอนเงินสด ผ่านเคาน์เตอร์ชำระเงินของเทสโก้ โลตัส ทั้งสาขาขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพิ่มเติมจากการทำธุรกรรมที่สาขาและเครื่องฝาก/ถอนเงินสดอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าได้มากขึ้นด้วยการผสานการให้บริการแบบออมนิแชนแนลให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ตลอดเวลาทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์
รวมถึงเป็นการเพิ่มระยะเวลาในการทำธุรกรรมได้ยาวนานขึ้น ตามเวลาการเปิดให้บริการที่ยาวนานกว่าการให้บริการของสาขาธนาคารตามปกติ โดยปัจจุบันลูกค้าของธนาคารกรุงเทพสามารถใช้ดังกล่าวในเทสโก้ โลตัสได้แล้วกว่า 90% หรือมากกว่า 1,800 สาขา และภายในสิ้นปี 2563 จะขยายบริการให้ครบทั้งกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ
สำหรับลูกค้าที่ต้องการฝาก/ถอนเงินสด ผ่านช่องทางเคาน์เตอร์ชำระเงินของเทสโก้ โลตัส จะมีเงื่อนไขในการใช้บริการดังนี้
บริการฝากเงินสด
-ผู้นำฝากต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ชนิดสมาร์ทการ์ดที่มีชิพบนบัตร และระบบต้องสามารถอ่านข้อมูลจากชิพบนบัตรได้
-แจ้งเลขที่บัญชีสะสมทรัพย์ หรือบัญชีกระแสรายวันของธนาคารกรุงเทพที่ต้องการนำฝาก โดยเป็นบัญชีที่ยังอยู่ในสถานะปกติ (Active)
-กำหนดวงเงินในการรับฝากตั้งแต่ 100 -30,000 บาทต่อรายการ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อวันต่อหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้บริการ
-อัตราค่าธรรมเนียมในการนำฝากเงินสด 15 บาทต่อรายการ
บริการถอนเงินสด
-สำหรับลูกค้าธนาคารกรุงเทพ ที่มีบัตรเดบิต ได้แก่ บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น ยูเนี่ยนเปย์ หรือบัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น มาสเตอร์การ์ด โดยบัตรต้องเปิดให้สามารถชำระค่าสินค้าได้
-การถอนเงินสดจะถูกหักจากบัญชีเงินฝากหลักที่ผูกไว้กับบัตรเดบิต
-กำหนดวงเงินในการการถอนตั้งแต่ 100- 5,000 บาทต่อรายการ สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาทต่อวันต่อผู้ใช้บริการแต่ละราย
-อัตราค่าธรรมเนียมในการถอนเงินสด 15 บาทต่อรายการ