Bangkok Airways จับมือ OR นำร่องใช้น้ำมันแบบยั่งยืน SAF เที่ยวบินทดสอบ สมุย-กรุงเทพ เดินหน้าลดปล่อยคาร์บอน

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

สำหรับการดำเนินธุรกิจสายการบินทั้งระบบแล้ว ส่วนที่มีปริมาณการปล่อยคาร์บอนมากที่สุดจะอยู่ในส่วนปฏิบัติการด้านการบิน ดังนั้นในยุคที่โลกกำลังตื่นตัวเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอน และมีการตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นศูนย์ในปี 2050 (Net Zero Carbon Emission 2050) รวมถึงตามมาตรการขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสมาคมการบินระหว่างประเทศ (IATA) สายการบินต่างๆ ทั่วโลกจึงพากันขานรับพันธกิจนี้

ด้านสายการบินของไทยอย่างบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) ก็ได้ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้นโยบาย ESG และตั้งเป้าหมายสู่การเป็น ‘สายการบินยั่งยืน’ โดยกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมในปีนี้ ได้ริเริ่มโครงการ ‘Low Carbon Skies by Bangkok Airways’ มุ่งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินธุรกิจทั้งระบบ ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งในส่วนปฏิบัติการด้านการบินนั้น ที่ผ่านในปี 2023 ภายใต้โครงการใช้น้ำมันอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2 สู่ชั้นบรรยากาศเท่ากับ 11,321 ตัน หรือมากกว่า 200 กิโลกรัม/เที่ยวบิน

ล่าสุดบางกอกแอร์เวย์สได้มีการเปิดตัวการนำร่องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel (SAF) บนหนึ่งเที่ยวบินทดสอบ สมุย-กรุงเทพ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการสนับสนุนให้มีการใช้เชื้อเพลิงพลังงานสะอาด โดยงานนี้เป็นการจับมือกันระหว่างบางกอกแอร์เวย์สกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ผู้นำเข้าน้ำมัน SAF เข้ามาในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าเที่ยวบินนี้จะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2 โดยประมาณ 1,346 กิโลกรัม

SAF หรือน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน เป็นน้ำมันที่มีคุณสมบัติทางเคมีที่คล้ายคลึงกับน้ำมันเจ็ท ผลิตจากน้ำมันทำอาหารที่ใช้แล้ว หรือที่เรียกว่า UCO (Used Cooking Oil) โดย SAF สามารถผสมเข้าไปกับน้ำมันเจ็ทสัดส่วนสูงสุดได้ถึง 50% เพื่อให้ใช้ในเครื่องบินได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือปรับปรุงเครื่องยนต์ เป็นพลังงานที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานปกติ 

AAPA หรือ สมาคมสายการบินภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (The Association of Asia Pacific Airlines) ที่มี 14 สายการบินเป็นสมาชิกรวมถึงบางกอกแอร์เวย์สด้วยนั้น ตั้งเป้าหมายว่า อยากให้สายการบินสมาชิกใช้น้ำมัน SAF 1% ภายในปี 2026 ซึ่งทางบางกอกแอร์เวย์สเองก็เล็งที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายนั้นเช่นกัน โดยหลังจากเที่ยวบินทดสอบครั้งนี้แล้ว ทางบางกอกแอร์เวย์สจะนำไปประเมินผลกระทบด้านต่างๆ อีกครั้ง นอกจากนี้ยังต้องดูความพร้อมของซัพพลายเออร์ว่าจะมีน้ำมันอย่างเพียงพอด้วยหรือไม่หากวางแผนที่จะนำมาใช้  

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ SAF มีราคาที่สูงกว่าน้ำมันปกติ 3 เท่า จึงนำมาสู่คำถามที่ว่าจะกระทบต่อราคาค่าตั๋วโดยสารหรือไม่ ซึ่งทางผู้บริหารของบางกอกแอร์เวย์สได้อธิบายว่า เป้าหมายใช้ SAF 1% จากน้ำมันเชื้อเพลิงทุกเส้นทางเดือนละ 10 ล้านลิตร จะไม่กระทบกับราคาค่าตั๋วอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากต้นทุนค่าตั๋วมาจากหลายปัจจัย เช่น ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ ฯลฯ ส่วนสาเหตุที่เลือกเส้นทาง สมุย-กรุงเทพ ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่ใช้น้ำมันเยอะที่สุด ทำรายได้มากที่สุด เป็นเส้นทางที่คนสนใจ จึงน่าจะเป็นการประกาศตัวที่สร้างความน่าเชื่อถือถึงการใช้พลังงานทางเลือกมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนของบางกอกแอร์เวย์สต่อจากนี้ 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •