เมื่อไม่นานมานี้ นิตยสารด้านธุรกิจ Fast Company เพิ่งประกาศผลรางวัลสุดยอดบริษัทแห่งนวัตกรรม ประจำปี 2562 (Most Innovative company of 2019) ซึ่งในปีนี้ แม้กระทั่งรายชื่อ Top10 ก็ยังไม่ปรากฏชื่อ Apple เจ้าของตำแหน่ง “สุดยอดบริษัทแห่งนวัตกรรม” อันดับหนึ่งประจำปี 2561
Amy Farley บรรณาธิการอาวุโสของนิตยสาร Fast Company มองว่าเป็นเพราะในปีที่ผ่านมา Apple ไม่ได้มีการใส่นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ลงไปในอุปกรณ์ ประกอบกับยอดขายของ Apple ที่ค่อนข้างซบเซา เป็นผลให้ปีนี้ Apple คว้าอันดับที่ 17 ไปครอง แต่ถึงอย่างนั้น เขาเชื่อว่า Apple น่าจะกลับมาทวงบัลลังก์ได้ในไม่ช้า เพราะได้ข่าวว่า Apple กำลังผลิต Chipset ของตัวเองที่จะช่วยให้การทำงานของเทคโนโลยีประมวลผลดาต้าอย่าง AI, AR ทำงานได้ราบรื่นขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้ได้ภาพถ่ายคุณภาพสูง
แชมป์ตกเป็นของจีน แต่ไม่ใช่ 3 ยักษ์ (BAT) ที่ทุกคนรู้จัก
สุดยอดบริษัทแห่งนวัตกรรมอันดับ 1 ในปีนี้ ตกเป็นของ Meituan Dianping แอปรวมไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยเป็นแพลตฟอร์ม O2O (Online-to-Offline) ที่เชื่อมต่อการทำธุรกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคเข้ากับธุรกิจท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร สั่งของชำ จองโรงแรม จองตั๋วหนัง จองร้านนวด รับล้างรถถึงที่ และกิจกรรมอื่นๆ ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 มีธุรกรรมเกิดขึ้นใน App มากกว่า 27,700 ล้านครั้ง ทำให้เกิดมูลค่าซื้อขายกว่า 33,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าในทุกๆ 1 วินาที จะมีการส่งมอบบริการเกิดขึ้นกว่า 1700 ครั้ง ปัจจุบัน Meituan Dianping มีฐานลูกค้ากว่า 350 ล้านคนใน 2,800 เมืองทั่วเอเชีย ซึ่งลูกค้าแต่ละคนมีการใช้แอปนี้เฉลี่ย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
สำหรับความยิ่งใหญ่ของ Meituan Dianping ว่ากันว่า หลัง IPO เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง บริษัทก็ถูกยกให้เป็นบริษัทเทคโนโลยีมูลค่ากิจการสูงเป็นอันดับ 4 ของจีน ในทันที เป็นรองเพียงกลุ่ม BAT ที่คนไทยคุ้นเคยดี ได้แก่ Baidu เสิร์ชเอ็นจิ้นเบอร์ 1 ของจีน Alibaba อีคอมเมิร์ซเบอร์ 1 ของจีน และ Tencent โซเชียลมีเดียเบอร์ 1 ของจีน
GRAB คว้าเบอร์สองในปีนี้
หลังจากที่ Uber ถอนตัวออกจากภูมิภาคอาเซียน Grab ก็ครอบครองตลาดบริการด้านนี้ไว้ได้ทั้งหมด Grab ถือเป็นสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ (จดทะเบียนที่สิงคโปร์) แต่ผู้ก่อตั้งเป็นลูกชายของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย ปัจจุบัน Grab ถือเป็นแพลตฟอร์มในการเรียกรถรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน โดยไม่ได้มีเพียงบริการด้านการขนส่งบุคคลเท่านั้น แต่ยังมีบริการส่งอาหาร ส่งพัสดุ และบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
ก่อนหน้านี้ Grab ยังพยายามทำตัวเป็น Super App ด้วยการขยายไปยังบริการและธุรกิจใหม่ๆ เช่น การนัดพบแพทย์ การกู้เงิน และการเปิดบริการสตรีมมิ่งบนแอปของตัวเองแล้ว โดยร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง HOOQ ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งของ Singtel ที่ร่วมกับ Sony และ Warner Bros นอกจากนี้ ว่ากันว่า ภายในปีนี้ Grab อาจจะมีให้บริการด้านสุขภาพโดยจับมือกับ Ping An ผู้ให้บริการสุขภาพผ่านระบบดิจิทัลรายใหญ่ของจีน
ปัจจุบัน Grab นับเป็นบริษัท Unicorn ที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า $1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นสตาร์ทอัพเนื้อหอมที่สามารถระดมทุนไปถึงระดับ Series H และระดมทุนไปแล้วเป็นร่วมหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
สุดยอดบริษัทแห่งนวัตกรรมอันดับ 3 -10
อันดับ 3 : NBA จากการที่มียอด Subscriber เพิ่มขึ้นมากถึง 3% และรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 25% จากการพัฒนาเกมบาสเกตบอลให้เป็น e-Sport แล้วจัดทำลีกการแข่งขันเกมบาสเกตบอล e-Sport ภายใต้ชื่อ “NBA 2K League”
อันดับ 4 : Walt Disney Company โดยทางนิตยสารมองว่า Disney ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของ Netflix และสิ่งที่จะทำ Disney เติบโตอย่างรวดเร็วมาจากการเปิดตัว Disney+ ที่จะมีการสร้าง Content ใหม่และนำ Content เดิมของ Disney เข้ามาให้บริการผู้ชม
อันดับ 5 : Stitch Fix บริการสไตลิสต์ส่วนตัว ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาด้านเครื่องแต่งกายให้สอดคล้องกับบุคลิกภาพ รสนิยม อาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวันโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น ผ่านทางออนไลน์อีกด้วย
อันดับ 6 : Sweet Green เริ่มต้นจากร้านสลัดบาร์จนกลายเป็นร้านอาหาร farm-to-table business ที่ปัจจุบันมีสาขา 91 สาขาใน 8 รัฐในอเมริกา และมีแผนจะเปิดอีก 15 สาขาในปีนี้ พร้อมกับมีการเปิด App ให้ลูกค้าสั่งอาหารได้ด้วย ซึ่งมีคนโหลดไปแล้วกว่า 1 ล้านคน
อันดับ 7 : Apeel Science เป็นบริษัทพัฒนาสารเคลือบผักและผลไม้สดจากธรรมชาติเพื่อยืดอายุผักและผลไม้ ทางนิตยสารมองว่า การที่บริษัทได้รับว่าจ้างให้เคลือบผล “อโวคาโด” ให้กับเชนร้านขายของชำกว่า 250 เชน บวกกับการพัฒนานวัตกรรมสำหรับผักผลไม้อีกหลายชนิด ทำให้บริษัทจะเติบโตอย่างรวดเร็วมาก
อันดับ 8 : Square เป็นแอปรับชำระเงินผ่านบัตรบัตรเครดิต โดยจากการพัฒนานวัตกรรมล่าสุด Square Terminal ที่รองรับการจ่ายเงินได้ทุกประเภท ทั้งบัตรแถบแม่เหล็ก บัตรแบบชิป และ NFC อีกตั้งยังเป็นหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) มีเครื่องพิมพ์ใบเสร็จในตัว สามารถทำงานแบบไร้สาย และเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และ Ethernet ทำให้เฉพาะไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ธุรกรรมทั้งหมดที่ผ่าน Square มีมูลค่ารวมถึงกว่า 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อันดับ 9 : Oatly บริษัทผลิตผลิตภัณฑ์คล้ายนม ซึ่งระหว่างปี 2560-2561 รายได้ของบริษัทเติบโตจาก 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปสู่กว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Oatly ถูกใช้ในร้านกาแฟมากกว่า 2,500 ร้าน และมีวางขายในร้านขายของชำกว่า 1,500 ร้านค้า ซึ่งทางนิตยสารคาดว่าจะเติบโตเป็น 2 เท่าในปีหน้า
อันดับ 10 : Twitch เป็นแพลตฟอร์ม Live Streaming Video ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการ Live การเล่มเกมและการแข่งขัน e-Sport รายการใหญ่หลายรายการ ถือเป็นแพลตฟอร์มอันดับต้นๆ ที่เกมเมอร์ และผู้คนในแวดวง e-Sport รวมถึงผู้ชม ให้ความสนใจมาก เพราะสามารถโต้ตอบมีปฏิสัมพันธ์กันได้ และไม่ใช่แค่ชุมชน e-Sport ปัจจุบันแอปนี้ยังเป็นที่นิยมในการ Live คลาสฟิตเนส การทำอาหาร การวิ่งมาราธอน และกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้อยากให้คนอื่นติดตาม
แหล่งที่มา CNBC, Fast Comapny, Finnomena
