บทบาทใหม่ TBWA มากกว่านักล่ารางวัล แต่จะเป็น “Creative Growth Agency” ที่ขับเคลื่อนด้วย Data and Culture

เมื่อโลกเปลี่ยน ทุกสิ่งก็ต้องปรับเปลี่ยนตามโลก เป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อยๆ วงการเอเจนซี่ก็เช่นกัน แต่วันนี้ TBWA ได้ก้าวออกมาบอกว่า นอกจากการเปลี่ยนแปลงแล้ว เขาจะไม่ใช่เอเจนซี่โฆษณาอีกต่อไป! Who wants to be a f%#king Advertising Agency?

บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TBWA ครีเอทีฟเอเจนซีชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าปรับองค์กร พลิกบทบาทใหม่ของเอเจนซีที่มีต่อกลุ่มลูกค้า จากเดิมที่มุ่งเน้นงานด้านการสื่อสารการตลาด แต่จะก้าวสู่การสร้างกลยุทธ์เพื่อการเจริญเติบโต หรือ Creative Growth Agency ที่พร้อมเป็นที่ปรึกษา ให้ Solution ทั้งด้านธุรกิจ การตลาดและความคิดสร้างสรรค์แบบครบวงจร โดยการนำ Data, Culture และ Creativity มาสร้างเป็น Platform ใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับลูกค้า ด้วยความแม่นยำและทันการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของสังคม ภายใต้บทบาท Creative Growth Agency

กับการเปลี่ยนแปลงและปรับบทบาทใหม่ ชัยประนิน วิสุทธิผล ประธานบริหาร บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ใช้งบลงทุนถึง 40 ล้านบาทในการพัฒนาขีดความสามารถ ทั้งบุคลากรและเทคโนโลยี ที่สำคัญ ยังได้ตั้งแผนกใหม่ ซึ่งมองว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันและอนาคต ได้แก่ ทีม Data and Culture Intelligence ที่ออฟฟิศของทีบีดับบลิวเอทั้งในประเทศไทย และในสิงคโปร์ รวมทั้งแพลตฟอร์มการตลาดเชิงรุก ให้พร้อมกับการทำงานในสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พร้อมเปิดตัว ยูนิตธุรกิจใหม่ในชื่อ Disruption Consulting ที่จะช่วยสร้างสรรค์กลยุทธ์ทางธุรกิจและกิจกรรมทางการตลาดที่แม่นยำเฉียบคม มีประสิทธิภาพ และเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนของลูกค้า

สร้างทีม – ยูนิตใหม่ รองรับการเปลี่ยนแปลง สร้างการเติบโตให้ลูกค้า

Disruption Consulting จะเป็นหน่วยงานที่เปรียบเสมือน Think Tank จะวางกลยุทธ์สร้างการเจริญเติบโตทางธุรกิจที่แม่นยำให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน การวิเคราะห์ดาต้าและกระแสสังคม ไปจนถึงการประเมินผลและปรับปรุงพัฒนา Consumer Journey ให้ดีขึ้นตลอดเวลา

ส่วนงานสื่อสารที่ทำอยู่ปกติ จะถูกพัฒนาให้เป็น Dynamic Creativity เพื่อตอบโจทย์ด้านกา การสร้างคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ ที่รวดเร็ว เท่าทันสังคมและการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงการผลิตคอนเทนต์ในทุกรูปแบบ

“แต่เดิมอุตสาหกรรมโฆษณามุ่งเน้นความเป็นเลิศในทางการสื่อสาร ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้า โดยมีรางวัลใหญ่ในวงการเป็นเครื่องวัดขีดความสำเร็จ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน สินค้าและลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่อ่อนแอ และอ่อนไหวต่อการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงเกินกว่าที่การสื่อสารแบบพื้น ๆ จะช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ ซึ่งสะท้อนให้กลับมาคิดถึงบทบาทและคุณค่าที่แท้จริงของเอเจนซีที่มีหน้าที่สำคัญต่อคู่ค้าของเรา คือ การเป็นคู่ค้าในเชิงกลยุทธ์ เพื่อการเจริญเติบโตของธุรกิจเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ สามารถพลิกศักยภาพทางการตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างปาฏิหาริย์ เป็นยุคสมัยของวงการตลาดที่น่าตื่นเต้นที่สุด ตั้งแต่มีการค้นพบวิธีถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ฉะนั้น เพื่อยืนหยัดเชื่อมั่นอยู่ในวิชาชีพของเรา และตอกย้ำคุณค่าของอุตสาหกรรมโฆษณา ทีบีดับบลิวเอ จึงมุ่งมั่นผลักดันที่จะไม่เป็นเพียงแค่เอเจนซีโฆษณา ในยามที่เทคโนโลยีและองค์กรของเราสามารถสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าเราได้มากกว่าเพียงแค่การสื่อสารหรือการล่ารางวัลเพียงเท่านั้น”
ชัยประนิน ประธานบริหาร TBWA กล่าว

“ประเด็นที่องค์กรควรให้ความสำคัญสูงสุดในปัจจุบัน คือ ความพร้อมและความได้เปรียบเชิงแข่งขันขององค์กรในช่วงต้นปี 2022 เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นกลับมา และสิ่งที่จะมาสร้างความได้เปรียบได้ดีที่สุด คือ Precision Marketing หรือ การวิเคราะห์และวางกลยุทธ์การตลาดอย่างแม่นยำ เพราะเงื่อนไขทางธุรกิจต่าง ๆ ในปัจจุบันแทบไม่เหลือพื้นที่ให้ได้ก้าวพลาดอีกต่อไป Precision Marketing จะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่แค่การมีดาต้าอยู่ในมือ แต่คือการรู้ว่า ควรนำข้อมูลไหนไปใช้เพื่ออะไร และควรตั้งคำถามกับข้อมูลที่ได้มาอย่างไรเพื่อให้เกิด Disruptive Idea ผนวกเข้ากับกระแสสังคม (หรือพฤติกรรมผู้บริโภค) ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนำมาวางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจให้เกิดขึ้น”
ชาคริต เตชะนภารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

การผนึกกำลังระหว่าง Data + Creative

ด้าน วีรดิษ วิญญรัตน์ Chief Creative Officer บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด และ David วิชัย Adams Senior Strategic Planner บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำคัญของดาต้า เพื่อสร้างสรรค์งานที่ตอบโจทย์และสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้ลูกค้า โดยทั้งสองท่านมองว่า ทุกวันนี้ดาต้าได้เข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรมโฆษณาอย่างเห็นได้ชัด พวกเราทุกคนเริ่มเปลี่ยนจากอะไรอะไรก็ดิจิทัล มาเป็นอะไรอะไรก็ดาต้า ดาต้านั้นใหญ่มาก โดยเฉพาะบิ๊กดาต้าที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และสังคมเราก็มีดาต้าผลิตออกมามากมายให้เสพ แต่สุดท้ายแล้ว คุณแค่ต้องการดาต้าที่มีประโยชน์กับโจทย์ที่คุณกำลังทำ แค่หาให้เจอแล้วใช้ให้เป็นแต่นั่นคือพูดง่ายกว่าทำเยอะ

แต่ปัญหาของดาต้าคือ มันเป็นเรื่องเก่ามีมาเป็นไม่รู้กี่สิบปีแล้ว แต่วันนี้เรามีเครื่องมือที่จะมาช่วยจัดสรรดาต้าให้เหมาะสมกับเรื่องที่เราต้องการใช้ แต่ต่อให้คุณเลือกดาต้าได้ถูกและเหมาะสมที่สุด ดาต้าก็เป็นแค่ข้อมูลดิบ ไม่ได้มีความหมายอะไรในตัวมันเอง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า Dumb Ass Technical Assumptions ข้อมูล(เชิงลึก) ไว้อ้างอิงกับลูกค้าให้ดูฉลาด แต่ที่ ทีบีดับบลิวเอ ประเทศไทย เรามีแหล่งข้อมูลและเครื่องมือของเราที่ได้มาและพัฒนาขึ้นเองด้วย แหล่งข้อมูลมาจาก 4 แหล่ง คือ 1.ข้อมูล 1st party ที่ได้จากลูกค้าหรือผู้ใช้โดยตรง 2.ข้อมูล 2nd party จากแหล่งตัวกลางที่ต้องซื้อ (paid data) 3.ข้อมูล 3rd party จากแหล่งตัวกลางต่าง ๆ (free data) และ 4. แหล่งข้อมูลของทีบีดับบลิวเอ เอง

ในขณะเดียวกัน ดาต้า ก็จะไม่มีความหมาย ถ้าไม่ถูกมองควบคู่ไปกับกระแสและปัจจัยด้านสังคม (culture) ดังนั้น ทีบีดับบลิวเอ จึงไม่ได้มีแค่ศูนย์รวมดาต้า แต่เรายังมี Cultural Tools หรือเครื่องมือจัดเก็บและวิเคราะห์กระแสและปัจจัยของสังคมด้วย มันคงน่าเสียดายถ้าการมีเครื่องมือเหล่านี้ทั้งดาต้าและสังคมแล้ว เรายังทำได้แค่โฆษณาสวย ๆ ไม่ว่าจะฉลาดหรือได้รางวัลแค่ไหนก็ตาม ฉะนั้น ทุกวันนี้เราต้องมองไปถึง Creative Solutions เพื่อการเติบโตของทุกธุรกิจได้แล้ว

“การที่เราจะเป็นองค์กรที่มุ่งหา Creative Solutions ให้ทุกธุรกิจ เราต้องเอาดาต้ามาทำให้กระแสและปัจจัยด้านสังคมแม่นยำขึ้น ในขณะเดียวกันต้องให้ชีวิตชีวากับดาต้าโดยการใส่ปัจจัยของสังคมเข้าไป เราถึงจำเป็นที่ต้องสรรหาผู้เชี่ยวชาญด้านดาต้ามาทำงานควบคู่ไปกับ Creative ไม่ใช่ระบบทำงานแบบเก่าที่ทำกันแบบเป็นขั้นเป็นตอน นี่แหละหัวใจของรูปแบบใหม่ นี่จึงเป็นแนวทางที่ทีบีดับบลิวเอ จะปรับทิศเอเจนซีโฆษณาแบบเดิม ไปสู่เอเจนซีที่ช่วยคิดค้นโซลูชันการเติบโตให้แก่ธุรกิจ ช่วยให้ลูกค้าของเรามีโอกาสมากขึ้นในอนาคต”

ทั้งนี้ จากประโยคที่เกริ่นมาตอนต้น ที่กล่าวว่า ใครจะอยากเป็นแค่ เอเจนซีโฆษณา Who wants to be… Advertising Agency? คำพูดของ Lee Clow ประธานของบริษัท ที่ให้ไว้ตั้งแต่สมัยเริ่มต้นของยุคอินเทอร์เน็ตเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว และตอกย้ำวัฒนธรรม Disruption ของทีบีดับบลิวเอ มาอย่างต่อเนื่อง

“วันนี้ ทีบีดับบลิวเอ ไม่ใช่ Advertising Agency อีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้เราจะเป็น Creative Growth Agency องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย Data และ Culture เพื่อให้ลูกค้าของเราแม่นยำมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และรวดเร็วมากกว่าคู่แข่งในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ไร้ความปราณีและช่วงวิกฤติที่เลวร้าย ดีเอ็นเอของทีบีดับบลิวเอ คือ การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างและทรงพลัง (Disruptive Change) การพัฒนานวัตกรรม (Innovation) และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) เพื่อค้นหาโซลูชั่นที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เราเชื่อว่าคุณค่าที่แท้จริงของเอเจนซี คือ การใช้ความรู้ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโต และมั่นใจว่าการปรับองค์กรครั้งนี้ จะทำให้เรามีโอกาสช่วยทุกกลุ่มธุรกิจที่ต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นปีนี้ พร้อมรับปี 2022 ที่สดใสกว่าเดิม” นายชัยประนิน กล่าวสรุป