ทำไมเวลาที่นึกถึงความเป็นไทยจะต้องเรียกว่า “ต้มยำกุ้ง” ?
หนังดังโกอินเตอร์ก็ชื่อ “ต้มยำกุ้ง” วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 40 ก็เรียก “ต้มยำกุ้ง”
นั่นเพราะรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่ว่าชาติไหนถ้ามีโอกาสได้ลิ้มลองจะต้องติดใจใน “ต้มยำกุ้ง” และแม้กระทั่งคนไทยเองไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีๆ ก็ยังหลงรักในรสชาติแซ่บๆ ของ “ต้มยำกุ้ง”
สิ่งนี้เองจึงเป็นที่มาของเมนู “ต้มยำกุ้ง” ซึ่งได้ไปโผล่อยู่ตามร้านอาหารทั่วทุกแห่งของประเทศ เพราะไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติก็คุ้นเคยและรู้ดีถึงรสชาติแซ่บอร่อยลิ้นของเมนูเลื่องชื่อนี้
เช่นเดียวกับแบรนด์ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติชื่อดังอย่าง Hot Pot ที่แม้จะมีเคยทำเมนูออกมามากมายแค่ไหน แต่สุดท้ายต้มยำกุ้งก็เป็นไม้เด็ดสำคัญที่ทำลูกค้าติดใจอยู่เสมอ และไม่ใช่ต้มยำกุ้งธรรมดาแต่เพิ่มความพิเศษด้วยการเป็น “ซุปต้มยำกุ้ง” แบบ #มันกุ้งเน้น
สำหรับแคมเปญเมนู “ต้มยำมันกุ้ง” #มันกุ้งเน้น หอมมันกุ้ง ตำรับชาววัง ซึ่งเริ่มไปตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากลูกค้า ซึ่งจนถึงวันนี้ใครไปก็ต้องถามหาซุปต้มยำมันกุ้งกันแทบทั้งนั้น
ทั้งนี้ นอกจากรสชาติที่เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้บริโภคแล้ว ในแง่ของการตลาด Hot Pot ก็ยังผลักดันแคมเปญผ่านวิดีโอคลิปด้วย เนื่องจากการทำงานผ่านสื่อออนไลน์ในปัจจุบันได้รับความความนิยมมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น Hot Pot จึงทำชิ้นงานโฆษณาออกมาถึง 2 รูปแบบด้วยกัน
งานสร้าง Awareness
งานชิ้นนี้เริ่มต้นจากการตั้งคำถามกับคอนซูเมอร์ก่อนว่า “อาหารไทย อะไรแซ่บ?” ซึ่งก็มีชื่อเมนูต่างๆ ออกมามากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารไทยที่รสชาติอร่อยแซ่บทั้งนั้น แต่แน่นอนว่าที่ยอดนิยมที่สุดก็คือ “ต้มยำกุ้ง”
อาหารไทย อะไรแซ่บ?
งานชิ้นนี้เป็นงานในลักษณะของการสร้าง awareness ให้เกิดขึ้นก่อน ว่าอยากจะให้ผู้บริโภคนึกถึงเมนูอาหารที่ขึ้นชื่อของไทยและยังเป็นที่นิยมที่สุดด้วย ซึ่งก็คือ “ต้มยำกุ้ง” โดยที่ยังไม่เน้นการขายของมากนัก เพียงแค่ใส่แบรนด์ตบลงไปในช่วงท้าย เป็นการชงให้ผู้บริโภคนึกถึงเมนูนี้ก่อนที่จะจบลงว่าถ้าอยากกินก็ต้องไป Hot Pot ปิด gap ความต้องการสั้นๆ ง่ายๆ แต่ส่งต่อความรู้สึกได้ดี
งาน Promote
ใครว่างานโฆษณาเพื่อ Promote เป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่แค่เซลล์ๆ ขายๆ แล้วจบ แต่ปัจจุบันด้วยความที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ดังนั้น งาน Promote จึงต้องทำให้น่าสนใจมากขึ้น และจะต้องเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้ด้วย ดังนั้น งาน Promote จึงต้องทำอย่างมีศิลปะด้วย ดังเช่นงานชิ้นนี้
Hot Pot Buffet “เทศกาลต้มยำมันกุ้ง”
งานชิ้นนี้ค่อนข้างแตกต่างจากงานชิ้นแรกที่ยังแค่สร้าง awareness แต่งานนี้ชิ้นเป็นงานลักษณะเซลล์เต็มตัว แต่อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่าผ่านรูปแบบการนำเสนอที่มีศิลปะ มีความเป็นไทย สร้างให้เกิดความน่าสนใจผ่านตัวละครในชุดไทยที่ออกแนว fusion เพื่อให้มีความเก๋และทันสมัย ตบท้ายด้วยภาพอาหารต้มยำมันกุ้ง ที่แม้ว่าสื่อวิดีโอจะนำเสนอได้แค่รูปและเสียง แต่แค่เห็นภาพทำไมน้ำลายมันสอออกมาตั้งแต่เห็นควันเลยทีเดียว
ผลงานทั้งสองชิ้นรับส่งกันอย่างดี ช่วยผลักดันให้แคมเปญ Hot Pot ต้มยำมันกุ้ง น่าสนใจมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลงานสร้างสรรค์ของเอเจนซี่มือดีอย่าง Pegasus creative Co., Ltd. ที่ต้องขอยกนิ้วให้กับไอเดียทั้งสองชิ้นเลย
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ในยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการต่างๆ ก็จำเป็นที่จะต้องงัดทุกกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีเพื่อนำมาใช้ให้สู้กับตลาดที่แข่งขันกันดอย่างดุเดือดนี้ให้ได้ แบรนด์ประเภทร้านอาหารก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีกลยุทธ์ทางการตลาดโดยเฉพาะการใช้สื่อเข้ามาเป็นอาวุธในการโรมรันเช่นกัน ดังนั้น กับแคมเปญต้มยำมันกุ้งของ Hot Pot เชื่อว่าคงจะไม่ใช่ไม้เด็ดไม้สุดท้ายที่มีอย่างแน่นอน นับจากนี้คงจะไม่พลาดที่จะเกาะติดความเคลื่อนไหวจากแบรนด์ร้านอาหารเจ้าอื่นแล้ว ว่าจะยอมให้ Hot Pot ขยับตัวแซงอีกหรือไม่
