นักการตลาดและเอเจนซี่เผยคอนเท้นต์ยังคงสำคัญ แต่สื่อต้องตอบโจทย์ผู้ชมได้

  • 333
  •  
  •  
  •  
  •  

Expert-All-Future-Advertising-on-Social-Media-Will-Be-Native-In-Stream-Ads1

ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็มีมากขึ้นที่ไม่ใช่มีเพียงแค่สมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว ซึ่งแต่ละ Device สามารถเข้าถึงตัวกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงกลุ่ม แต่ถึงกระนั้นคอนเท้นต์ก็ยังเป็นส่วนสำคัญในการที่จะช่วยให้โฆษณาเป็นที่สนใจของกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงผลตอบรับที่ได้จากการโฆษณาผ่านช่องทางส่วนบุคคล

โดย กรุ๊ปเอ็ม เทรดดิ้ง พาร์ทเนอร์ได้จัดงาน “NextM Prepare for what is next” จะเป็นการเสวนาถึงอนาคตของสื่อในประเทศไทยกับพฤติกรรมผู้บริโภคในการเปิดรับสื่อแบบออนไลน์ และการปรับตัวของนักการตลาดและเอเจนซี่ที่จะต้องรับมือกับสื่อใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ทีวี วิทยุและหนังสือพิมพ์อีกต่อไป

2 เรตติ้ง เครื่องมือวัดค่าที่ตอบโจทย์สื่อ

การวัดเรตติ้งในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีเป็นการวัดผลโดยใช้วิธีทำแบบสอบถาม ซึ่งบริษัทที่ดำเนินการวัดผลที่เรารู้จักกันดีคือ บริษัท เอจีบี นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่เรียกกันว่า Nielsen โดยปีที่ผ่านมานอกจากจะเพิ่มจำนวนกลุ่มตัวอย่างในการตรวจวัดแล้วยังได้ขยายขอบข่ายการวัดไปยังกลุ่มออนไลน์อีกด้วย

Malay

แต่ก็มีอีกระบบที่เข้ามาวัดผลเรตติ้งซึ่งน่าจับตามองนั่นก็คือ บริษัท กันตาร์มีเดีย จำกัด หรือ MRDA ให้ดำเนินการสำรวจความนิยม ในทุกๆ แพลตฟอร์มหรือเรียกว่า มัลติสกรีนเรตติ้ง (Multi-Screen Rating) ครอบคลุมทุกกลุ่ม Device ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์, สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์และแท็ปเล็ต เป็นต้น ในปี 2560 ซึ่งการมีบริษัทวัดผลเรตติ้ง 2 บริษัท ซึ่งจะทำให้เกิดการวัดเรตติ้ง 2 ระบบ (Dual-Panel Measurement) แน่นอนว่าอาจจะกระทบต่อผลวิจัย

Circle

โดยผลจากการสำรวจในสหรัฐฯ พบว่า ผู้ชมที่รายการออกกากาศสดนั้นมีเพียง 1 ใน 3 ของผู้ชมทั้งหมด ขณะที่ 2 ใน 3 เลือกชมรายการแบบย้อนหลัง On Demand ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะใช้ Device ทุกชนิด รวมไปถึงทีวีรุ่นใหม่ที่มีการบันทึกรายการเพื่อชมย้อนหลังได้ ซึ่งการวัดผลแบบใหม่จะช่วยให้เข้าใจพฤติการรการรับสื่อได้มากขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยีใหม่ยังช่วยให้สามารถวัดเรตติ้งได้อย่างแม่นยำ โดย Set Top Box บางรุ่นสามารถสื่อสารได้ 2 ทางเพื่อทำให้ทราบแบบ Realtime ว่าผ็ชมกำลังดูรายการอะไร ช่วงเวลาใด

Bar

5 เทรนด์ที่ต้องจับตามองในแวดวงการตลาด

ในปี 2560 นั้นถือเป้นความท้าทายอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสื่อ เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสามารถเข้าถึงตัวกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ยิ่งส่งผลให้นักการตลาดไม่สามารถทำการตลาดแบบครอบคลุมหรือหว่านแหได้อย่างเด็ดขาด ในทางตรงกันข้ามนักการตลาดจำเป้นต้องคิดแผนการตลาดให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลเป็นรายๆ ไป ซึ่งเทคโนโลยีสามรถช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดี

สำหรับเทรนด์แรกที่นักการตลาดต้องจับตามอง คือ เรื่องของ Cross-Channel Targeting เพราะกลุ่มเป้าหมายมีเทคโนโลยีอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นทีวี, สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ค เป็นต้น นักการตลาดจึงต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเพิ่อค้นหาช่องทางการสื่อสารมีศักยภาพสูงสุด และต้องครอบคลุมทั้งสื่อ Online, Offline และ In-Store โดยการใช้ข้อมูลทุกอย่างที่มีในการประมวลถึงพฤติกรรมแบบ Personalization และสามารถตอบสนองความต้องการหรือความคาดหวังของกลุ่มเป้าหมายแต่ละคน

smartphone-and-tablet-apps

ส่วนเทรนด์ต่อมาเป็นที่ทราบกันดีว่า คอนเท้นต์ที่เป็นวิดีโอได้รับการตอบรับที่ดี แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาทำให้วิดีโอไม่ใช่คอนเท้นต์ที่ได้รับการตอบรับดีที่สุด หากแต่เป็นคอนเท้นต์ในรูปแบบ Live VDO ซึ่งหลายแบรนด์ได้นำ Live VDO มาใช้ถ่ายทอดสดการเปิดตัวสินค้าใหม่ การสาธิตวิธีการใช้สินค้า งานอีเว้นท์และบริการของแบรนด์ ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการสื่อสาร 2 ทางกับผู้บริโภค สามารถตอบข้อสงสัย สร้างความสัมพันธ์ หรือดูผลตอบรับของผู้บริโภคได้ในทันที นอกจากนี้ Live VDO ยังนิยมนำดาราหรือผู้มีชื่อเสียงมาเป็นตัวหลักเพื่อให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ยังมีข้อมูลว่าผู้ชมในปัจจุบันนิยมเสพกระบวนการ เช่น ขั้นตอนการแต่งหน้า ขั้นตอนการทำอาหาร เป็นต้น

maxresdefault

Content Leads ยังคงเป็นเทนด์ 1 ใน 5 ที่นักการตลาดต้องรับรู้ เนื่องจากสื่อที่หลากหลายการสื่อสารให้ประสบความสำเร็จจึงอยู่ที่คอนเทนต์ที่น่าสนใจ ซึ่งแบรนด์จะต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคโดยการสร้างสรรค์และพัฒนาคอนเทนต์ในรูปแบบ Tailor Made ให้เหมาะสมกับสื่อแต่ละรูปแบบ โดยมีแนวโน้มอย่างมากที่คอนเทนต์จากทีวีจะถูกนำเข้าสู่ระบบออนไลน์ เช่น การผลิตรายการเพื่อออกอากาศทาง LINE TV เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อออกมารองรับคอนเท้นต์อย่างกีฬา หือการถ่ายทอดสดอย่าง Netflix เป็นต้น

การเติบโตของธุรกิจ Online Shopping ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็น 1 เทรนด์ที่น่าจับตามอง ซึ่งการพัฒนาการของสมาร์ทโฟน, โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและความแพร่หลายของโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ที่สำคัญผู้บริโภคยังสามารถหาข้อมูลสินค้าจากในอินเตอร์เน็ตก่อนตัดสินใจซื้อได้อีกด้วย ทำให้ห้างร้านส่วนใหญ่หันมาเปิดช่องทางออนไลน์เพื่อการค้าและมีธุรกิจบริการใหม่ๆ ที่เกิดสืบเนื่องกัน เช่น แอพพลิเคชันในการสั่งอาหาร การรับส่งสินค้าต่างๆ เป็นต้น นักการตลาดจึงต้องบริหารงบประมาณและสื่อโฆษณาให้เข้าถึงผู้บริโภคทั้งกลุ่มที่ยังคงซื้อสินค้าในแบบเดิมและกลุ่มที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ ประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะจะทำให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเทรนด์สุดท้ายจะขยับออกไปนอกตัวเมือง ซึ่งในต่างจังหวัดยังคงมีกำลังซื้ออยู่มากมาย เพียงแต่สื่อบางอย่างคนต่างจังหวัดก็เข้าไม่ถึง หรือไม่กล้าเข้าไปรับสื่อใหม่ๆ เทรนด์ Local Touchpoint จึงเป็นเทรนด์ที่มีความท้าทาย เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคอยู่เขตนอกเมืองและส่วนมากกลุ่มผู้ใหญ่ที่เปิดรับสื่อน้อยกว่าผู้บริโภคในเขตเมือง ที่สำคัญยังคงเคยชินกับวิถีชีวิตแบบเดิมอยู่ การเข้าผู้บริโภคกลุ่มนี้จุงจำเป็นต้องใช้สื่อท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป เช่น บางพื้นที่ต้องใช้รถสองแถวติดเครื่องเสียงเพื่อกระจายข่าวสารข้อมูล เป็นต้น นอกจากนี้การใกล้ชิดกับผู้บริโภคก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งภาษาที่ใช้ในการสื่อสารก็เป็นประเด็นสำคัญที่นีนักการตลาดไม่ควรมองข้าม

carad6-2

LINE TV สื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ

เมื่อกล่าวถึงสื่อออนไลน์อาจจะยังกล่าวได้ว่า สื่อออนไลน์แท้ๆ เพียวๆ มีเพียงไม่กี่ค่าย ซึ่ง LINE TV เป็นหนึ่งในนั้นที่มีความน่าสนใจ เนื่องจาก LINE TV สามารถกระจายข่าวสารผ่านแอพพลิเคชั่นแชทของ LINE เองได้ ซึ่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะได้ทันที กระนั้นทาง LINE ก็ยังจำเป็นต้องหาคอนเท้นต์ที่สามารถตอบสนองความต้องการที่ LINE ชี้ลงไปว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของ LINE TV คือกลุ่มคนวัย 15-30 ปีที่มีสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่ง ขณะที่กลุ่มผู้ชมวัย 30-40 ปีมีเพียง 30% โดยเป็นเพศหญิง 60% และเพศชาย 40% โดย LINE TV เปิดให้บริการมาแล้ว 3 ปี

20170208_113918

Content ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคในปัจจุบัน นั่คือสิ่งที่ LINE เชื่อว่าสื่อทุกสื่อมีศักยภาพใกล้เคียงกัน แต่การจะสร้างความแตกต่างคือคอนเท้นต์ จึงมีการนำเสนอรายการที่สดใหม่จากทั่วทุกมุมโลกผ่าน Platform LINE TV โดยเฉพาะคอนเท้นต์ในรูปแบบ Exclusive ไม่ว่าจะเป็นการ Co-Production หรือการออกอากาศรายการในทีวหลังออกอากาศไปแล้ว 2 ชม.เท่านั้น คอนเท้นต์เหล่านั้นต้องสามารถใช้งานได้ทุกๆ Device ซึ่งทาง LINE มองว่า คอนเท้นต์ที่ไม่สามารถปรากฎบนทีวีทั่วไปได้ จะสามารถรับชมได้บน LINE TV
Copyright © MarketingOops.com


  • 333
  •  
  •  
  •  
  •