Egg Digital เติบโต 30% ประกาศรีเฟรช แบรนด์พร้อมลุย Big Data, MarTech, AI, ML ปี 2567 แบบ 720 องศา

  • 5
  •  
  •  
  •  
  •  

 

เอ้ก ดิจิทัล เผยผลการดำเนินงาน 10 เดือน มีรายได้เติบโต 30% พร้อมลุยตลาดบิ๊กดาต้าและมาร์เทคปี 2567 ประกาศรีเฟรช แบรนด์ ก้าวสู่วิสัยทัศน์ที่เน้นการประสานพลังดาต้าร่วมกับเทคโนโลยี, AI, ML และ First Party Data แบบ 720 องศา ชูจุดแข็งวิเคราะห์อินไซต์ได้แม่นยำแล้วทรานส์ฟอร์มให้เป็นกลยุทธ์และแผนการตลาดที่เหนือชั้น ช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับลูกค้าด้วยบริการภายใต้ 3 บิสสิเนสยูนิต (BU) ทั้งด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก สื่อโฆษณาครบวงจร และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยทุกองค์กรเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เพิ่มศักยภาพ และความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจรอบด้าน เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย บริหารความเสี่ยง รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ

 

ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด

 

ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของเอ้ก ดิจิทัล โดยระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมเติบโต 30% ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่โดดเด่นของทั้ง 3 บียู ได้แก่ ธุรกิจ Business Analytics & Development ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media และธุรกิจ Platform & Media Solutions และเพื่อเตรียมรุกตลาดในปี 2567 บริษัทฯ ได้รีเฟรช แบรนด์ ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ “To Catalyse Exponential Growth With The Power of Collaboration, Data and Technology” ที่มุ่งนำเสนอความเป็นเลิศให้กับลูกค้าด้วยการก้าวข้ามทุกข้อจำกัด พร้อมสร้างนิยามใหม่ของ Data-Driven Landscape ด้วยการผสานพลัง AI, ML และ First Party Data แบบ 720 องศาพร้อมด้วยบริการแบบ End-to-End Ecosystem”

“การทำงานภายใต้แบรนดิ้งใหม่นี้ บริษัทฯ ได้วางแนวทางการดำเนินงานอยู่ 2 ประการ คือ 1. เพิ่มศักยภาพของทุกธุรกิจด้วย AI เพราะการวิเคราะห์ AI คือ รากฐานสำคัญเพื่อใช้ในการพยากรณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมและพฤติกรรมผู้บริโภค อีกทั้งการวางกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจวางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำและก้าวนำคู่แข่งในตลาดอยู่เสมอ และ 2. นำเสนอนวัตกรรมสู่อุตสาหกรรม บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการปลูกฝังค่านิยมในการทำงานที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าและอุตสาหกรรม”

โดยทั้ง 3 บียูจะมีบทบาทสำคัญในการนำบิ๊กดาต้า, AI, และ ML มาช่วยทรานส์ฟอร์มให้เป็นกลยุทธ์และแผนการตลาดที่จะช่วยสร้างอิมแพคให้กับธุรกิจของลูกค้า อาทิ ธุรกิจ Business Analytics & Development ปลดล็อกศักยภาพการดำเนินงานและวางแนวทางกลยุทธ์และกิจกรรมขับเคลื่อนธุรกิจที่ชัดเจนให้กับลูกค้า โดยยังคงเจาะไปที่ลูกค้าใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นหลัก, ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media เน้นนำเสนอแผนการใช้สื่อโฆษณาครบวงจรที่มอบประสบการณ์แบบ Immersive Experience ให้กับผู้บริโภค สร้างการรับรู้และปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์สินค้ากับผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ ทั้งช่องทางออฟไลน์ ออนไลน์ และ Omnichannel และธุรกิจ Platform & Media Solutions เดินหน้ายกระดับการวางกลยุทธ์ด้าน CRM มีเดียและดิจิทัลโซลูชันให้ตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาดมากยิ่งขึ้น วางแผนและเชื่อมต่อการทำการตลาดและ CRM บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ต่อเนื่องให้ผู้บริโภค พัฒนาการเข้าถึงผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับลูกค้า

 

นายวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Business Analytics & Development บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด

 

นายวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Business Analytics & Development บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจ Business Analytics & Development สามารถสร้างการเติบโตได้เกินเป้าหมาย โดยคว้าลูกค้าใหม่มาได้กว่า 20 แบรนด์ ด้วยศักยภาพของบริการBusiness Analytics as a Service – Powered by AI Engine ที่เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจให้กับลูกค้า ทั้งช่วยเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยง ซึ่งในปี 2567 เรายังคงมุ่งโฟกัสไปที่ธุรกิจใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ค้าปลีก ธุรกิจสื่อ การเงิน ประกันฯ และยานยนต์ โดยคาดการณ์ว่า ความต้องการบริการด้านวิเคราะห์ดาต้าเชิงลึกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ เริ่มเห็นถึงข้อได้เปรียบของการใช้ดาต้าเชิงลึกมาเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจกันมากขึ้น บริษัทฯ จึงต้องเร่งสร้าง Use Cases ที่ตรงจุดและเฉพาะเจาะจงในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการของเอ้ก ดิจิทัล สามารถเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย สร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ด้านการวิเคราะห์ใหม่ ๆ หลากหลายรูปแบบจากการผสานความเข้าใจเชิงลึกด้านธุรกิจ (Business Expertise), ด้านเทคนิค (Data Science – AI, ML), การจัดการข้อมูล (Data Engineer), และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Mega Data – 360, 720) ให้กับลูกค้า เราวางแผนจะขยายกลุ่มเป้าหมายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยปีหน้าจะเริ่มรุกกลุ่มธุรกิจในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสานเป็นตลาดพื้นที่แรก เนื่องจากธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงของประเทศทั้งเชิงยุทธศาสตร์ ศักยภาพการเติบโต และสัดส่วนจำนวนประชากร รวมถึงต่อยอดธุรกิจในมาเลเซียให้สอดคล้องกับสภาพตลาดแนวโน้มในประเทศ รวมถึงโมเดลทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะสามารถเป็นรากฐานในการขยายบริการไปยังประเทศต่าง ๆ ตามแผนต่อไป”

 

นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด

 

นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เรากระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ทุกไตรมาส โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือ บริการสื่อนอกบ้าน หรือ Shoppers’ Digital Screen และเน้นนำเสนอบริการสื่อโฆษณาแบบ O2O2O (Online to Out-of-Home to On-Shelf) โดยเอ้ก ดิจิทัล เป็นรายแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ใช้บิ๊กดาต้า, AI, ML และ Intelligent O2O2O Media Solution มาผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนบิ๊กดาต้าเป็นข้อมูลเชิงลึก
วางกลยุทธ์การสื่อสาร สร้างสรรค์ครีเอทีฟดีไซน์ และคอนเทนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งเราสามารถช่วยแบรนด์ต่าง ๆ ขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขาย โปรโมทสินค้า ฯลฯ ผ่านการสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอตลอดเส้นทาง ตั้งแต่สร้างการรับรู้ กระตุ้นการมีส่วนร่วม และการตอบสนองไปจนถึงปิดการขาย ส่งผลให้เราสามารถเพิ่มปริมาณการใช้สื่อและคว้าลูกค้าใหม่ได้ถึง 37 แบรนด์ จากที่มีฐานลูกค้าเดิมกว่า 200 แบรนด์ รวมถึงตอกย้ำความสำเร็จในการจัดแคมเปญการตลาดให้ลูกค้าด้วยการคว้ารางวัลที่ 1 Gold Award ความเป็นเลิศด้านการตลาดระดับ Gold ในประเภท Excellence in Omnichannel จากเวที Marketing Excellence Awards 2023 สำหรับแนวโน้มตลาดในปี 2567 มีความท้าทายที่การใช้สื่อโฆษณาจะไม่ใช่แค่การสร้างการรับรู้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างการตอบสนองต่อโฆษณาและการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ไปพร้อมกัน เพื่อช่วยเจ้าของแบรนด์ปิดการขาย ณ จุดขายได้ จึงเชื่อว่าการเชื่อมระหว่างสื่อ Personalized Online กับสื่อ On-Shelf และกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่สาขาจะเข้ามามีบทบาทและกระตุ้นการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงจะคว้าโอกาสทางธุรกิจนี้ด้วยการขยายพื้นที่และแพลตฟอร์มสื่อ พร้อมผนวกบิ๊กดาต้าใหม่เข้าไปในกระบวนการดำเนินงาน เพื่อเจาะลึกอินไซต์ผู้บริโภคได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมช่วยแบรนด์ให้เข้าถึง Omni-Customers ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

 

นางสาวรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Platform & Media Solutions บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด

 

นางสาวรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Platform & Media Solutions บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้เรารุกเจาะตลาดอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ๆ ด้วยจุดเด่นของบริการด้านแพลตฟอร์มและดิจิทัลโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเราสามารถขยายฐานไปยังอุตสาหกรรมการแพทย์และสถานเสริมสวยความงาม Residential SME พลังงาน แฟชั่น การท่องเที่ยว และหน่วยงานภาครัฐ โดยคว้าลูกค้าใหม่มาได้กว่า 100 แบรนด์ ซึ่ง 3 บริการที่ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้า คือ 1. LINE Media & Solutions Partner (CRM & BI platform) 2. Creative, Content & Media Solutions 3. Mobile Marketing & Analytics SMS เนื่องจากผู้บริโภคในยุคดิจิทัลใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และมีการใช้หลากหลายแพลตฟอร์ม โดยพบว่า ผู้บริโภคใช้เวลาบนโซเขียลมีเดียประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน ดังนั้นในปีหน้าเราจะมุ่งขยายบริการใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่มีไลฟ์สไตล์อยู่บนโลกโซเชียลมีเดียได้มากขึ้น รวมถึงใช้ดาต้า, AI และ ML ในการสร้างกิจกรรมสื่อสารการตลาดแบบ Hyper Personalized Marketing เพื่อช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัลจะเห็นว่า ทุกองค์กรต่างมุ่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะ 5 ด้านสำคัญอย่าง ด้านดิจิทัลและนวัตกรรม ด้านการบริหารบุคลากรและองค์กร ด้านการปฏิบัติการ ด้านการวางกลยุทธ์ และการเงินองค์กร รวมถึงด้านความยั่งยืน โดย AI และ Supervised Machine Learning เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมนำมาปรับใช้เพื่อยกระดับองค์กรสู่ดิจิทัล ซึ่งแนวทางการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ สอดคล้องกับความมุ่งหมายของเอ้ก ดิจิทัล ที่ต้องการใช้จุดแข็งในการมีบิ๊กดาต้า เทคโนโลยีขั้นสูงทั้ง AI, ML, Blockchain, แพลตฟอร์มสื่อครบวงจร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญมาผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อนำเสนอโซลูชันและบริการที่ตอบสองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละธุรกิจ บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าเราจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ลดอัตราการสูญเสียลูกค้า ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าและมาร์เทคไทยให้เติบโตไปพร้อมกัน” ดร. ธีรเดช กล่าวทิ้งท้าย


  • 5
  •  
  •  
  •  
  •