ตามที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 มีความคิดที่จะจัดตั้ง “ชมรมตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ (ประเทศไทย)” และประกาศจะดำเนินการตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ (เซ็นเซอร์หนังโฆษณา) ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ทั้งที่มีตารางการเซ็นเซอร์โดยคณะกรรมการตรวจพิจารณาเดิมในวันดังกล่าวอยู่แล้ว และยังไม่ได้มีการแจ้งให้สมาคมโฆษณาฯ ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน รวมทั้งแจ้งแก่ผู้เกี่ยวข้องฝ่ายอื่นๆ ได้รับทราบ ทำให้ทาง สมาคมโฆษณาฯ ตัวแทนช่อง 3, 9 และคณะกรรมการเซ็นเซอร์เดิม ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อขอความชัดเจน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน อ่อนอุษา ลำเลียงพล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศ เป็นตัวแทนของคณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ ซึ่งประกอบไปด้วย สมาคมโฆษณาฯ สมาพันธ์สมาคมวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ประเทศไทย) แถลงเรียกร้องขอความชัดเจนจากกรณีที่ ช่อง 5 และ ช่อง 7 เตรียมที่จะจัดตั้ง “ชมรมตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ (ประเทศไทย)” และประกาศที่จะมีการตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ด้วย ทั้งที่มีตารางการเซ็นเซอร์โดยคณะกรรมการตรวจพิจารณาชุดเดิม ซึ่งทำงานร่วมกันมา 23 ปีแล้ว โดยการจัดตั้งชมรมฯ ก็ยังไม่ได้แจ้งแกทางสมาคมโฆษณาฯ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานให้รับทราบ รวมทั้งแจ้งแก่ฝ่ายอื่นๆ ด้วย
จึงตั้งข้อสังเกตว่า การปฏิบัติดังกล่าวขัดแย้งกับข้อตกลง (MOU) ที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องรวมถึงสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลไม่ร่วมกันลงนามไว้ ร่วมกับองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาอีก 10 องค์กร เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 โดยยึดหลักการที่ว่าประเทศไทยควรมีช่องทางตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ เพียง 1 ช่องทาง เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานการตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ และเพื่อรองรับการมีส่วนร่วมของสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล และตอกย้ำเรื่องของการกำกับดูแลตนเองของวิชาชีพโฆษณา
แต่การแยกกันจัดตั้งคณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ (เซ็นเซอร์) จากเดิมที่มีเพียงแค่หนึ่งหน่วยงาน จะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างมากต่อผู้ประกอบธุรกิจโฆษณาโดยรวมเนื่องจากจะเกิดความเป็นสองมาตรฐานในการตรวจพิจารณา ผู้โฆษณาเจ้าของสินค้าต่างๆ และเอเยนซี่ จะเกิดความสับสน สิ้นเปลืองเวลา และค่าใช้จ่ายในการขออนุญาต
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำมีผลกระทบทำให้แบรนด์ เอเจนซี่ และผู้บริโภคเกิดความสับสน จะต้องมีถึง 2 องค์กรหรือ เป็นไปได้ไหมที่เราจะคิดกันเพื่อสังคม ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ เราได้ทำการติดต่อช่อง 5 และ ช่อง 7 ทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการแล้วแต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับแต่อย่างใด”
นอกจากนี้ อ่อนอุษา ยังระบุว่า หลังจากลงนาม MOU ก็มีการประชุมอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา แต่นับแต่การประชุมในครั้งที่ 2 ก็ไม่มีตัวแทนจากช่อง 5 และ ช่อง 7 อีก โดยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมประชุม รวมทั้งทราบว่าจะมีการจัดตั้งชมรมเซ็นเซอร์ขึ้นด้วย โดยไม่มีการเชิญตัวแทนช่อง 3,9 สมาคมโฆษณา และสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัลฯ เข้าร่วม
ทั้งนี้ อ่อนอุษา ยืนยันว่า ทางสมาคมโฆษณาฯ มีความเห็นว่า การจัดตั้งชมรมฯ ดังกล่าวไม่เป็นไปตาม MOU และผู้ริเริ่มจะต้องมีเหตุผลในการอธิบายให้ผู้ร่วมเซ็น MOU ได้รับทราบก่อนดำเนินการใดๆ อนึ่ง สมาคมโฆษณาฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ร่วมลงนามส่วนใหญ่ให้ทำหน้าที่ในการประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากทางสมาคมโฆษณาฯ มีความเป็นนกลางที่สุด เพราะเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและไม่มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ทางธุรกิจใดๆ
ดังนั้น ทางสมาคมจึงขอคำตอบและความชัดเจนจากช่อง 5 และช่อง 7 ในการจัดตั้ง “ชมรมตรวจพิจารณาภาพยนตร์โฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ (ประเทศไทย)” ซึ่งเป็นการซ้ำซ้อนกับการทำงานของคณกรรมการเดิมที่ทั้งช่อง 5 และช่อง 7 ได้มีส่วนร่วมมาโดยตลอด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความสับสน ความสิ้นเปลืองด้านเวลา ค่าใช้จ่าย และบุคลากร ที่จะเกิดขึ้นกับเอเจนซี่โฆษณาและลูกค้าที่เป็นผู้ลงทุนในการผลิตงานโฆษณา และที่สำคัญที่สุด คือเจตนารมณ์ของการเซ็นเซอร์ที่ต้องมีเพียงหนึ่งมาตรฐานเท่านั้น
หลังแถลงข่าว ทางตัวแทนมีเดีย เอเจนซี่ ซึ่งร่วมฟังด้วย ได้ลุกขึ้นขอความชัดเจนว่า นั่นหมายความว่าเวลามีงานโฆษณาที่จะต้องให้ตรวจสอบจะต้องทำ 2 ชุดเลยใช่หรือไม่ ในเมื่อตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมี 2 องค์กรเกิดขึ้นแล้ว เราต้องการความชัดเจนเพราะงานมีกำหนดในวันรุ่งขึ้นแล้ว
ตัวแทนช่อง 9 และช่อง 3 ระบุว่า อยากให้ทำความเข้าใจ ชิ้นงานโฆษณาที่ขึ้นนั้นจะเป็นความรับผิดชอบของแต่ละช่อง กรณีที่เกิดความเสียหาย ดังนั้น งานโฆษณาชิ้นใดที่ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดเดิม ซึ่งช่อง 9 มีส่วนร่วมด้วยนั้น เรายินดีที่จะให้ออนแอร์ทางช่องของเราได้ แต่หากไม่ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดนี้ เราขอสงวนสิทธิที่จะให้นำออกอากาศ แต่กรณีที่เอเจนซี่หรือแบรนด์ต้องการที่จะออกผ่านช่อง 5 และ 7 คิดว่าทางออกที่ดีที่สุดก็คือต้องผ่านมาตรฐานจากทางนั้นด้วย.
Copyright © MarketingOops.com