Brilliant & Million ดิจิทัลเอเจนซี่สัญชาติไทยที่ได้รับรางวัล Thailand Digital Agency of the Year จาก นิตยสาร Campaign Asia Pacific ถึง 3 ปีติดต่อกัน และล่าสุดยังคว้ารางวัล Thailand Independent Agency of the Year อยู่ในวงการงานโฆษณาบนสื่อดิจิทัลมาแล้วถึง 8 ปี มีผลงานออกมามากมายและเป็นที่วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกหลายแบรนด์
แต่ Brilliant & Million กลับเลือกที่จะอยู่อย่างเก็บตัว ไม่มีข่าวอะไรออกมาให้หวือหวามากนัก ทำให้คนในวงการได้ยินแต่ชื่อแต่ยังไม่เคยได้สัมผัสหรือรู้จักจริงๆ ซึ่งวันนี้ Marketing Oops! จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ คุณโศรดา ศรประสิทธิ์หรือ “พี่จุ๊” ผู้อยู่เบื้องหลังทุกความสำเร็จของ Brilliant & Million เอเจนซี่แห่งนี้กันเลย
จุดสตาร์ทของ Brilliant & Million
“คุณโศรดา ศรประสิทธิ์” หรือ “พี่จุ๊” ผู้ก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการบริษัท Brilliant & Million เล่าว่า เธอเริ่มจากการทำงานสายการตลาดทำให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ มาก่อน แล้วก็เริ่มมีความชอบในงานมาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปี 2551 ก็เริ่มเห็นว่าทิศทางของงานดิจิทัลเริ่มเติบโตมากขึ้น จึงได้ตัดสินใจออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง
จากจุดเริ่มต้นแค่เพียงคน 5 คน ก็ได้มีการต่อยอดธุรกิจมาเรื่อยๆ ซึ่งก็ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลากหลายแบรนด์ จนปัจจุบันมีพนักงานอยู่ประมาณ 100 คนแล้ว ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดที่รวดเร็วของเราในระยะเวลาแค่ 8 ปี
ลูกค้าและการให้บริการของ Brilliant & Million
ลูกค้าที่เราดูแลอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจประเภท FMCG ประมาณ 70% ส่วนอีก 30% ที่เหลือเป็น Banking และ Telecommunication ซึ่งส่วนใหญ่ทำสัญญากันเป็นปีทั้งหมด
สำหรับการบริการของเรานั้นจะเป็นแบบทำงานร่วมไปกับลูกค้าตลอดเวลา โดยหลักๆ เราจะดูแลในส่วนของดิจิทัล เช่น ทำงานร่วมกับ customer service, crisis management และยังมีงานด้านแคมเปญอื่นๆ หรืองานอีเว้นท์ อาจจะด้วยความที่ทีมงาน เป็นคนรุ่นใหม่หมด จึงชอบท้าทายตัวเองด้วยการลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว เราได้ปรับตัวเองให้เป็น Integrated servicesซึ่ง ถือเป็นการพัฒนาและปรับตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ทีมงานหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรง กับการปลูกฝังเรื่องจริยธรรมและวินัย
แม้จะมีพนักงานกว่า 100 คน แต่อายุโดยเฉลี่ยกลับอยู่ที่ 25 ปีเท่านั้น ซึ่ง “พี่จุ๊” ได้เล่าถึงแรงผลักดันที่สำคัญ ที่ได้คัดเลือกแต่ทีมเด็กรุ่นใหม่เสียส่วนใหญ่ มากกว่าที่จะใช้วิธีดึงคนเก่งมีฝีมือมากประสบการณ์มาร่วมงานด้วย โดยไอเดียเริ่มต้น จากการที่มองเด็กๆ แล้วมีความรู้สึกว่าเราอยากเอาประสบการณ์เอาความรู้ที่มีมาสอนพวกเขา
พี่จุ๊ เผยว่า ส่วนตัวแล้วต้องการให้กับสังคมได้บ้าง เพราะเด็กจบใหม่ก็เหมือนไม้หนึ่งที่สามารถปลูกฝังทั้งในด้านจริยธรรมและวิธีคิด Thinking Framework ให้ได้ง่ายกว่า เพราะว่าเราไม่ได้สอนเขาแค่เนื้องานหรือให้ทำงานตามหน้าที่เท่านั้น แต่ยังเน้นเรื่องการสอน “จริยธรรม” เพราะว่าการทำงานดิจิทัล เอเจนซี่ มันเป็นอะไรที่โกงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง data หรือ stat อีกเรื่องคือ เรื่องการทำงานเป็นทีม งานเอเจนซี่นี่ไม่มีงานไหนเลยที่ทำคนเดียว เราควรนึกถึงการทำงานร่วมกับคนอื่นให้มาก
เคล็ดลับในการทำงานกับกลุ่มคน Millennial
แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น “พี่จุ๊” เล่าว่า ก็มีบ้างที่บางคนอาจจะรู้สึกไม่พอใจกับแนวทางของเรา เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอ่านใจเขาให้ออก อย่างเวลาที่จะดุก็ต้องดุอย่างมีเหตุผล ซึ่งสุดท้ายมันก็จะพิสูจน์ในตอนท้ายเองว่าสิ่งที่เราเตือนไปนั้นจริงหรือไม่ ที่สำคัญคือเราพูดกับเขาด้วยความจริงใจ
ส่วนในพาร์ทของการทำงานนั้น “พี่จุ๊” ระบุว่า จะมีกติกาว่าเวลาที่เราได้แอคเคาท์มาทุกคนที่ทำงานกับแอคเคาท์นั้นๆ จะต้องนั่งทำงานร่วมกัน พร้อมกับระบุ job description ของแต่ละคนอย่างชัดเจน ที่สำคัญคือ งานทุกชิ้นที่ทำจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร คือจะไม่มีการสั่งงานหรือส่งงานกันแบบลอยๆ ทำให้การทำงานเป็นระบบ ส่งต่องานได้ง่าย
จุดแข็งของ Brilliant & Million ที่ทำให้ลูกค้ารัก
พี่จุ๊ ตอบอย่างไม่ลังเลว่า สิ่งที่เรามีเสมอเลยก็คือ “ความยืดหยุ่น” Flexibility ด้วยความที่เราทำงานด้านดิจิทัล ดังนั้น ทุกอย่างไปอย่างเร็วมาก เราจึงต้องปรับตัวให้ทัน ซึ่งเรามีให้ด้วยเหตุและผล เพื่อให้ลูกค้าขับเคลื่อนได้อย่างว่องไว ถ้าลูกค้าอยากจะปรับอะไรก็สามารถคุยกับเราได้
นอกจากนี้ก็คือ “ความซื่อสัตย์” , “ความโปร่งใส” และ “ความตรงไปตรงมา” ต่อให้ทำงานพลาดยังไง เราก็จะขอบอกลูกค้าตรงๆ ว่าทำงานพลาด จะไม่โยนไปโยนมา นี่คือสิ่งที่เรายึดถือมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกับเรา ซึ่งทำให้ลูกค้าไว้วางใจใน B&M ตลอดมา
เทรนด์มาแรงที่ได้รับการร้องขอจากลูกค้าในขณะนี้
จากประสบการณ์ที่สั่งสม และการทำงานใกล้ชิดกับลูกค้ามาตลอด “คุณจุ๊” ระบุว่า มันคือ Social Listening ซึ่งเป็นเสียงหรือความต้องการหรือฟีดแบ็คของผู้บริโภคที่มีการแชร์และส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ บนโลกออนไลน์ มีอะไรที่สามารถเกี่ยวพันและเชื่อมโยงกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ได้บ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีอยู่มหาศาลแต่มีความจำเป็นสำหรับนักการตลาดอย่างมาก
แต่สิ่งที่สำคัญคือการรับฟังความต้องการของลูกค้าก่อน แล้วค่อยมาปรับใช้ในแผนการตลาด ก่อนที่จะนำไป roll out ให้ถูกต้อง แต่สิ่งหนึ่งที่ตนชอบมากในการใช้ Social Listening ก็คือการทำงานโดยผูกกับทีม customer service แล้วเราก็สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้เลย จนสามารถ convert เขากลายมาเป็นลูกค้าที่ Loyalty ได้
มุมมองและคำแนะนำในการแก้ปัญหาวิกฤตใน Social Media
ในทุกๆ วันและทุกๆ นาทีสามารถเกิดวิกฤตบนโซเชียล มีเดียได้ ดังนั้น สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ อยากให้แบรนด์หรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องศึกษาโครงสร้างพื้นฐานของการทำความเข้าใจ หรือลำดับขั้น (Stage) ของการจัดการ Crisis Management ให้ได้
อย่างแรกเลยต้องรู้ว่าเหตุเกิดที่ไหน แล้วใครคือ Key Influencer ระดับความรุนแรง มากขนาดไหน อยู่ใน area ของเราหรือไม่ เมื่อเราทราบสถานการณ์ภาพรวมทั้งหมดแล้ว ต้องมีอีกทีมหนึ่งจะต้องไปปรึกษากับแบรนด์ว่า จะให้แก้ปัญหาออกมาในทิศทางไหน เช่น เลือกที่จะเงียบหรือออกมาชี้แจง หากเลือกที่จะชี้แจงก็ต้องตัดสินใจด้วยว่าว่าจะให้ออกไปในพ้อยท์ไหน ซึ่งเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไปในทิศทางไหน ทางผู้บริหารก็ต้องมีการเตรียมการตั้งรับให้ดีด้วย
ความภูมิใจกับรางวัล Agency of the Year 4 ปีซ้อน
“พี่จุ๊” กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า ก็เป็นความภูมิใจของ B&M อย่างมากที่ได้รางวัลมา นั่นเป็นเพราะส่วนหนึ่งเราพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง กับรางวัลตรงนี้นั้นเราก็ไม่ได้แข่งกับใครแต่แข่งกับตัวเอง และยืนยันที่จะรักษามาตรฐานตรงนี้ไว้
และที่ข้ามไม่ได้เลยคือ รางวัลที่ได้มาไม่ใช่เพราะบริษัทอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องขอบคุณไปถึงลูกค้าทุกท่านด้วยที่ไว้วางใจในทีมงานของ B&M ซึ่งทุกวันนี้ก็ทำให้บริษัทของเราเติบโตมาได้ และเรียกได้ว่าโตแบบดับเบิ้ล ไซส์ เลยทีเดียว
“เราดีใจเสมอนะคะที่เราได้รางวัล แต่เราก็คิดเสมอว่าทุกรางวัลที่เราได้ คือความสำเร็จของลูกค้าด้วย และเรายังคงตั้งมั่นที่จะทำงานให้ดีที่สุด และนอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่มีความตั้งใจมากและจะแน่วแน่ต่อไปก็คือ การเป็นสถาบันที่จะผลิตคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีความสามารถและได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ดังๆ มากมายให้เราได้ร่วมงานด้วย”
ตบท้ายด้วยสาเหตุที่เลือก “เป็ด” เป็นมาสคอต
พี่จุ๊ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า คือคิดว่าเราน่าจะมีมาสคอตนะ แต่เป็นอะไรดี ก็มีน้องคนหนึ่งบอกว่า เป็น “เป็ด” ล่ะกัน เพราะเป็ดบินก็ได้ ว่ายน้ำก็ได้ ทำได้หมดทุกอย่างเหมือนพวกเรานี่ล่ะ คือ Duck can fly, duck can swim แล้วถ้ามีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยมที่ Brilliant & Million ก็จะพบว่ามีสัญลักษณ์อะไรเกี่ยวกับเป็ดเต็มไปหมดเลย
“สุดท้ายที่อยากจะฝากก็คือ อยากให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่ไฟแรงได้ทำงานกัน ที่สำคัญคือให้ความเชื่อใจ และให้งานที่ท้าทายแก่พวกเขา แล้วสิ่งเหล่านี้จะส่งเขาไปได้ดี”
ได้ฟังทั้งหมดนี้แล้ว คงพอเห็นภาพแล้วว่าอะไรที่ทำให้ทีม Young Generation ของ Brilliant & Million ผลิตผลงานที่ดีออกมา จนประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องแบบนี้ รวมถึงวิสัยทัศน์ มุมมอง และแง่คิดการบริหารงานคนรุ่นใหม่ของขุ่นแม่จุ๊ ที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นตัวอย่างการบริหารทีมงานคนรุ่นใหม่ให้กับอีกหลายๆบริษัทได้เป็นอย่างดี และถ้าต้องการทำความรู้จักกับ Brilliant & Million มากขึ้นสามารถคลิกเข้าไปดูผลงานด้านอื่นๆ ของเขาได้เลยที่ www.brilliantmillion.com