หลังเผชิญภาวะติดลบอย่างหนักตั้งแต่มีการระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2563 ตอนนี้ดูเหมือนว่า อุตสาหกรรมโฆษณาเริ่มเห็นสัญญาณบวกแล้ว โดยจากการรายงานของ ‘นีลเส็น’ พบว่า ช่วง ม.ค.- เม.ย. 2564 มูลค่าเม็ดเงินโฆษณามีมูลค่าอยู่ราว 36,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่ง ‘ดิจิทัล’ เป็นสื่อที่โตมากสุดอยู่ที่ 20% คิดเป็นเม็ดเงิน 7,600 ล้านบาท
หากเจาะรายละเอียดในแต่ละสื่อตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.- เม.ย. 2564 พบว่า สื่อที่มีการเติบโต ได้แก่ สื่อทีวีมีการใช้เม็ดเงินโฆษณา 21,339 ล้านบาท โต 3% , สื่อดิจิทัล 7,600 ล้านบาท โต 20% และ สื่อโรงภาพยนตร์ 1,581 ล้านบาท โต 11%
ส่วนสื่อที่ติดลบ ได้แก่ สื่อกลางแจ้งและสื่อเคลื่อนที่ 3,371 ล้านบาท ติดลบ 13% สื่อสิ่งพิมพ์ 1,022 ล้านบาท ติดลบ 15% , สื่อวิทยุ 1,019 ล้านบาท ติดลบ 17% , สื่อ In-store 230 ล้านบาท ติดลบ 5%
สำหรับ 5 อุตสาหกรรมหลักที่ใช้เม็ดเงินโฆษณามากสุด ได้แก่
-กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food&Beverage) มูลค่า 6,598 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%
-กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอาง (Personal Care & Cosmetic) มูลค่า 5,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%
-กลุ่ม Media & Marketing ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการขายตรงมูลค่า 3,888 ล้านบาท ลดลง2% -กลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 2,408 ล้านบาท ลดลง 1%
-กลุ่มยา (Pharmaceuticals) มูลค่า1,917 ล้านบาท ลดลง -3%
เมื่อโฟกัสเฉพาะเดือน เม.ย. ปีนี้ จะพบว่า มีการใช้เงินโฆษณาโตถึง 30% คิดเป็นมูลค่า 9,432 ล้านบาท โดยบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่
อันดับ 1 บริษัท UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. มูลค่า 1,681 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อันดับ 2 บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 1,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +84%
อันดับ 3 บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว