ตอนนี้ ‘เดลิเวอรี่’ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังร้อนแรง โดยเฉพาะกับร้านอาหารที่เกือบทุกรายต้องหันเปิดให้บริการนี้ แต่ใช่ว่า ใคร ๆ ที่ทำแล้วจะประสบความสำเร็จได้ทุกร้าน
LINE MAN ในฐานะเป็นแอปฯ เดลิเวอรี่ที่ร้านอาหารให้ความสนใจเข้าร่วมขายบนแพลตฟอร์มเป็นจำนวนมาก จึงได้ประมวล 6 เทคนิคพื้นฐานเพื่อเป็นทิศทางและสร้างความมั่นใจในการเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่
6 เทคนิคสำหรับ ‘ร้านเดลิเวอรี่มือใหม่’
1.สร้างจุดเด่นให้ร้าน นำเสนอเมนูให้โดน
ท่ามกลางร้านอาหารจำนวนมากทั้งแบรนด์ใหญ่แบรนด์เล็กที่ผ่านตาลูกค้าวันละหลาย ๆ ร้าน การทำให้ร้านมีจุดเด่นและน่าสนใจเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการต้องสามารถดึงจุดเด่นของแบรนด์และเมนูผ่านการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจแม้จะเป็นเมนูธรรมดาก็ตาม ตั้งแต่ความพิเศษของวัตถุดิบ วิธีการปรุง รสชาติ ที่มาของเมนู รวมไปจนถึงการนำเสนอที่น่าสนใจเชิญชวนให้ลูกค้าถ่ายรูปและบอกต่อบนโลกโซเชียล เป็นการโปรโมทร้านต่อไปเป็นทอดๆโดยไม่ต้องลงทุนด้านสื่อ
2.รู้จักกลุ่มเป้าหมาย
ไม่เพียงแค่รู้ว่าจะขายอะไร แต่ต้องรู้ว่าร้านจะขายให้กับใคร กลุ่มลูกค้าประเภทไหนที่จะเป็นผู้จ่ายเงินซื้ออาหารจากร้านเรา ข้อนี้เปรียบเสมือนอีกจุดเริ่มต้นข้อแรกๆที่ร้านจะต้องทำการบ้าน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเกี่ยวข้องกับการคิดเมนูและการวางราคาที่เหมาะสมให้สอดคล้องด้วยเช่นกัน
3.ไม่จำเป็นต้องมีหลายเมนู
หากร้านของคุณไม่ใช่ร้านอาหารที่ลูกค้าคุ้นเคยกับสั่งหลากหลายเมนูอยู่แล้ว การมีเพียงไม่กี่เมนูนั้นเป็นอีกกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นขายอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ เริ่มต้นจากการเน้นขายเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเพียง 1-3 เมนู จะช่วยให้ร้านเป็นที่จดจำของกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น อาจจะถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “อยากให้คนรู้จักร้านเราจากเมนูอะไร” ทั้งนี้ การขายเพียงไม่กี่เมนูยังช่วยควบคุมต้นทุน และทำให้บริหารวัตถุดิบได้ดีอีกด้วย
4.โปรโมชั่นสำหรับเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ
พฤติกรรมของการสั่งเดลิเวอรี่นั้นแตกต่างจากการสั่งทานหน้าร้าน การมีโปรโมชั่นที่รองรับพฤติกรรมและความต้องการการทานที่บ้าน จะยิ่งช่วยดึงดูดลูกค้าและช่วยเพิ่มยอดขายได้ไม่ยาก เช่น เมนูเสริมในราคาพิเศษ เพื่อเชิญชวนให้สั่งไปทานคู่กับเมนูหลัก หรือ การจัดชุดเมนูที่สามารถทานได้ทั้งวัน ก็ต่างเป็นสิ่งที่ลูกค้าเดลิเวอรี่ส่วนใหญ่ต้องการ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องจำเป็นต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวันแบบนี้
5.เมนูและปริมาณที่เหมาะสม
ไม่ใช่ทุกเมนูจะเหมาะกับการจำหน่ายผ่านบริการเดลิเวอรี่ เพราะบางเมนูมีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมคุณภาพของอาหาร อาจจะขนส่งไม่สะดวกและเหมาะกับการทานที่ร้านมากกว่า เช่น ร้านชาบู – ปิ้งย่าง สามารถพลิกแพลงนำวัตถุดิบที่มีมาปรับเป็นเมนูผัดหรือต้มสำเร็จรูปพร้อมทาน หรือร้านที่มีเมนูขนาดใหญ่ ก็สามารถปรับให้เหมาะกับการทาน 1-2 คน เพื่อให้สะดวกต่อการทานและขนส่ง ง่ายต่อการตัดสินใจสั่ง และเพิ่มโอกาสการขายได้อีกด้วย
6.ใส่ใจ Packaging เพื่อเดลิเวอรี่
บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับการเดลิเวอรี่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะต้องคำนึงถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการขนส่ง รักษาคุณภาพทั้งรสชาติและหน้าตาของอาหารที่อาจเปลี่ยนไปจากระยะเวลาการเดินทาง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงคุณภาพอาหารที่ยังคงที่เมื่อเปิดทาน โดยเฉพาะปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์แบบ Reuse สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก หรือแบบที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ก็เป็นอีกข้อที่ร้านเดลิเวอรี่หันมาใส่ใจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม