ถือเป็นธรรมเนียมการทำ Music Marketing ในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะมีแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลโลกในแต่ละครั้งจัดทำเพลงเชียร์ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ และแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดนั่นก็คือ Coca-Cola นั่นเอง แต่เราก็อาจจะเห็นแบรนด์อื่นๆทำ Music Marketing เพื่อสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลโลกทำออกมาด้วยเช่นกัน อย่างที่เราจะหยิบมาเทียบกันครั้งนี้ก็คือแบรนด์คู่แข่งอย่าง Pepsi นั่นเอง มาดูกันว่า Global soccer campaign จากแบรนด์คู่แข่งระดับโลกทั้งสองนี้ทำออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
The World Is Ours (Coca-Cola’s 2014 FIFA World Cup)
httpv://www.youtube.com/watch?v=L_rRta7MCII
มาดู MV เพลงเชียร์ฟุตบอลโลกของแบรนด์ที่สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการกันก่อน นั่นคือทางฝั่ง Coca-Cola, The World Is Ours นี้เป็น MV ที่โคคาโคล่าให้นักร้องชาวบราซิล David Correy และมาร้อง featuring กับ Monobloco ซึ่งประวัติของ David นั้นเขาคือผู้เข้าแข่งขันรายการ The X Factor USA ในปี 2012 ทางแบรนด์ Coca-Cola ต้องการให้คนทั่วโลกไม่เฉพาะชาวบราซิลเท่านั้น แต่ต้องการให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นความสามารถของนักร้องนักดนตรีชาวบราซิลรุ่นใหม่ๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็นกันมาก่อนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ และนั่นคือหนึ่งในเหตุผลหลักที่เลือก David Correy มาขับร้องเพลง The World Is Ours ในครั้งนี้ และดึงภาพของการเชียร์ฟุตบอลจากคนทั่วโลกมาประกอบใน MV ตัวนี้
Now Is What You Make It (Pepsi 2014 #FutbolNow)
httpv://www.youtube.com/watch?v=KefIe0xwD6w
มาดูทางฝั่ง Pepsi กันบ้าง แม้จะไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักโดยตรงกับ FIFA แต่แบรนด์ก็ทำแคมเปญใหญ่สำหรับฟุตบอลโลก 2014 นี้ออกมาชนกับทาง Coca-Cola เลยทีเดียว ซึ่งใช้ชื่อโฆษณาชิ้นนี้ว่า #FutbolNow โดยทาง Pepsi เลือกเอาคนดังบนโลกออนไลน์มาเป็นตัวแทนในหนังโฆณาชุดนี้คือ Stony ผู้ที่ทำวีดีโอเพลงจากสิ่งรอบๆตัวแล้วโพสลงยูทูปและมีผู้ชมและผู้ติดตามมากมาย นอกจากนั้น Pepsi ยังใช้นักเตะชื่อดังระดับโลกอย่าง Robin van Persie, David Luiz, Sergio Ramos, Sergio Agüero, Jack Wilshere และ Leo Messi มาร่วมแสดงในโฆษณาชุดนี้อีกด้วย
#FutbolNow อยู่ภายใต้แคมเปญใหญ่ของทาง Pepsi นั่นคือ “Live For Now” ที่มีมาตั้งแต่ปี 2012 แล้ว โดยทาง Kristin Patrick global CMO ของ Pepsi กล่าวให้เหตุผลในการเลือก Stony มาเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่กับแคมเปญนี้ว่า “We thought there was something [powerful] about Stony, his social-media following and finding someone who could unite all these personalities.”
Music Marketnig ผ่านตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นใหม่
จากทั้งสอง MV เพลงที่เราได้ดูไปเราก็จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 แบรนด์เลือกใช้ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในด้านเพลงมาเป็นตัวแทนในการถ่ายทอดเรื่องราว และใช้ Celeb หรือคนดังมาเป็นตัวรองของเรื่อง และถ้าสังเกตกันดีๆแล้วชื่อของทั้ง 2 เพลงก็ยังมีความหมายใกล้เคียงกันอีกด้วย The World Is Ours vs. Now Is What You Make It เพราะมันสื่อให้เห็นว่าเราสามารถทำสิ่งต่างๆขึ้นมาได้ด้วยตัวเราเองซึ่งมันเป็นภาษาที่ฟังดู Inspired คนรุ่นใหม่เลยทีเดียว