หลายปีก่อน ประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือคือ ญี่ปุ่น มีอัตราการเข้าถึงมากกว่า 100% แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่ได้ถูกคลื่นแห่งเทคโนโลยีกินรวบไปทั้งหมด ซึ่งคนเหล่านั้นก็คือ คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายที่อาศัยอยู่ที่เกาะที่ห่างไกลเมืองหลวงอย่าง ทามาระ ในเมืองโอกินาว่านั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ ทางแบรนด์เครือข่ายโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่าง Softbank จึงคิดว่าต้องทำอะไรบางอย่างที่จะทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้ ยังสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกหลานได้ ผ่านทางช่องทางของสื่อเก่าๆ ที่ตัวเองคุณเคย
ปฏิบัติการปฏิวัติบ้านเก่าให้สุดไฮเทคเพื่อรองรับการสื่อสารทางไกลก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งทาง Softbank เรียกกิจกรรมแนว CSR นี้ว่า Personal Innovation Act
กล่าวคือ ทีมงานได้ยกช่างและโปรแกรมเมอร์เข้าไปจัดการอัปเกรดมุมต่างๆ ของบ้านเก่าที่ตายายอยู่ปัจจุบัน อาทิ…
ตู้รับจดหมาย ที่เปิดมาทีไร จะเจอจดหมายใหม่ๆ ที่เป็นข่าวเกี่ยวกับลูกหลานของเธอที่อพยพไปอยู่ในเมืองใหญ่ ซึ่งจะกลับมาปีละครั้ง โดยเนื้อหาในจดหมายถูกสร้างขึ้นอัตโนมัติ จากโพสต์บนโซเซียลเน็ตเวิร์กของคนในครอบครัวนี้นั่นเอง
ต่อมาเพราะเด็กๆ โตไว ทำให้ปู่ย่าเห็นพัฒนาการอีกทีก็ต้องประหลาดใจ ดังนั้น จะทำให้พวกเขารู้ว่าเด็กโตขึ้นเท่าไหร่แล้ว ทีมงานก็ดัดแปลงเสากลางบ้านให้ติดหุ่นยนต์จิ๋ว ทำหน้าที่สลักตัวเลขลงบนเสา ซึ่งตัวเลขนี้ก็ได้มาจากแอปฯ ถ่ายรูปวัดความสูงนั่นเอง
สำหรับโทรศัพท์บ้าน ก็ถูกอัปเกรดให้มีฟังก์ชันแบบโทรเห็นหน้า กล่าวคือ เมื่อใดที่หยิบโทรศัพท์มารับ เว็บแคมบนจอทีวีก็จะฉายภาพตายาย กับภาพลูกหลานบนจอ เพื่อให้สนทนากันได้มันส์ยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
และสำหรับการดูวิดีโอจากวิดีโอเทป ก็ถูกอัปเกรดให้ดูไฟล์รูปภาพที่ดึงจากมือถือของคนในครอบครัวและมาเก็บไว้ที่ Cloud
สุดท้าย เมื่อจะนอน ก็ได้นำเอาฐานของโคมไฟ ติดโปรเจคเตอร์ขนาดจิ๋ว เอาไว้ฉายหนังที่เกี่ยวกับนิทานที่เป็นละครเงาจากการทำมือเป็นรูปทรงต่างๆ เพิ่มความสนุกสนานให้กับหลานๆ
เชิญดูวิดีโอสนุกๆ จาก Softbank ที่ใช้สารพัดเทคโนโลยีเชื่อมคนหลายวัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
httpv://youtu.be/yY12m7tjghI
การอัปเกรดบ้านทั้งหมดนี้ ถือเป็นผลงาน CSR ชิ้นโบว์แดงที่คนทุกวงการต้องพูดถึงไปอีกนาน แต่ก็ระวังหากผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวคุณสะกิดว่าช่วยอัปเกรดบ้านให้ได้แบบนี้บ้าง? แล้วเราจะไม่ “จัดไป” ให้ท่านได้ยังไงจริงไหม?