เมื่อขนมคุกกี้ชื่อดังก้องโลกอย่าง Oreo ได้ออกสินค้าใหม่รุ่นพิเศษ Limited Edition ที่ได้จับมือกับขนมมาร์ชเมลโลว Peeps ออกมาเป็นคุกกี้รสชาติสุดพิเศษ แน่นอนว่าผู้คนที่ได้รู้ข่าวคราวของเจ้าขนมสุดพิเศษนี้ ก็ต้องอยากลิ้มลอง ไปสรรหามารับประทานกัน จะได้รู้ว่ารสชาติมันเป็นอย่างไร
แต่เมื่อพวกเขาได้ทานเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เขาต้องพบกับเรื่องที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจ อย่างแรกเลยคือ “ลิ้น” ของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีชมพูนั่นเองครับ ไม่สิ ต้องบอกว่าเปลี่ยนยันสีน้ำลายเลยดีกว่า
@Oreo is this normal after eating peeps Oreos? pic.twitter.com/QowLK0Wc3S
— Richard Traub (@TraubCommaRich) March 1, 2017
แต่พวกเขาต้องยิ่งเซอร์ไพรซ์กันหนักกว่าเดิม เมื่อพวกเขาเข้าห้องน้ำ ถ่ายท้องตามปกติแล้วก็พบว่า “อุจจาระ” ของพวกเขานั้นก็กลายเป็นสีชมพูไปด้วย!!
#pink happens! Our version of @PEEPSBrand @Oreo cookies! TBD if certain things turn pink? #pinkpoop #thingsweshouldinvestigate pic.twitter.com/XPjKeS5Fki
— ginger maddox (@gingercbsmaddox) March 4, 2017
#pinkpoop got my package at Target pic.twitter.com/w4REcbVJgK
— Annie West (@awest2chat) March 4, 2017
ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของปรากฏการณ์ชมพูทั้งแผ่นดินนี้ เกิดจากสีผสมอาหาร FD&C Red Number 3 นั่นเองครับ โดยเข้าสีนี้ ถูกใช้ในเจ้าคุกกี้สีหวานเจี๊ยบอันนี้ แต่การที่จะเกิดปรากฏการณ์สีชมพูอย่างที่กำลังฮิตกันนี้ได้นั้น ต้องเกิดจากการที่กินเข้าไปในปริมาณที่มากพอสมควร เช่นการกินคนเดียวหมดห่อในรวดเดียวนั่นเองครับ
.@PINKSUEBEE – your favorite color in an unexpected place! #pinkpoop #PeepsOreos Will Dye Your Poop Bright Pink https://t.co/ITR1t5PRkh
— Liz V (@DotNoFeatherLiz) March 3, 2017
Anyone wanna test this rumor?? #PeepsOreos #pinkpoop https://t.co/F8ONj0dUlW
— Yvonne Velazquez (@radioyvonne) March 3, 2017
และแน่นอนสำหรับเหล่าผู้คนที่อยากลอง เมื่อเกิดกระแสพิเรนท์เช่นนี้ขึ้น ก็ยิ่งอยากลองกันเข้าไปอีก จนเป็นกระแส #pinkpoop ที่ผู้คนยังคงทวีตกันไม่หยุดหย่อน แหม่ กลายเป็นจุดขายที่ทาง Oreo ก็คงไม่ได้คาดคิดว่าจะให้มันเป็นที่พูดถึงในรูปแบบนี้แน่ ๆ แต่อย่างน้อยก็ได้ยอดขายมากขึ้นแน่ ๆ ล่ะ อยากรู้จริง ๆ ครับ ถ้าขนมนี้เข้ามาในเมืองไทย ชาวเน็ตไทยจะก่อปรากฏการณืชมพูทั้งแผ่นดินเหมือนเขาบ้างหรือไม่ ? แค่คิดก็ขำล่วงหน้าแล้วครับ
ที่มา: Adweek