เชื่อว่าหลายคนคงจำความอเมซซิ่งของมิวสิควิดีโอของวง OK Go ได้ดี ซึ่งเอ็มวีแต่ละเพลงนั้นก็กลายเป็นไวรัลที่มีคนแชร์กันเป็นจำนวนมาก ล่าสุด 4 หนุ่มวง OK Go ก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่มาให้เราได้รับฟังรับชมกันอีกครั้ง แต่คราวนี้มาพร้อมกับความแปลกใจเล็กน้อยว่า พวกเขาเปลี่ยนแพล็ทฟอร์มวิดีโอที่จะลง ไม่ใช่ Youtube เหมือนเช่นเคย!
มิวสิค วิดีโอ ตัวใหม่ของ OK Go เพลง “Upside Down & Inside Out” สร้างความตื่นตาให้เราชมกับการโชว์ทักษะการทรงตัวที่เหลือเชื่อในสภาวะอากาศแบบ ‘ไร้แรงโน้มถ่วง’ ในห้องโดยสาร พร้อมกับระบุว่าเอ็มวีนี้ถ่ายทำในสภาพอากาศไร้น้ำหนักจริง บนเครื่องบินจริงๆ ไม่ใช้สลิงและไม่มีกรีน ซีน
แต่ถ้าคุณจะหาคลิปเอ็มวีนี้บน Youtube เหมือนอย่างเคยล่ะก็ คุณจะหามันไม่พบเลย เพราะสิ่งที่คุณจะพบในชาแนลของ OK Go ที่ Youtube เป็นเพียงทีเซอร์สั้นๆ และคลิปออดิโอ้เท่านั้น ไม่ใช่มิวสิค วิดีโอ เหมือนเช่นทุกครั้ง แต่วงเลือกที่จะลงเอ็มวีผ่านช่อทาง FacebookVideo แทน ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ทั้งๆ ที่วงก็ประสบความสำเร็จดีกับการลงเอ็มวี หรือคลิปอื่นในช่อง Youtube กับเรื่องนี้ Damin Kulash หัวหน้าวง ให้สัมภาษณ์ผ่าน Adweek.com ว่า
“วิดีโอแต่ละชิ้นที่ทำเราได้พยายามค้นหาความท้าทายที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ กับตัวเราเอง และล่าสุด พวกเราก็ได้รับการสนับสนุนจากเฟซบุ๊ก และคิดว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นใหม่ที่น่าลอง เราได้ค้นพบวิธีที่สร้างสรรค์ความคิดในแบบใหม่และการเชื่อมต่อกับแฟนๆ ในอีกรูปแบบหนึ่ง และเราชอบที่จะได้ทำการทดลองสิ่งใหม่ๆ ในการเข้าถึงผู้คน”
ทั้งนี้ การลงวิดีโอผ่าน Facebook มีสถิติที่น่าสนใจดังนี้
- 780 ล้านคน เชื่อมต่อดนตรีผ่านบนหน้าเพจ Facebook
- ปัจจุบันผู้คนดูวิดีโอรวม 100 ล้านชั่วโมงในทุกๆ วัน บน Facebook
- เฉลี่ยแล้วมีวิดีโอมากกว่า 8 พันล้านคลิป ถูกรับชมบน Facebook ทุกวัน
- ทุกๆ วัน มากกว่า 500 ล้านคน จะดูวิดีโอบน Facebook
- มากกว่า 75% ของวิดีโอจะถูกรับชมผ่านโทรศัพท์มือถือ
- 53% ของทุกวิดีโอที่ได้รับชมมาจากการแชร์
และนี่คือวิดีโอที่พวกเขาโพสต์ลงบน Youtube
OK Go – Upside Down & Inside Out The Video is Out
httpv://youtu.be/nFwW2v_-5ak
อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์กันเพิ่มเติมว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าทางวงอาจจะมีปัญหาหรือความไม่ลงรอยอะไรบางอย่าง โดยเมื่อปี 2010 ทางวงได้เคยเขียนจดหมายเปิดผนึกไปยัง Youtube ว่าทำไมคลิปที่ดังๆ ของวง จึงไม่สามารถ embedded ในบล็อกหรือทำภายนอก Youtube ได้ นอกจากนี้ ในปี 2012 ทางผู้จัดการวงก็แสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจรายได้ที่ได้จาก YouTube ad เสียเท่าไหร่ บางทีจากปัจจัยเหล่านี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทางวงเปลี่ยนใจมาลงที่ Facebook แทนก็เป็นได้