นอกจาก TikTok จะเป็นช่องทางในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในกลุ่มผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่แล้ว วันนี้ TikTok ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งช่องทางที่หลายแบรนด์กำลังมุ่งทำแคมเปญทางการตลาด เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
หนึ่งใน Case study ที่ประสบความสำเร็จซึ่งสร้างความน่าสนใจด้วยฟีเจอร์เทคโนโลยีลูกเล่นต่างๆ ที่โดดเด่นของ TikTok ได้แก่ แคมเปญของ “มิรินด้า รูทเบียร์” แบรนด์ที่ขอท้าทายกับปุ่ม Skip Ad ด้วยความคิดสร้างสรรค์
“มิรินด้า รูทเบียร์” อยากเข้าถึงกลุ่มคน Gen Z แน่นอนว่าก็ต้องเลือกช่องที่มีคนกลุ่มนี้มากที่สุด นั่นก็คือ TikTok แต่เช่นเดียวกับปัญหาของหลายๆ คลิปวิดีโอโฆษณาก็คือผู้คนมักจะใช้ปุ่ม Skip Ad เพื่อกดข้ามโฆษณาไปเลย แต่ “มิรินด้า รูทเบียร์” ก็ไม่หวั่น พยามคิดที่จะหาหนทางในการสร้างความสนใจให้คนรุ่นใหม่ดูโฆษณาของแบรนด์ให้ได้ ด้วยการเข้าไปพูดภาษาเดียวกับพวกเขา และมีคีย์สำคัญนั่นก็คือการใส่เทคโนโลยีลงไปเพื่อสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับแคมเปญ
มิรินด้า เปิดตัวรสชาติใหม่ “รูทเบียร์” และมีการฟีเจอร์ริ่งร่วมกับ “มิลลิ” แร็พเพอร์สาวชื่อดัง รวมไปถึง KOL คนดังอื่นๆ อีกมากมาย แต่ความท้าทายของแคมเปญนี้ก็คือการสร้างการรับรู้ว่ามีการลอนช์โปรดักส์ใหม่ ได้แก่ “มิรินด้า รูทเบียร์” และทำให้โปรดักส์เข้าไปอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ Gen Z ให้ได้ แต่ปัญหาคือไม่คนรุ่นใหม่ไม่ชอบโฆษณา ดังนั้น “มิรินด้า” จึงสร้างความสนุกให้กับชิ้นงานโฆษณาบน TikTok ด้วยการใช้ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของแพล็ตฟอร์ม นั่นคือเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และยังถือว่าเป็น แบรนด์ไทยในกลุ่ม Food and Beverage เจ้าแรกที่ใช้เทคโนโลยี AR ในการสร้างสรรค์แคมเปญผ่านเทคโนโลยีบน TikTok อีกด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง
สำหรับรูปแบบแคมเปญของ “มิรินด้า รูทเบียร์” ทำออกมาในรูปแบบเกมสนุกๆ (gamified effect) บนแพล็ตฟอร์มเพื่อสร้าง engagement กับผู้ใช้งาน โดยกติกาการเล่นเกมก็คือ ให้ผู้ใช้งานเก็บแต้มด้วยการไล่ดูดจุ๊บจุ๊บน้ำมิรินด้า รูทเบียร์ ให้แม่นยำตรงกับขวดที่ปรากฏ ซึ่งถ้าทำได้ก็จะปรากฏดวงตากลมโตน่ารักสดใส ซึ่งเกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยี AR พร้อมติดแฮชแท็ก #IrresistibleChallenge
ผลตอบรับของแคมเปญนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ใช้งาน TikTok อย่างมาก ผลลัพธ์ที่ได้ปรากฏว่า ใน 10 วัน ได้ Reached มากกว่า 19 ล้าน ยอดวิววิดีโอแตะไปสูงถึง 4.1 ล้านวิว รวมไปถึงเป็นการสร้างวิดีโอเกินเกณฑ์มาตรฐานค่าเฉลี่ยในเมืองไทยมากกว่า 455% และกลายมาเป็นแคมเปญโฆษณาที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ที่สุดแห่งการลอนช์โปรดักส์ใหม่ (Best Performing New Product Launch) ที่สำคัญ ยังผลักดันยอดขายให้เติบโตและเข้าถึงเป้าหมายได้มากกว่า +170% อีกด้วย เรียกว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ได้ตรงตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
นั่นเป็นเพราะว่า แคมเปญมีการใส่ความคิดสร้างสรรค์พร้อมผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย จนทำให้เกิดเป็นคอนเทนต์ที่เข้าใจคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง จึงทำให้แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก และท้ายที่สุดแบรนด์และโปรดักส์ก็จะเข้าไปอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก