“ตลกสัตว์!”
หลายคนที่ติดตามเฟสบุ๊คเพจที่ชื่อ ‘สัตว์โลกอมตีน‘ คงเคยมีความรู้สึกแบบนี้มากกว่าหนึ่งครั้ง
หลังหัวเราะดังๆ คุณเคยสงสัยไหมว่า…
เจ้าของเพจใช้สมองส่วนไหนคิดมุกเหล่านั้นมาทำให้กระเพาะเรากระเพื่อมอยู่ทุกวี่วัน
อะไรคือที่มาของ ชื่อเพจ สัตว์โลกอมตีน (แล้วทำไมต้องอมตีน?)
ทำไมต้องใช้คำว่า ‘รู้หมือไร่’
แล้วเจ้าของเพจที่เกี่ยวกับสัตว์ จะคิดยังไงกับคำกว่าวที่ว่า มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ!?
เรานัดพบเขาที่คาเฟ่ย่านทาวน์ อิน ทาวน์ เพื่อไขความสงสัยข้างต้น ก่อนจะพบวาตัวเองก็ไม่ต่างจากคนอื่นที่นั่งขำปนสนุกไปกับมุกบางมุกของเขาขณะสัมภาษณ์
จนทำให้นึกถึงสโลแกนเพจสัตว์โลกอมตีนที่ว่า ‘เพจที่มอบความสุขให้กับทุกคนและทำลายสมองประชาชน’
สโลแกนดังกล่าวจะจริงเท็จแค่ไหน เชิญพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง…
อยากให้แนะนำตัวก่อนครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ เมฆ แต่ก่อนชื่อในออนไลน์คือ เมฆ ซัคเคอร์เบิร์ก (Mak Zuckerberg ) เป็นผู้ก่อตั้งเพจ สัตว์โลกอมตีนครับ
เพจสัตว์โลกอมตีนนี่มีที่มาที่ไปอย่างไรครับ?
แรงบันดาลใจในการทำเพจมันมาจากความชื่นชอบของผมมากกว่า ด้วยบุคคลิกของผมเป็นคนสไตล์ชอบ ชอบแกล้ง ชอบกวนตีนชาวบ้าน เพราะฉะนั้นผมก็เลยอยากหาพื้นที่ ที่เอาไว้ลงมุกสไตล์ตัวเองหรือว่าทำอะไรที่เป็นแนวตัวเอง แต่ว่าตัวเองเรียบเรียงคำพูดไม่เก่ง เพราะฉะนั้นผมก็ต้องหาอะไรที่เป็นสื่อแทน วันหนึ่งผมเห็นน้องคนหนึ่งเขาเอารูปปลาทองมาลง ปลาทองปกตินี่มันจะอยู่ในตู้ใช่ไหมครับ แต่ในภาพเป็นปลาทองอยู่ในถุงยางอนามัยที่มีน้ำอยู่ข้างใน แล้วตรงปลายถุงยางมันจะงุ้มๆหน่อยเหมือนปากปลาโลมา เราก็อนุมานว่าปลาทองมันกลายเป็นกลายโลมาแทน พอนั้นก็ปิ๊งว่าพอเป็นสัตว์แล้วแบบว่ามันทำให้มันดูมีอารมณ์ สามารถใช้เป็นสื่อแทนได้ นั่นก็เลยเป็นที่มาของสัตว์โลกอะครับ ใช้สัตว์เนี้ยแหละ
สรุปว่าเพจคือพื้นที่ปลดปล่อยนิสัยส่วนตัวของตัวเอง
ใช่ๆ มันเหมือนกับเพจนี้ทำมาเพื่อสนองความต้องการของ admin ผมชอบเวลากวนตีนเค้าแล้วแบบมีคนด่า จะรู้สึกดี ต้องบอกก่อนว่า สไตล์ผมมันไม่ใช่มุกที่แบบ ตลก 100% ที่แบบดูแล้วขำกร๊าก เพราะฉะนั้นมุกสไตล์ผมมันจะสไตล์แบบมุกกวนตีน อมยิ้มนิดๆ ในชีวิตจริงก็แบบนี้ ชอบเล่นมุกแบบคุณภาพต่ำอะครับ แต่เค้าเรียกกันว่ามุกบาทสองบาท คือเน้นปริมาณเน้นยิงไปก่อนอะไร ฮาไม่ฮาก็ว่ากันไป
อยากได้คำอธิบายเพิ่มว่าทำไมต้องเป็นสัตว์
ผมมองว่า สัตว์สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ด้วยความน่ารักของมันหรือความรู้สึกเอ็นดู ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ธรรมดาหรือสัตว์ประหลาด ก็อตซิล่าก็รวม สัตว์โลกมันสามารถถ่ายถอดความเป็นตัวตนของเราได้โดยที่เราไม่พาดพิงคนอื่น เช่น ถ้าสมมติเราเล่นมุกการเมืองหรือว่าเล่นมุกเกี่ยวกับดารานักร้อง อาจจะไปกระทบเกี่ยวกับคนนี้ หรือไม่ว่าจะเป็นศาสนาหรือสถาบันอะไรอย่างงี้อ่ะครับ ด้วยความหลากหลายของสัตว์ทำให้ เราสามารถเป็นตัวของตัวแทนอะไรก็ได้ที่เราอยากจะปล่อยมุกออกไป ไม่ว่าจะเป็นพวกวัว หมา แมว หมู สิงโต คือแบบว่าเราสามารถดึงตรงนี้มาได้หมด
แล้วชื่อ “สัตว์โลกอมตีน” มาจากอะไรครับ?
มาจากคำว่า สัตว์โลก อมยิ้ม และกวนตีน รวมกันเป็น สัตว์โลก-อม-ตีน ครับ
ตอนนี้มีทีมงานทั้งหมดกี่คน?
ผมเริ่มต้นทำเพจ ผมจะทำกันแค่สองคนกับน้องอีกคนนึงเป็นคนดังออนไลน์อยู่ปัตตานีชื่อ ณเดช คุ๊กกี้มั้ยจ๊ะ รู้จักกับน้องเค้าผ่านโซเชียลผ่านน้องอีกคนที่เป็นเจ้าของเพจเหมือนกัน ชื่อ เรน ทหารม้าโยโกฮาม่า จู่ๆวันดีคืนดีก็ยกหูคุยกันว่า มาทำอะไรสนุกๆกันดีกว่า เพราะปิ๊งกันครงที่ว่าเค้าก็ชอบสไตล์มุกแบบนี้เหมือนกัน ส่วนปัจจุบันทีมงานผมว่าเกือบ 10 แต่ว่าคนที่ active หลักจะมีอยู่ประมาณ 4-5 คน แบ่งกันทำงานอย่างคิดมุกหรือเป็นฝ่ายดีไซน์
เห็นมีแอดมินคนหนึ่งชื่อ อุ๋ยเงี๊ยบ ไปออกรายการ Take Me Out เป็นไงมาไง?
พี่เงี๊ยบเมื่อก่อนเป็นลูกเพจมาก่อนครับแล้ว เค้าชอบส่งมุกผ่าน message ส่งมาแบบจนแบบ เห้ย ทำไมคนนี้มีความคิดแบบเราบ่อยจัง มันเข้าทางกับเราพอดี ผมก็เลยแบบชวนพี่มาเป็นแอดมินเพจ เมื่อปลายปีที่แล้วเพจผมจัด meeting ก็เลยได้เจอแอดมินทุกคนที่ร่วมทำเพจกันมา สรุปว่าพี่เงี๊ยบเป็นคนรู้จักของรุ่นพี่ผม ตอนTake me out เขาติดต่อมาแล้วตอนนั้นทีมแอดมินเรามีประมาณ 4 – 5 คน แล้วเราก็ตกลงกันว่าให้ใครไปออกดี Take me out ต้องการคนที่โสด และไม่มีแฟน มาร่วมสนุกในรายการ ก็เลยว่าตัดสินใจส่งพี่เงี๊ยบไป
ในรายการ Take Me Out ตอนพิธีกรถามว่าเพจนี้คืออะไร คำตอบที่ได้คือ “เพจสัตว์โลกอมตีนคือเพจที่มอบความสุขให้กับทุกคนและทำลายสมองประชาชน” อันนี้มันเป็นความตั้งใจเบื้องต้นตั้งแต่ตอนตั้งเพจรึเปล่าครับหรือว่าอันนี้คือมาทีหลัง?
เอาจริงๆคือมันคือสิ่งที่เป็นมาตั้งแต่เริ่มเพจครับ เพียงแต่ว่าพี่เค้าใช้คำพูดเรียบเรียงตัวตนของเพจเพื่อที่จะถ่ายถอดไปให้ทุกคนที่ดูรายการอยู่เข้าใจว่าตัวของเพจเราเป็นยังไง
ในออนไลน์ เพจพวกรวมมุกต่างๆมีเยอะมากมาย อะไรที่ทำให้สัตว์โลกอมตีนแตกต่าง?
น่าจะแตกต่าง ส่วนมากเพจมุกต่างๆมักเป็นแบบมุกคนโสดหรือว่ามุกเสี่ยว ของเรามันเป็นแบบมุกตลกคาเฟ่อ่ะครับ สไตล์ถ้าเรียกง่ายๆก็คือ มุกควาย มีอีกเพจนึงที่เป็นสไตล์มุกความก็คือเพจ Buffalo Gags ผมเองก็โตมาจากเพจนั้นเหมือนกัน เคยไปเป็นสมาชิกไปเล่นอยู่พักหนึ่ง เราคิดว่าเราเป็นเพจทางเลือกมากกว่า สำหรับคนที่ต้องการความแปลกใหม่ ต้องการความบ้า ความเพี้ยนที่เพจอื่นไม่มี ส่วนพวกคำคมมุกเสี่ยวอะไรแบบนี้มันจะไม่ใช่สายเรา แต่เราจะเป็นสไตล์แบบมุกกวนตีนมากกว่า
เคยคิดไหมว่าวันหนึ่งเพจจะมียอดแฟนเข้าใกล้ล้านคน แล้วมุมมองเปลี่ยนไปไหม?
ผมว่าจริงๆผมไม่เคยคิดเลย เพราะว่าเริ่มแรกเราทำเพราะความชอบ ต่อมาต้องยอมรับว่าพอถึงแสนนึงผมเริ่มมองเป็นเรื่องของธุรกิจ เพราะว่าเพจที่มีฐานยอกสมาชิก 1 แสนนี่มันสามารถไปต่อยอดทำธุรกิจหลายๆอย่างได้ แต่ยังไงเราต้องรักษาจุดยืนของเราเหมือนเดิม คือต้องพยายามรักษาความสม่ำเสมอในการคิดไอเดีย หรือคิดหัวข้อเพื่อมาลงให้สมาชิกในเพจได้รับชมกัน ผมสังเกตว่าหลายๆเพจที่พอเริ่มดังแล้วรับโฆษณามาเยอะไป มันก็จะเริ่มเป็น hard sale แล้ว ลูกเพจก็จะรู้ว่ามีทัศนคติในแง่ลบกับตัวเพจนั้นๆว่า คุณรับโฆษณามากเกินไป ทำให้ความเป็นคอนเทนต์คที่เป็นตัวตนนั้นหายไป ซึ่งผมไม่ต้องการเสียตัวตนตรงนี้ เพราะทุกคนเค้าชอบเราเพราะอะไร เราต้องไม่ลืมตรงนี้ ผมไม่ต้องการเป็นโฆษณาที่แบบ tie-in ที่ต้องมายัดเยียดสินค้าไป ยกตัวอย่างเช่น ช่วงแรกพอดีมีโฆษณาติดต่อมา เค้าจะจ้างเราลงเกี่ยวกับมุกโดยที่เขาเข้าใจสไตล์ของเพจเรา เขาให้ผมออกแบบไอเดียเอง แล้วส่งกลับไปให้ดูว่าโอเคไหม มันสามารถทำเป็น viral ได้ไหม แล้วปรากฎว่าพอทำปุ๊บมันได้ผลอะครับ คือลูกค้าก็ไม่รู้สึกยัดเยียดขายสินค้า เหมือนช่วยกันสร้างมากกว่าเป็นที่ให้ลงโฆษณา
อะไรคือจุดยืนของสัตว์โลกอมตีนที่วันไหนก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
จุดยืนการเล่นมุกสไตล์กวนตีนนี่แหละครับ ทุกวันนี้ก็ต่อยอดไปเป็นคอนเทนต์ใหม่ๆ อย่างมุกเกี่ยวกับเพลง มันมาจากที่ผมสังเกตว่าเมื่อสองปีที่แล้ว จะมีเพลงนึงที่ชื่อว่า The fox เขาเอาสัตว์มาใส่ในเนื้อเพลง ช้างมันต้องแป้นๆ อะไรอย่างนี้แหละครับ หรือว่าทุกสัตว์มีเสียงร้องแต่ว่าทำไมหมาจิ้งจองไม่มีเสียง กลายเป็นว่ามันเอาความไร้สาระในตัวสัตว์อะมาใส่เป็นเพลงได้ ผมก็เลยเริ่มคิดว่าทำไมเราทำกับเพลงไทยไม่ได้บ้าง ผมก็เลยเริ่มแต่งเพลงที่เอาสัตว์ มาใส่ในเนื้อเพลง เพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นเพลงแปลงของ cocktail เรายืมเพลงคุกเข่าของ cocktail มา เป็นแรงบันดาลใจและเราใส่เนื้อเพลงเข้าไป (ร้องว่า “ชั้นกำลังขอร้องออนวาฬเธออย่าไป ทิ้งตัวลงกุ๊กไก่กอดหมาเธอเอาไว้ ปลานมสองมือขึ้น ก้าบ ก้าบ เธอโปรดอย่าไป มันคงมีหมีกระโดดถ้าโตมันตกใจ”) ไลค์เพจเราเพิ่มขึ้นมากจากอันนี้ แม้กระทั่งเพจของนักดนตรีเอง ก็ได้แชร์เพลงตัวนี้ไปด้วย หรือจะเป็นคอนเทนต์ที่เราตัดต่อเอาภาพสัตว์มาใส่ตามช่องต่างๆสไตล์ตัดแปะ หรือจะเป็นเน้นอิงกระแสเช่นฟุตบอล การแข่งขันจบปุ๊บจะรีบใส่ทันทีนั้นคือ ความได้เปรียบของผมก็คือ ผมเน้นงานเร็ว ใช้ ipad เครื่องเดียวแล้วผมอยู่นอกสถานที่คอยตามข่าวจาก facebook หรือ news feed ผมสามารถทำงานได้ทุกที่ มันเป็นปลาเร็วกินปลาช้า อันนั้นคือข้อได้เปรียบที่ผมพยายามดึงให้คนมาเล่นกัน
ตกลงปัจจุบันคอนเทนต์ที่อยู่ในเพจมันมีกี่รูปแบบ?
ก็หลักๆก็จะเป็นมุกบาทสองบาท สองจะเป็นเพลงดัดแปลงที่เอาสัตว์เข้ามาใส่ในเนื้อหาเพลง อีกอันหนึ่งก็คือเป็นพวกแชร์คลิปสัตว์จากพวกเพจต่างประเทศทั้งคลิปน่ารักๆ หรือ สัตว์ที่มันตลกๆ แต่ทีหลังเราไม่ค่อยลงเองเพราะว่าเราไม่รู้แหล่งที่มาว่ามาจากไหน แล้วบวกกับว่าเราค่อนข้างซีเรียสเรื่องเกี่ยวกับการ copy ผลงานที่ไม่ได้ขออนุญาติเจ้าของ มันเป็นเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาอ่ะครับ
เวลาพูดถึงสื่อโซเชียล จะมีมุมมองสองแบบ บางคนก็ว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่อยากจะพูดอะไรก็ได้ทำอะไรก็ได้ กับอีกแบบหนึ่งเราได้กลายเป็นสื่อที่ต้องมีความรับผิดชอบบางอย่างอยู่ ทางเพจสัตว์โลกอมตีนมองตัวเองเป็นแบบไหนครับ?
ผมมองว่าผมเองเป็นทั้งสองอย่าง คือ เราก็อยากถ่ายทอดสิ่งที่เราชอบ โดยที่ผลงานถ้ายิ่งคนมาชอบเราเยอะเราก็รู้สึกภูมิใจในผลงานของเรา ถามว่าบางอันอาจจะดูเนื้อหาไม่เหมาะสมกับเยาวชนมากมั้ย อาจจะมีบ้างครับ เราเองแค่ยึดแนวทางว่าเราต้องพยายามที่จะพาดพิงคนอื่นให้น้อยที่สุด แล้วก็มันจะไม่เหมือนเพจอื่นที่มีการโพสไปแล้วเกิดการดราม่าทะเลาะกัน ของผมอยากให้ลูกเพจเข้ามาด่าดีกว่า หรือว่ามาบอกว่ารู้สึกว่าชอบ หรือว่าเข้ามาถกเถียงกันในประเด็นที่ว่าความรู้อันไหนที่มั มันไม่ถูกต้อง อันนี้ในเรื่องของแง่สาระนะครับ กับอีกอย่างนึงก็คือเรื่องของ CSR บางทีเราทำเพจตรงนี้เราต้องมองว่า เราไม่ได้ไร้สาระอย่างเดียวนะ เป็นแนวคิดของพี่ทางแอดมินคนที่มีกิจกรรมงานเล่นดนตรีเปิดหมวกตามพวก JJ Green หรือแม้กระทั่งตลาดนัดตลอดกลางคืน ตลาดรถไฟ เพื่อเอาเงินตรงนี้มาไว้เป็นค่าอาหารคอยบริจากตามพวกสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ หรือว่าบริจาตตามสวนสัตว์ครับ ทำให้เรามีคนรู้จักเราเพิ่มขึ้น แล้วก็สร้างทัศนคติในแง่ดีให้เพจเราด้วย
แปลว่าพอถึงระดับหนึ่งเราก็มองว่าตัวเองเป็นสื่อมวลชนที่เรามีจรรยาบรรณ?
เราเองก็อยากจะทำอะไรเพื่อสังคมบ้างครับ อย่างกิจกรรมเกี่ยวกับสัตว์ หรือว่าแม้กระทั่งมีงานกุศลผมก็จะพยายามแชร์ไปเช่นเรื่องหมาแมวไม่มีเจ้าของ หรือสัตว์เลี้ยงหายก็ช่วยแชร์ลิ้งค์ไป
เท่าที่ฟัง คุณเมฆมีความเข้าใจวิธีการทำคอนเทนต์และธุรกิจเกี่ยวกับดิจิตอลมากเหมือนกัน
ผมเองอาจเพราะเรียนคณะบริหารธุรกิจที่รามคำแหง เราเองก็ได้ใช้ความรู้ตรงนี้มาถ่ายทอดมาประยุกต์ใช้ สมัยก่อนสื่อมันเข้าถึงได้ค่อยข้างยากเพราะว่ามีแค่พวกสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อทีวี แต่สมัยนี้พอเป็นโลกของโซเชียล การจะทำให้คนเข้าถึงเนื้อหาของเรามันง่ายมาก แล้วเราก็มองว่าเพจนี้มันเป็นงานครีเอทีฟแบบหนึ่ง สามารถที่จะร่วมงานกับหน่วยงานทางมาร์เก็ตติ้งได้โดยตรงเลย เป็นรูปแบบสื่อออนไลน์ประเภท Facebook
กลัวไหมว่าวันนึงจะหมดมุก?
เคยมีคนบอกผมตั้งแต่ตอนทำเพจแรกๆแล้วว่า ผมแชร์ถี่มาก เวลาผมคิดอะไรออกก็จะโพสลงเลย ไม่อย่างนั้นมันจะลืมไอเดีย เพจผมให้อิสระให้กับทั้งทีมงานและตัวเองเน้นความสม่ำเสมอในการโพสดีกว่า ของผมว่าไม่ต่ำกว่าสิบโพสต่อวัน ก็รู้สึกว่าไม่มีวันหมดมุก อย่างการเกาะกระแสก็ทำได้ เช่น ถ้าสมมติว่ามีกีฬาหรือแม้กระทั่งการต่อยมวย แข่งขันฟุตบอล หรือประเด็นเกี่ยวกับดาราแบบนี้เราสามารถถ่ายทอดได้ตลอดเวลา
ที่เล่นมุกบาทสองบาทนี่มุกไหนที่แล้วแป้กสุด
แป้กสุดนี่มันเยอะอะครับ เรายิงไปสิบมุกร้อยมุก มันแป้กเป็นสิบๆมุกเลย แต่ว่ามุกไหนที่มันพีคแบบนี้ คนก็จะพูดถึงเป็นจำนวนมาก หรือที่เจอด้วยตัวเอง เขามา’เม้นต์บอกครับว่า เพราะว่าเพจคุณทำให้ผมต้องอายคนอื่นเลย ผมเผลอหลุดขำบนรถไฟฟ้า คนก็มองกันใหญ่
สัตว์โลกอมตีนตั้งเป้าในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง?
เอาจริงๆก็คือ เราต้องการทำไปเรื่อยๆ เอาง่ายๆว่าถ้าผมยังไม่ตายไปก่อน ผมก็ยังทำเป็นแนวทางของตัวเองไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ต่อยอดไปขายเสื้อ แต่ว่าเราเองไม่ได้มองกำไรมากมาก เอาเป็นว่าเป็นทางที่เราชื่นชอบเป็นหลัก อยากจะมีสินค้าเป็นของตัวเองเป็นที่ระลึกซื้อเก็บไว้ ก็เหมือนเพจอื่นทั่วไป นอกจากยนั้นก็มีไปออกงานต่างๆ เร็วๆนี้อาจจะมีสติกเกอร์ไลน์ ก็คือเพิ่งยื่นเรื่องไป เป็นไอ้ตัวสีเขียวที่เป็นมาสคอตอะครับ กระแสตอบรับดีนะครับตัวนี้ เพราะผมก็เปลี่ยนมาสคอตมาหลายตัวแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เป็นทั้ง หมาปั๊ก ลิงชิมแพนซี ตัวสมัน ในอนาคตเราอาจจะมีกิจกรรมระหว่างแอดมินกับลูกเพจไปเยี่ยมสวนสัตว์ แต่ต้องเป็นสวนสัตว์ที่ไม่ใช่สวนสัตว์ใหญ่ๆนะครับ อาจจะเป็นสวนสัตว์ตามต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยมีคนไปแล้วก็สัตว์มันค่อนข้างจะไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร อาจจะนำของไปบริจาคกันพร้อมพบปะสังสรรค์กัน เพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่ได้รับการดูแล อะไรประมาณนี้ครับ
กำลังจะถามว่าทำไมต้องเป็นตัวสล็อต
สล็อต เป็นตัวอักษรแรกของคำว่า สัตว์-โลก-อม-ตีน พอดี มันเป็นคาแรคเตอร์ที่ทำให้เพจดูซอฟท์ลง เพราะชื่อเพจมันมีคำว่า ‘ตีน’ ที่เป็นคำหยาบนิดๆ ก็ช่วยรีแบรนด์ตัวตนของเพจได้เยอะ
แล้วคำว่า ‘รู้หมือไร่’ มันมาจากไหน?
มันเป็นเรื่องสไตล์คำเพี้ยนที่ผมชอบใช้อยู่แล้วเหมือนที่พวกตลกคาเฟ่ชอบใช้กัน สลับตัวอักษรในคำตัวสะกดข้างหน้าหรือแม้กระทั่งตัวแรกของแต่ละคำ ปกติเป็น ‘รู้หรือไม่’ พอเป็นคำนี้เหมือนจะเป็นสาระใช่ไหมครับ แต่สุดท้ายเราก็ไม่มีสาระเหมือนเดิม ก็เอามาสลับคำกัน ถ้าสาระเราก็จะนึกถึง National Geographic เป็นสารคดีสัตว์โลก แต่ถ้าของเรามันตีความแบบไร้สาระ ถ้าหยาบๆหน่อยของเราก็จะเป็น ‘สารคเลวสัตว์หมา’ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ
ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นเพจ เราแปลง passion เป็นทุน เปลี่ยนความชอบเป็นธุรกิจ เราอยากจะบอกอะไรกับคนอื่นบ้างว่า แม้กระทั่งอย่างเพจเราที่มีความชอบแค่มุกธรรมดา วันนึงถ้าเราตั้งใจมันก็จะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้
ผมอยากจะบอกว่าเรื่องของธุรกิจหรือแม้กระทั่งการทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ มันเริ่มมาจากการเป็นตัวตนของตัวเองก่อน ถ้าเกิดว่าเราสามารถถ่ายทอดตัวตนของเราให้ทุกคนมาชื่นชอบตัวเราก็จะมีคนที่ชื่นชอบเราแบบเดียวกับพวกศิลปินดาราที่มีฐานแฟน เราไม่ต้องการว่าให้คนมากดไลค์เยอะๆเป็นล้านเป็นสองล้าน แต่ว่าเค้าไม่เข้าใจตัวตนของเราเลย เพจเราก็เริ่มค่อยๆไต่ขึ้นมาเรื่อยๆอะครับ 7 แสนกว่าคนที่ตามอยู่ตอนนี้ มันถือว่าเป็นคนไทยแทบจะทั้งหมด มันเลยต่างจากเพจอื่นที่แบบเป็นแชร์คลิปหรือแบบการ์ตูนที่มีคนต่างชาติเข้ามาด้วย ผมแค่จะบอกว่าถ้าเราเป็นตัวตนของเรา ทุกคนจะเข้ามาทำความรู้จักเราเอง โดยที่เราไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไรมากมายเลย
เคยมีการคุยกันไหมครับว่า ตัวตนจริงๆของทีมงานแอดมินทั้งหลายนี่ ถ้าให้เหมือนสัตว์ประเภทหนึ่งนี่สัตว์ประเภทนั้นคืออะไร?
(นิ่งไปชั่วครู่) อันนี้ต้องยอมเลยว่าไม่เคยคุยกัน
ถ้าอย่างนั้นขอตัวคุณเมฆเองก็ได้
ผมก็มองว่าตัวเองคล้ายๆตัวสล็อตเหมือนกนนะครับ สล็อตมันจะเชื่องช้าขี้เกียจใช่ไหมครับ เหมือนผมปกติก็จะเก็บตัวเงียบๆ แล้วแถมมีแบบขอบตาดำ หัวกลมๆเหมือนกันอีก แต่มันก็ยังมีความแบบน่ารักน่าเอ็นดูอยู่เวลามันยิ้ม แต่ถ้ามันตกใจจริงๆมันจะแบบคลานได้เร็วมากเลยนะ
แล้วถ้าให้เปรียบลูกเพจเกรียนๆเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง
ผมขอนึกก่อน (นิ่งสักครู่) ผมว่าเหมือนฝูงหมาป่ามากกว่า หมาป่านี่เวลามันเห็นเหยื่อมันจะรุมเข้าไปแย่งทึ้งกัน ลูกเพจผมเป็นคนที่อาจจะมาคอมเม้นต์เล่นเกรียนๆกัน แต่บทอยากให้ทำอะไรปุ๊บเค้าจะสามัคคีกันมาก
คิดยังไงกับคำว่า มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ
ผมว่ามันเป็นคำๆนึงที่มนุษย์ตั้งขึ้นมาเพื่อยกย่องตัวเองให้ดูสูงกว่าคนอื่นเพื่อเราจะได้ไม่ปฎิบัติตัวเยี่ยงสัตว์ทั่วไปอ่ะครับ เวลาหมามันมีความรู้สึกทางเพศมันก็ผสมพันธุ์ หมามันทะเลาะกันมันก็กัดกันใช่ไหมครับ แต่มนุษย์เนี่ยถ้าเราไม่มีคำนี้ขึ้นมันกลายเป็นว่า เราจะทำอะไรก็ได้โดยที่บางทีคนอื่นเดือดร้อนไปด้วยโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นคำๆนี้มันเหมือนเป็นกรอบอย่างหนึ่งที่ในเมื่อคุณเป็นมนุษย์แล้ว คุณเองก็จะต้องมีความรับผิดชอบในการใช้ชีวิตกับตัวเองและคนอื่นด้วย บางทีมนุษย์ก็ยังทำร้ายกันเองอยู่เลย ยังเอาเปรียบกันเอง แต่มันก็ถือว่าดีกว่าไม่มีกรอบอะไรเลย
สุดท้ายไม่ใช่คำถาม อยากให้ปล่อยมุกสดให้ดูเป็นขวัญตา อยากให้ปล่อยมุกเกี่ยวกับสัตว์ประเภท ‘ปลาดาว’
สัตว์อะไรซื้อมาเลี้ยงแล้วต้องเสียเงินต่อ
สัตว์อะไรครับ?
ปลาดาวเนี้ยแหละครับ
ทำไมล่ะครับ?
ก็พอมันดาวน์เสร็จก็ต้องผ่อนต่อ
…….
| บทความนี้เป็นบทความเขียนร่วมระหว่าง VACHI WANG และ KITTIPAT M | |
 |
VACHI WANG : เป็นนักเขียนที่ชอบ อ่าน-หาคำตอบ-ตั้งคำถาม มากกว่าเขียน หลงรักความเรียบง่าย ไร้ความฝัน แค่อยู่กับปัจจุบัน แล้วใช้ชีวิตไปวันๆ ให้ดี |
