ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน Facebook ยังคงครองบัลลังก์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการโซเชียลมีเดียที่ขยับไปทางไหน แผ่นดินก็สะเทือนเป็นลูกคลื่น อย่างไรก็ตามล่าสุด ผู้ใช้หลายคนเริ่มบ่นกับนโยบายการโฆษณาแผนใหม่ของ Facebook ที่ feed ข่าวแบรนด์ต่างๆ ขึ้นมามากจนน่ารำคาญ และระบบ boot ซึ่งดูเหมือนจะไม่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทมากเท่าไหร่นัก วันนี้ James Borow ซีอีโอตำแหน่ง Strategic Preferred Marketing Developer (SHIFT) แม่ทัพผู้พัฒนากลยุทธ์การตลาดของ Facebook จะมาเปิดใจ ทิศทางต่อไปที่ Facebook 2014 จะก้าวเดินคือทางไหนกันแน่?
Q: อะไรคือสิ่งที่คุณคิดว่าน่าตื่นเต้นที่สุดของการโฆษณาบนเฟซบุคสำหรับปี 2014 ที่จะถึงนี้
A: สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับเฟซบุ๊คมีสองอย่าง หนึ่งคือการที่เราเป็นศูนย์กลางของระบบ cross-device targeting ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่าเม็ดเงินมหาศาลในวงการโฆษณากำลังจะไหลบ่าไปให้กับวงการ mobile มากขึ้น ขณะที่ไอดีของ Facebook สามารถใช้ได้กับ device ทุกแบบซึ่งจะทำให้ Facebook กลายเป็น “สนามเด็กเล่น” ที่มีเสน่ห์มากขึ้น ด้านเทรนด์ที่ Facebook เป็นช่องทางในการติดต่อกับทุกคน ทุกที่ น่าจะต่อเนื่องต่อไปในปี 2014 แม้ว่าจะมีเครื่องมือและช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ เพิ่มมากมายก็ไม่น่าเป็นอุปสรรค
Q: คุณเห็นแบรนด์ไหนพยายามเจาะกลุ่มลูกค้าแบบ cross-device targeting กันหรือยัง?
A: แน่นอน ดูแค่การเปลี่ยนมาเล่นโซเชียลเนคเวิร์กผ่านสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคก็เป็นตัวชี้ที่ชัดเจนแล้ว เม็ดเงินที่ไหลผ่านการมาร์เก็ตติ้งบนมือถือไม่ได้ใช้สำหรับทำการตลาดโดยตรง นักโฆษณาปัจจุบันพูดเสมอว่า “ฉันแค่อยากหาผู้บริโภค ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน” นั้นเป็นสาเหตุว่าทำไมงบโฆษณามหาศาลไหลไปให้การตลาดบนมือถือปีนี้ ขณะที่ผู้บริโภคก็เริ่มไม่แคร์ว่าจะเข้าสู่โลกโซเชียลเน็คเวิร์กผ่านช่องทางไหน ขอแค่ได้เข้าเป็นพอ
ผมคิดว่ามันมีสัญญาณเชิงบวกมากมายที่บ่งบอกว่าตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางนั้นและคิดว่ามันน่าจะเป็นกระแสเสริมให้ Facebook รักษาตำแหน่งผู้นำด้านไอทีต่อไป
Q: ผู้ใช้จะเช็ค Facebook จากมือถือ จากคอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต เช่นนั้นก็มีหลายช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคสิ? นักโฆษณาเริ่มมีกลยุทธ์เด็ดๆ ในการทำการตลาดผ่านมือถือ หรือแท็บเล็ตแล้วหรือยัง? คุณเห็นกลยุทธ์ใหม่เอี่ยมที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นผ่านทางแท็บเล็ตหรือมือถือแล้วหรือยัง?
A: ผมคิดว่าเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นในปี 2014 ซึ่งจะมีโอกาสมากมายให้นักโฆษณาแสวงหา ทั้งหมดขึ้นกับความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคที่เขาคิดว่าเป็นกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นหากผมต้องการเข้าถึงพวกเขาด้วยโฆษณาบนมือถือ ผมต้องมั่นใจว่าผู้บริโภคเป้าหมายจะเปลี่ยนมาหามือถือ หรือเปลี่ยนไปหาแท็บเล็ต หรือแล็บท็อป อย่างไรก็ตาม มุมมองทั้งหมดเป็นการตลาดดิจิตอลแบบภาพกว้างมากจริงๆ ผมยังไม่มองถึงการตลาดบนเว็บ การตลาดบนโซเชียลมีเดีย ทั้งหมดที่พูดมาอยู่ในขั้นเข้าถึงผู้บริโภคและดูว่าพวกเขาเปลี่ยนไปใช้เครื่องมือไหน
Facebook อยู่ในฐานะที่ได้เปรียบมากเพราะพวกเรามีช่องทางข้าม channel อยู่แล้ว เรารู้ว่าผู้บริโภคเป็นใคร และไม่ต้องอาศัยระบบ cookies ในการติดตามข้อมูลของผู้บริโภค การที่ mobile ไม่ได้ใช้ระบบ cookies ทำให้นักการตลาดต้องไม่อาจติดตามได้ว่าผู้บริโภคเห็น ads นี้ครั้งแรกบนที่ไหน บนมือถือ บน laptop หรือบน tablet
แต่ Facebook ดีกว่านั้น ผมสามารถให้คุณดู ad ของเราที่ปรากฏบน app ใน iPhone บนคอมพิวเตอร์ laptop วันนี้ อีก 15 วันคุณก็ยังสามารถเห็นมันบนมือถือได้หากคุณดาวน์โหลด app ไปติดตั้ง ทั้งหมดนี้เป็นช่องทางใหม่และจะเป็นเทรนด์ในปี 2014 ที่จะทำให้ Facebook เป็นช่องทางในการติดต่อกับใครก็ตามที่อยากติดต่อ และดูว่าพวกเขาทำอะไรโดยไม่ต้องสนใจเครื่องมือที่ใช้เชื่อมต่อ
Q: คิดว่าจะมี video ads มากขึ้นไหมในปี 2014
A: แน่นอน ไม่ใช่แค่การ cross-device targeting และ cross-device attribution แต่จะมี cross channel, cross media และอื่นๆ อีก คุณจะได้เห็นวีดีโอ ภาพ และข้อความทุกที่ทุกเวลา ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเหมือนดูทีวีมากขึ้น คนจะเห็นรายการโทรทัศน์และโฆษณาครั้งแรกบนมือถือของพวกเขา จากนั้นพวกเขาอาจไปถกกันต่อใน Facebook แล้วอาจไปเห็นภาคต่อบนทีวี
“ผมคิดว่าคุณจะเห็นวีดีโอมากขึ้น และเห็นในหลากหลายสถานที่มากขึ้น”
Q: สิ่งที่ท้าทายสำหรับการโฆษณาผ่านวีดีโอคือ auto-play video ซึ่ง Facebook พยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด ผมคิดว่าเราคงจะเห็นมันช่วงปี 2014 แน่ๆ คุณคิดว่า auto-play video จะมีผลกระทบอะไรทั้งกับประสบการณ์ในการรับสื่อของผู้บริโภคและผลงานของนักโฆษณา
A: ผมไม่คิดว่าเราจะมี auto-play video ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่ดี ผมคิดว่ามันจะเป็นเหมือนการเช็คข่าวผ่าน Vine หรือ Instagram ข่าวที่ feed ขึ้นมาจะมีเนื้อหาตามสิ่งที่คุณมีประวัติเข้าชม ผมคิดว่ามันจะเยี่ยมยอดมาก มันจะไม่ใช่เพียงโฆษณาแต่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ คือเมื่อคุณไล่หน้าเว็บไปข้างล่างเรื่อยๆ New Feed ของคุณจะมีชีวิตกระโดดโลดเต้นขึ้นมา มันเหมือนอ่านหนังสือพิมพ์ใน Harry Potter อย่างไรอย่างนั้นเลย
“สำหรับผมแล้ว มองจากมุมผู้บริโภคมันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีและมองจากมุมนักโฆษณามันจะเป็นช่องทางใหม่ในการทำกำไร”
Q: คุณคิดว่านักโฆษณาจะทำอะไรผ่าน Instagram ได้บ้าง
A: ผมคิดว่ามันคงจะเหมือน test ที่พวกเขาเคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ แต่จะมีเนื้อหาที่น่าสนใจขึ้น เราจะได้เห็น ad ที่มีความเป็นท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์ หากคุณต้องการสร้างการจดจำแบรนด์ Instagram น่าจะช่วยคุณได้ดี ด้วยภาพประกอบและวีดีโอที่สวยงามซึ่งทำให้นักโฆษณาหันมาสนใจ และอยากใช้ Facebook และ Instagram กันมากขึ้น
สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือหากคุณให้ใครดู ads บน Instagram หากมันเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค คุณสามารถติดตามเขาต่อบน Facebook ได้ทันที มันเยี่ยมแค่ไหนที่ทั้งสองอย่างมีเจ้าของคนเดียวกัน และคุณสามารถ cross-device targeting ได้พร้อมๆ กัน