กลางดึกคืนวาน (4 ตุลาคม 2564) เรียกว่าทำหลายคนมึนงงไปหมดที่ Facebook Instagram เข้าไม่ได้ รีเฟรชไม่ได้ และกว่าจะรู้คำตอบว่า เป็นเพราะ Facebook ระบบล่ม รวมไปถึงโซเชียลมีเดียในเครือด้วย ซึ่งเช้านี้ (5 ตุลาคม 2564) ก็กลับมาใช้งานได้ปกติแล้ว แต่การที่ระบบล่มครั้งนี้ ก็ส่งผลต่อการสูญเสียรายได้ไปมหาศาลของ Facebook เลยทีเดียว
ทั้งนี้ จากการที่ Facebook ระบบล่มรวมไปถึงโซเชียลมีเดียในเครือ ทำให้มหาเศรษฐีเทคโนโลยีรายใหญ่ Mark Zuckerberg สูญเสียมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง นับตั้งแต่เว็บไซต์ของอาณาจักรเทคโนโลยีของเขา ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ WhatsApp ล่มลง เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2021 (ตามเวลาท้องถิ่น)
ล่าสุด ทาง Mark Zuckerberg ก็ได้ออกมาโพสต์ที่เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
To the huge community of people and businesses around the world who depend on us: we’re sorry. We’ve been working hard to restore access to our apps and services and are happy to report they are coming back online now. Thank you for bearing with us.
— Facebook (@Facebook) October 4, 2021
แม้ว่าเขาจะสูญเงินไปมหาศาล แต่สำหรับระดับอภิมหาเศรษฐีบริษัทเทคคอมพานี แต่เขาก็ยังถือว่าเป็คนที่ร่ำรยเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยมีมูลค่าความมั่งคั่งอยู่ที่ประมาณ 117 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ Jeff Bezos ยังครองอันดับ 1 ที่มูลค่าความมั่งคั่งอยู่ที่ 185.8 พันล้านดอลลาร์ ณ ไตรมาส 1 ปี 2021
นอกจากนี้ Mike Schroepfer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Facebook กล่าวขอโทษในแถลงการณ์ที่โพสต์ลงในทวิตเตอร์ “ขออภัยอย่างจริงใจต่อทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการขัดข้องของบริการที่ขับเคลื่อนด้วย Facebook ในขณะนี้ เรากําลังประสบปัญหาด้านเครือข่ายและทีมต่างๆ กําลังทํางานให้เร็วที่สุดเพื่อดีบักและกู้คืนให้เร็วที่สุด”
*Sincere* apologies to everyone impacted by outages of Facebook powered services right now. We are experiencing networking issues and teams are working as fast as possible to debug and restore as fast as possible
— Mike Schroepfer (@schrep) October 4, 2021
การหยุดทํางานเป็นระยะเวลานานที่สุดสําหรับ Facebook เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ปี 2008 เมื่อข้อผิดพลาดทําให้เว็บไซต์ออฟไลน์เป็นเวลานานเกือบหนึ่งวันส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ประมาณ 80 ล้านคน (ณ ตอนนั้น) ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ปัจจุบันแพล็ตฟอร์มนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 3 พันล้านคน
Source:
เครดิตภาพ Frederic Legrand – COMEO / Shutterstock.com