Facebook หุ้นร่วงต่อเนื่อง เงินสูญเกือบ 5 หมื่นล้าน แคมเปญ #DeleteFacebook ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp เอาด้วย

  • 5.7K
  •  
  •  
  •  
  •  

หลังจากที่เรารายงานข่าวหุ้น Facebook ร่วงหนักไปแล้ว (คลิกอ่านข่าว) ล่าสุด ก็มีรายงานอีกแล้วว่า หุ้น Facebook ตกลงอีกเป็นวันที่สอง

CNN Money รายงานเช้าวันที่ 20 มีนาคมว่า หุ้น Facebook ร่วงลงมาอีก 3% คิดเป็นมูลค่า 4.94 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ปีของบริษัท

ทั้งนี้ หลายกระแสเชื่อว่าเป็นการลงโทษของนักลงทุน ที่มีต่อประเด็นร้อน Cambridge Analytica นั่นเอง (กรณีที่ Cambridge Analytica บริษัทที่ทำแคมเปญเลือกตั้งให้ทรัมป์เมื่อปี 2016 และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ Facebook ราว 50 ล้านคน โดยนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง)

และผลจากที่บริษัทหุ้นร่วง ก็ยังลากบริษัทเทคและโซเชียลมีเดียอื่นๆ ร่วงตามลงไปด้วย ได้แก่ Twitter (TWTR) ตกลง10%และ Snap Inc. (SNAP) หล่นไป3% เลยทีเดียว

facebook2

แต่แม้ว่าสถานการณ์จะหนักหน่วงขนาดนี้ ทาง ซีอีโอ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ยังคงนิ่งเฉย ซึ่งหลายๆ ฝ่ายทั้งที่สหรัฐฯ และอังกฤษต่างก็ออกมาเรียกร้องให้เขาแสดงท่าทีเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องคำมั่นที่จะปกป้องสิทธิส่วนบุคคลตามนโยบายคุ้มครองของ Facebook

ทั้งนี้ รายได้ของ Facebook มาจากการขายโฆษณาบนแพล็ทฟอร์ม ซึ่งถ้าผู้ใช้เกิดไม่พอใจและล็อกออฟมากขึ้นเพราะกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว หรือนักโฆษณาใช้เงินซื้อโฆษณาบนแพล็ทฟอร์มนี้น้อยลง ก็อาจส่งผลต่อการสูญเสียรายได้ที่ตามมาด้วย

ที่น่าเป็นห่วงเพิ่มขึ้นคือ หลังเกิดเหตุการณ์ Cambridge Analytica ก็มีการเรียกร้องจากหลายฝ่ายเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัว โดยเริ่มมีการรณรงค์ผ่านแคมเปญ #DeleteFacebook และ #WheresZuck ผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยหวังว่าจะทำให้ซีอีโอ Facebook ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และดูเหมือนว่าแคมเปญนี้จะเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้นแล้วด้วย

โดยฮือฮามากขึ้นไปอีกคือ Brian Acton ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp เองถึงกับออกมาร่วมจอยขึ้นแฮชแท็ก #DeleteFacebook ไปกับเขาด้วย

facebook1

หรือแม้แต่ Roger McNameeซึ่งเป็นทั้งผู้ลงทุน Facebook และเป็นอดีตที่ปรึกษาให้กับ ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ออกมาระบุว่า “ตอนนี้โซเชียลเน็ตเวิร์คกำลังเผชิญกับวิกฤตความศรัทธาของสาธารณชน หรือบางทีอาจถึงกาลล่มสลายของบริษัทก็เป็นได้”

ทั้งนี้ ซัคเคอร์เบิร์ก ถือหุ้น Facebook อยู่ราว 400 ล้านหุ้น แต่จากวันที่หุ้นตก ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาหายไป 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (นับแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา) โดยคิดมูลค่าทรัพย์สินในบริษัทของเขาอย่างหยาบๆ คือประมาณ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และไม่ต้องห่วงตำแหน่งของเขาไปหรอก เขารอดจากการเสียเก้าอี้แน่นอน เพราะว่าเขาถือหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท การโหวตไม่มีผลแต่อย่างใด (พูดให้ตรงคือเขาจะไม่พบกับสภาวะแบบที่สตีฟ จ็อบส์เคยเจอ)

ปรากฏการณ์นี้จะกลายเป็น‘น้ำผึ้ง’ ที่สั่นคลอดอำนาจของแพล็ทฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ได้หรือไม่ น่าจับตามากทีเดียว.

ที่มา CNN Money และ CNN Tech


  • 5.7K
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!