การทำโฆษณาบน Facebook เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ทุกธุรกิจไม่ว่าจะเป็น Startups หรือ SMEs ต้องใช้เพื่อสื่อสารกับลูกค้าเป้าหมาย ขายสินค้าและบริการ ทำยอดขายและกำไรเข้ากิจการ
แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าโฆษณาที่เราสร้างขึ้นทั้งหมดในแคมเปญหนึ่งบน Facebook ตัวไหนที่มียอดไลค์คอมเม้นท์แชร์สูงสุดเทียบกับโฆษณาตัวอื่นๆ และบรรลุเป้าหมายกิจการของเราในที่สุด ฉะนั้นการทดลองปล่อยโฆษณาเทียบกันหลายๆเวอร์ชั่นในเวลาเดียวกัน หรือที่เราเรียกว่า A/B Testing ทำให้เรารู้ว่าโฆษณาตัวไหนได้ผลดีที่สุด เข้าถึงผู้ชมมากที่สุด
การทำ A/B Test เลือกตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย แบ่งเป็นสองกลุ่ม แล้วโพสต์โฆษณาหลายๆเวอร์ชั่นในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราจะทำให้โฆษณาแต่ละเวอร์ชั่นแต่กต่างกันได้อย่างไร เพราะองค์ประกอบที่ต่างกัน ย่อมให้ผลลัพธ์ต่างกันแน่นอน
ฉะนั้นมาดูองค์ประกอบ 7 ข้อ ทำโฆษณาบน Facebook ให้แตกต่างและสร้างสรรค์ มัดใจเป้าหมายกัน
1. จุดรวมโฟกัส
รูปภาพที่มีจุดรวมโฟกัสช่วนให้คนสังเกตสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อ
2. ลิ้งค์ของแบรนด์
โฆษณาบน News Feed จะให้ผลลัพธ์ดีกว่า เพราะคนเห็นลิ้งค์และกดเข้าไปได้ง่ายกว่า
3. บุคลิกของแบรนด์
โฆษณาต้องสอดคล้องกับสิ่งที่คนคิดกับแบรนด์ให้มากที่สุด
4. มีข้อมูลครบถ้วน
น่าสนใจและเชื้อเชิญพอที่จะกดเข้าไปดู โดยเฉพาะหัวเรื่องสำคัญมาก เรียกผู้ชมสนใจได้ดี
5. ใส่อารมณ์เข้าไป
โดยเฉพาะอารมณ์ขันและอารมณ์ที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ได้อย่างดี ช่วยให้โฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. สังเกตง่าย
ลองคิดดูว่าอะไรที่ทำให้คนหยุดนิ้วโป้งบนมือถือ แล้วดูโฆษณาของเรา ยิ่งเป็นโฆษณาวีดีโอ ยิ่งได้ผล
7. เรียกร้องให้ลงมือทำ
เช่นใส่ปุ่ม “Shop Now” ลงไป แค่นี้โฆษณาของเราก็มีแนวโน้มเรียกผู้ชมกดเข้าไปดูโฆษณามากขึ้น และอีกหลายๆปุ่มอย่าง Shop Now (ช็อปเลย), Book Now (จองเลย), Learn More (เรียนรู้มากกว่านี้), Sign Up (ลงทะเบียน), Download (ดาวน์โหลด), Watch More (ดูต่อ), Contact Us (ติดต่อเรา), Apply Now (สมัครเลย), และ Donate Now (บริจาคเลย).
หลังจากที่เราตั้งเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มทดสอบโฆษณา แล้วคอบดูผลลัพธ์ที่อยากเห็นได้เลย
1. หากเราต้องการทดสอบรูปภาพบนโฆษณา เราก็จะเห็นโฆษณาทุกเวอร์ชั่นที่ต่างกันแค่รูปภาพที่เราต้องการทดสอบ ปล่อยโฆษณาทุกตัวออกไปในช่วงเวลาเดียวกัน
2. จะทดสอบโฆษณาตัวเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมายหลายๆกลุ่มก็ได้ เช่นจะยิงโฆษณาไปกลุ่มทั้งผู้หญิงและกลุ่มผู้ชายอายุ 18-34 ปีที่ซื้อรถครั้งแรกก็ได้ และรอดูผลลัพธ์ของโฆษณา
3. Facebook จะแจกแจงผลลัพธ์ให้เห็นว่าโฆษณาตัวไหนทำหน้าที่ได้ดีกว่า และยังแสดงโฆษณาให้เราเห็นได้ทั้งแบบ News Feed และคอลัมน์ด้านขวา
จากนั้นก็ปล่อยให้ Facebook กำหนดว่าโฆษณาตัวไหนทำหน้าที่ดีที่สุด จากนั้นก็เพิ่มยอดไลค์เม้นแชร์ในงบที่จำกัดโดยอัตโนมัติ เราสามารถทดสอบโฆษณาหลายๆเวอร์ชั่นกับกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน หรือยิงโฆษณาตัวเดียวกันไปที่กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มที่ต่างกันก็ได้ จากนั้นเปิดโฆษณาที่ได้ผลมากที่สุดไว้ตัวเดียวให้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มที่
การทำโฆษณาบน Facebook ไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีโฆษณาตัวไหนที่ดีที่สุดตลอดไป ตรงนี้แหละที่เป็นข้อดีของการทำโฆษณาบน Facebook เพราะหากโฆษณาตัวไหนไม่ดี เราก็แค่เปลี่ยนองค์ประกอบของโฆษณาตัวนั้นไปเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นภาพ ลิ้งค์ วีดีโอ ตัวอักษร แม้แต่การจัดวาง และเราก็จะรู้ว่าโฆษณาตัวไหนที่ปังที่สุดสำหรับกิจการของเรา
แหล่งที่มา
https://facebook.exceedlms.com/student/home/show_enrollment/40872519