ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทุกคนมีไม่ต่ำกว่า 1 เครื่อง ด้วยหน้าจอที่มีขนาดเล็ก แต่กลับมีอิทธิพลอย่างมาก ล่าสุด Google และ IPSOS จึงได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันว่าจะมีผลกระทบอย่างไรต่อวงการการตลาด ซึ่งสำรวจจากผู้ใช้งานที่อยู่ในช่วงอายุ 18 – 34 ปี พบว่าคนกลุ่มนี้มีการครอบครองสมาร์ทโฟนมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ รวมถึงยังนิยมใช้สมาร์ทโฟนมากกว่าแลปท็อป และคอมพิวเตอร์อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่ดูวิดีโอบนสมาร์ทโฟน จะตั้งใจมากกว่าการดูโทรทัศน์
จากผลการวิจัย พบว่า มี 2 วิธี ที่นักการตลาดและแบรนด์ จะเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยใช้วิดีโอ คือ
• ต้องคำนึงการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีหลากหลายจอ หรือผลิตคอนเท้นต์สำหรับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ
• สร้างประสบการณ์ และความรู้สึกดีๆ
โดยผลสำรวจจาก YouTube พบว่า ผู้ที่ดูวิดีโอบนยูทูป 40% มาจากการใช้งานบนสมาร์ทโฟน ซึ่งนี่เป็นโอกาสของนักการตลาดอย่างมากที่จะเข้าถึงพวกเขา ทั้งนี้ หน้าจอสมาร์ทโฟนก็ทำให้พื้นที่โฆษณามีขนาดเล็กตามไปด้วย แต่สมาร์ทโฟนก็ยังมีประสิทธิภาพสูงในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนวงการ Mobile Marketing อย่างมาก
สถิติที่น่าสนใจ
จากกราฟเราจะเห็นว่า ผู้ใช้งานที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี นิยมใช้สมาร์ทโฟนเพื่อดูวิดีโอ มากถึง 98% รองลงมาคือ โทรทัศน์ 81%
นอกจากนี้ การเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่ม Millennials พวกเขาจะใช้สมาร์ทโฟนดูวิดีโอเวลาอยู่คนเดียว 28% ซึ่งจะทำให้เกิดการดูอย่างต่อเนื่อง และตั้งใจเต็มดูที่ ส่วนของสถานที่นั้น แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนไม่ได้ถูกใช้งานที่บ้านอย่างเดียว แต่ใช้งานได้ทุกที่ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต คาดว่าในอนาคต ผู้บริโภคในกลุ่ม Millennials จะใช้สมาร์ทโฟนดูวิดีโอ จะเพิ่มเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบจากในปี 2014
แล้วต้องทำอย่างไรเพื่อผลิต Mobile Video สำหรับแบรนด์
ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ดังนั้นวิธีที่จะทำตลาดให้ประสบความสำเร็จ จึงต้องเชื่อมโยงวิดีโอให้เข้าถึงผู้บริโภคให้ได้ นี่คือ 2 เคล็ดลับที่เราจะแนะนำ
1. ต้องคำนึงการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีหลากหลายจอ หรือผลิตคอนเท้นต์สำหรับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ
อย่างที่ทราบกันดีว่า โลกนี้ไม่ได้มีแค่จอเดียว แม้สมาร์ทโฟนจะเป็นหน้าจอหลักก็ตาม แต่ยังมีแลปท็อป แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ฯลฯ คุณต้องแน่ใจว่าคอนเท้นต์ที่ผลิตมานั้น จะรองรับการใช้งานได้ทุกอุปกรณ์
2. สร้างประสบการณ์ และความรู้สึกดีๆ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า 98% ของผู้บริโภค (อายุระหว่าง 18-34 ปี) นิยมใช้สมาร์ทโฟนในการดูวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรืออยู่ระหว่างการเดินทาง แบรนด์และนักการตลาดจึงต้องสร้างโอกาสเพื่อเข้าถึงพวกเขาให้ได้มากที่สุด ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะประสบการณ์แบบ Real-time ที่ผู้บริโภคพร้อมจะให้ความสนใจอย่างเต็มที่ ซึ่งการตลาดประเภทนี้จะเป็นการตลาดที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และไร้ขอบเขต เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สนุกและมีประสิทธิภาพสูง แถมยังช่วยต่อยอดในโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี อันจะทำให้คุณแตกต่างจากคู่แข่งที่มีอยู่มากกมาย
ยกตัวอย่างเช่น Volkswagen ที่เลือกใช้อำนาจของสมาร์ทโฟนอย่างเต็มที่ ด้วยการเปิดตัวแอพฯ SmileDrive ไปเมื่อปลายปี 2006 เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค และช่วยให้การเดินทางเปรียบเสมือนไดอารี่และเกม ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ผู้ใช้รถของ Volkswagen เท่านั้น โดยแอพฯ จะทำการเก็บข้อมูลของผู้ใช้เกี่ยวกับการเดินทาง ทั้งระยะทาง เวลา สภาพอากาศ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถแชร์ประสบการณ์การเดินทางด้วยข้อมูลเหล่านี้ได้ พร้อมถ่ายภาพอัปเดทไปยังคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
ในส่วนของเกม เมื่อผู้ขับขี่แซงรถยนต์ Volkswagen ที่มีผู้ขับใช้แอพฯ เหมือนกัน ก็จะมีการเก็บคะแนน และสรุปคะแนนเป็นโบนัสเมื่อสิ้นสุดการเดินทาง เมื่อสิ้นสุดปี 2014 มีผู้ขับขี่ที่ใช้แอพฯ นี้มากถึง 200,000 คน
