เทคโนโลยีในปัจจุบันเริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตของคน โดยเฉพาะในชีวิตการทำงานที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของงานในทุกๆ วัน และเทคโนโลยีในอนาคตกำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของหลายๆ คน โดยเฉพาะการใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านพักอาศัยและเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เทคโนโลยีเหล่านั้นเรียกกันว่า “Smart Home” ซึ่งใช้ระบบ Machine Learning และ AI ในการเข้ามาช่วยให้บ้านมีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น
แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า จะต้องใช้อุปกรณ์แบบใดถึงจะทำให้บ้านกลายเป็น Smart Home เพราะระบบ Smart Home คือการทำให้ชีวิตสะดวกสบายและง่ายขึ้นผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน หากอยากจะให้บ้านกลายเป็น Smart Home ก็คงต้องถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Power Buy โดยเฉพาะในงานมหกรรม Power Buy Expo 2018 ที่ได้รวบรวม เครื่องใช้ไฟฟ้าและนวัตกรรมใหม่ล่าสุด โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีระบบ AI และ Machine Learning ช่วยเปลี่ยนให้บ้านธรรมดากลายเป็น Smart Home ในทันที ภายใต้คอนเซ็ป “The Next Big Things เทคโนโลยีที่คุณสัมผัสได้”
โดยเฉพาะไฮไลท์ของงานจะแบ่งออกเป็น 7 โซนสำคัญๆ โดยโซนแรกมีชื่อว่า “Smart Space” จะเน้นไปที่เทคโนโลยี Voice Command หรือการสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมระบบแสงไฟ ทีวี รวมไปถึงลำโพงและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่รองรับระบบ Voice Command ช่วยให้สามารถสั่งการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยคำพูด ผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในระบบ IoT เรียกว่า กลับมาบ้านเหนื่อยๆ ก็สั่งด้วยเสียงให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างทำงาน เช่น เปิดรายการ TV ดูซีรีย์ที่ใช่ หรือ ฟังเพลงที่ชอบได้ง่ายๆ หรือปั่นงานเครียดๆ ก็เปลี่ยนโหมดไฟในห้องให้เป็นสีสันพร้อมเรียกเพลงออกมากระตุ้นเข้าโหมดรีแล็กซ์ก็เท่สุดๆ ไปเลย
โซนต่อมาจะเป็นโซน “Easy Food Easy Life” สำหรับแม่บ้านยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ครัวที่บ้านเป็นครัวอัจฉริยะสามารถ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และที่เด็ดสุดคือสามารถค้นหาสูตรวิธีการทำอาหารในอินเตอร์เน็ต โดยจะแสดงผลบนจอที่ฝังไว้บนโต๊ะทำอาหาร นอกจากนี้ยังนำเสนอเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตได้ เช่น ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ภายในห้องครัว เป็นต้น รวมไปถึงการสั่งงานผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น ทุกอย่างง่ายสุดๆ แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส
โซนต่อมาจะเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีรุ่นใหม่ของทีวีอย่าง “เลเซอร์ทีวี Hisense 100 นิ้ว” ที่ช่วยให้ดูภาพยนตร์ได้อย่างสบายตาและให้ความรู้สึกเหมือนดูในโรงภาพยนตร์ เนื่องจากเทคโนโลยีทีวีทั่วไปคือการยิงแสงให้มากระทบกับม่านตา แต่เลเซอร์ทีวีจะเป็นการยิงแสงไปยังจุดตกกระทบแล้วจึงสะท้อนเข้าสู่ม่านตา จึงทำให้สบายตาที่สำคัญความละเอียดของภาพไม่สูญเสียอีกด้วย
นอกจากจะมีโซนที่โชว์ถึงนวัตกรรมแล้ว ยังมีพันธมิตรที่สำคัญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาด้วยในครั้งนี้ อย่างเช่น LG ที่นำเทคโนโลยี LG IoT มานำเสนอ ระบบดังกล่าวสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างได้ผ่านแอปพลิเคชั่น SmartThinQ ทั้ง แอร์คอนดิชั่นเนอร์ ทีวี ตู้เย็น โดยผ่านระบบ AI ด้วยการสั่งงานเสียง (VoiceCommand) สามารถควบคุมการทำงานได้เพียงปลายนิ้วผ่านสมาร์ทโฟน ได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่สำคัญ LG เปิดตัวครั้งแรกที่งานนี้กับสุดยอด LG OLED TV รุ่น OLEDW8PTA ใหม่ล่าสุด ที่ชูจุดเด่นผ่านนวัตกรรม LG ThinQ®AI ระบบปฏิบัติการสมาร์ททีวีผ่านการสั่งงานด้วยเสียง มาพร้อมกับฟีเจอร์ภาพและเสียงเหนือคำบรรยาย ต้องมาทดลองสัมผัสด้วยตัวเองที่งานนี้เท่านั้น และยังเปิดให้พรีออเดอร์เตรียมรับสินค้าไปดูบอลช่วงบอลโลกแบบจุใจ
หรืออย่าง Haier ที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างแอร์คอนดิชั่นเนอร์ที่สามารถล้างทำความสะอาดได้ด้วยตัวเองผ่านระบบ AI ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าล้างแอร์อีกต่อไป รวมไปถึงเครื่องซักผ้าที่มาถึง 2 ถังช่วยให้ซักผ้าได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ Haier นำแอร์รูปทรง Tower รูปแบบใหม่ ฉีกจากอะไรเดิมๆ มาเปิดตัวที่งานนี้ด้วยเช่นกัน รุ่นนี้เรียกว่า FST Series Inverter R410a Vertical Air HAIER new เปิดประสบการณ์ความเย็นรอบทิศทาง (Enjoy Long Distance Air Flow With Full Comfort) พร้อมควบคุมการทำงานเปิด-ปิด จากทุกที่ด้วยระบบ 4G หรือระบบ WiFi ผ่านทางโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ซึ่งแอร์รุ่นนี้จัดโชว์ภายในห้อง Smart Space ตกแต่งอย่างลงตัวกับพื้นที่ในบ้าน ใครอยากรู้ว่าฟังก์ชั่นการใช้งานจะเหมือนหรือแตกต่างจากแอร์ติดผนังยังไงบ้าง ต้องไปชมกัน
นอกจากนี้ ภายในงาน Power Buy Expo 2018 ยังได้จัดโซนกิจกรรมร่วมสนุกกับผู้เข้าชมงาน กับโซน PowerBuy Snap ร่วมกิจกรรมชิงรางวัล เพียงแค่เข้าไปร่วมถ่ายรูปกับ Green Screen ซึ่งจะมีการซ้อนภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เข้าไปรวมด้วย คนไหนสามารถถ่ายภาพออกมาได้โดนใจคณะกรรมการก็สามารถรับรางวัลไปได้เลย รวมไปถึงโซนของ PlayStation จากค่าย Sony ที่มีการจัดแข่งขันเกมฟีฟ่า
พิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าในงาน Power Buy Expo 2018 ส่งกลับบ้านต่างจังหวัดก็สามารถซื้อสินค้าภายในงานแล้วให้ทาง Power Buy Expo จัดส่งสินค้าไปยังจังหวัดที่มีสาขาของ Power Buy ตั้งอยู่ได้ฟรี และหากจังหวัดที่ส่งไปไม่มีสาขาของ Power Buy Expo ก็สามารถจัดส่งได้ โดยคิดค่าจัดส่งตามระยะทางที่มีสาขา Power Buy Expo ใกล้ที่สุด นอกจากนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สนใจซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในงาน Power Buy Expo 2018 จึงได้จัดให้มีการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ โดยสามารถซื้อได้ยาวนานจนถึงเที่ยงคืนภายในช่วงระยะเวลาจัดงาน
เห็นอย่างนี้แล้ว ใครที่อยากให้บ้านตัวเองฉลาดมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ลองมาเยี่ยมชมภายใน Power Buy EXPO 2018 งานจัดถึงวันที่ 6 พ.ค.61 ที่ไบเทค บางนา ฮอลล์101-102 ไม่แน่ว่ากลับบ้านไป บ้านที่อยู่ในปัจจุบันอาจจะฉลาดขึ้นมาทันทีก็เป็นได้