“ของเก่า” ใคร ๆ ก็บอกว่าคลาสสิค แต่คำว่า “คลาสสิค” ที่ว่านี้ ทำให้นึกถึงอะไร? เพราะภาพจำของผู้คนส่วนใหญ่ ความเก่า – ความโบราณ มักจะถูกตีค่าเป็นเรื่องของโบราณสถานโบราณวัตถุ แต่ความเป็นจริงแล้วความเสน่ห์ของความคลาสสิคมีมากกว่านั้น
ประเด็นเหล่านี้คงไม่มีใครรู้จริง และให้ข้อมูลได้ดีกว่าตัวจริงของวงการ! เพราะ งานสถาปนิก’63 ปีนี้ ชูประเด็นจัดงานภายใต้แนวคิด “Refocus Heritage : มองเก่า ให้ใหม่”
แน่นอนว่างานนี้จัดขึ้นจากความเชี่ยวชาญของ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) กับคอนเซปต์ที่ต้องการเปลี่ยนภาพจำของผู้คนเกี่ยวกับความเก่าให้เป็นอะไรใหม่ ๆ ในหลากหลายมิติ ที่ต่างไปจากเดิมให้กลายเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านการนำเสนอประสบการณ์ด้านมรดกสถาปัตยกรรมจากนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานครั้งที่ 34
“มองเก่า ให้ใหม่” พลิกความเข้าใจออกนอกกรอบ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าการจัดงานในครั้งนี้ ต้นตำรับงานสถาปนิกอย่างสมาคมสถาปนิกสยามฯ และนีโอ ตั้งใจสร้างการรับรู้ใหม่แก่ผู้เข้าชมงาน เพื่อบอกเล่ามุมมองความเก่าผ่านประสบการณ์ใหม่ พื้นที่จัดงานกว่า 75,000 ตร.ม. จึงกลายเป็นเวทีแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยรวมเอาแบรนด์ใหญ่ และแบรนด์เล็กที่มีสินค้าและนวัตกรรมที่น่าสนใจมาอยู่ในงานเดียวกันอย่างครบครันรวมกว่า 850 บริษัททั่วโลก อาทิ ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย รัสเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินเดีย จีน และอาเซียน
หากย้อนมองธีมงานในครั้งนี้ ความเป็น Refocus Heritage ตามสไตล์ที่ผู้จัดงานตั้งใจนำเสนอ จึงกลายเป็นเรื่องการนำพาสิ่งเก่า ๆ ออกมานอกกรอบเพื่อสร้างความคิด ความเข้าใจ ตลอดจนประสบการณ์ใหม่แก่ผู้เข้าชมงาน รวมถึงสถาปนิกและผู้ประกอบวิชาชีพในแวดวงที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถปรับความคมชัด (Focus) ของประสบการณ์ที่มีต่อมรดก สถาปัตยกรรมอย่างลงลึกในรายละเอียด (Zoom) ได้รับข้อมูลที่สนับสนุนต่อการประกอบวิชาชีพหลากหลายมากขึ้น ขณะที่ ผู้ที่เคยรับรู้ต่อมรดกสถาปัตยกรรมในมุมใดมุมหนึ่งก็จะได้ประสบการณ์ที่ขยายขอบเขตมุมมองที่กว้างขึ้น (Wide Angle) ค้นพบมรดก สถาปัตยกรรมที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน และอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน มองเห็นมรดกในทุกมิติ
ดังนั้น การ Refocus Heritage ตามแนวคิดของงานสถาปนิก’63 จึงไม่ใช่แค่การพาทุกคนออกจากกรอบและเห็นมุมมองใหม่ แต่ยังเป็นการชักชวนให้หันมาใส่ใจของเก่า มองให้เห็นถึงเรื่องราวและคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น เพื่อร่วมกันฟื้นฟูและสืบค้น ตั้งแต่รูปแบบ วัสดุ และเทคนิคฝีมือช่างดั้งเดิมให้กลับคืนมา พร้อมทั้งประยุกต์ให้เข้ากับของใหม่ ทั้งวัสดุ เครื่องมือ เทคโนโลยี เพื่อช่วยให้เกิดความตระหนักรู้ รวมทั้งช่วยกันบริหาร จัดการคุณค่าของมรดกเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อปัจจุบันและอนาคต
เพราะ “Heritage” ไม่ใช่ “ล้าสมัย”
แม้ว่าเรื่องสถาปัตยกรรมและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สืบทอดจากอดีต แต่ความเป็น Heritage ในยุคนี้กลายเป็นอีกเรื่อง! เพราะต้องทำให้เรานึกถึงสาระสำคัญที่แท้จริง สะท้อนคุณค่าจากความตั้งใจในการสร้างสรรค์สำหรับช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะส่งต่อไปยังรุ่นต่อไป แต่จากแนวคิดเดิมที่ผู้คนอาจเข้าใจว่าสิ่งที่เป็นมรดกนั้นจะไม่สามารถแตะต้อง หรือเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไอเดีย Heritage ในยุคนี้ ควรจะเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วม ดูแล รักษา และใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปได้ภาคภูมิใจ
เติมเต็มประสบการณ์ใหม่ “ประกันภัย – IoT – Talks” อัดแน่นในงานเดียว
เพราะเป็นงานประจำปีที่จัดเพียง 1 ครั้งต่อปี จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผู้จัดงานจึงหมายมั่นที่จะรวมเอาผู้คนในแวดวงที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ และผู้เข้าชมงานเข้าไว้ด้วยกัน และหากจะบอกว่าพื้นที่ภายในงานถูกจับจองไปแล้ว 70% ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นเดียวกัน! เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสโชว์สินค้าและเทคโนโลยีแก่ผู้บริโภคแล้ว งานนี้ยังสร้างโอกาสระหว่างแบรนด์ ระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเองอีกด้วย
เพราะภายในงานไม่ใช่แค่การรวมเทคโนโลยีด้านสถาปัตยกรรมและวัสดุก่อสร้างเอาไว้อย่างครบครัน แต่การจัดงานครั้งนี้ยังขยายโซนให้ครอบคลุมเพื่อตอบโจทย์คนในแวดวงมากยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มโซน “ประกันภัย” และ “โซลูชัน IoT” และบ้านอัจฉริยะ”หรือแม้แต่กิจกรรมใหม่ “Inno-talks” ก็ถูกเติมเต็มภายในงานเดียวกัน
ประกันภัย ที่ถูกนำมาพูดถึงภายในงาน แบ่งออกเป็น 3 ประเด็น คือ ประกันภัยงานก่อสร้าง ซึ่งให้ความคุ้มครองเจ้าของโครงการ ผู้ว่าจ้าง และผู้รับเหมาโครงการต่อความสูญเสีย รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวงานและทรัพย์สินเดิมของผู้ว่าจ้าง, ประกันภัยความเสี่ยงทุกชนิดของทรัพย์สิน คุ้มครองทรัพย์สินที่เอาประกันต่อความสูญเสียและความเสียหายโดยตรงทางกายภาพจากสาเหตุภายนอกทุกกรณี และการประกันภัยความรับผิดชอบทางวิชาชีพ ให้ความคุ้มครองความรับผิดตามกฎหมายของผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานในวิชาชีพของตนโดยประมาท เป็นต้น
โซลูชัน IoT ที่จะได้เห็นภายในงานครั้งนี้ ได้แก่ การครอบคลุมเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและก่อสร้าง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาของสถาปนิก วิศวกร และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน รวมไปถึง Smart home showcase การทำเอาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย หรือระบบอัตโนมัติต่างๆเข้ามาใช้ทั้งภายนอก และภายในบ้าน โดยเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานในหลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง
Inno-talks กิจกรรมพิเศษที่เพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกภายในงานนี้ โดยรวมกูรูตัวจริงในวงการมาบอกเล่าเทคโนโลยีเพื่องานสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างโดยเฉพาะ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวันที่ 28 เม.ย. – 3 พ.ค. 2563 เวลา 10.00 – 20.00 น. ทั้งผู้ประกอบการและผู้เข้าชมงานจะได้พบกับความยิ่งใหญ่ของการจัดงานสถาปนิก’63 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่สนใจจับจองพื้นที่ออกบูธภายในงาน อยากให้รีบตัดสินใจก่อนพื้นที่จะเต็ม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ N.C.C. Exhibition Organizer Co., Ltd. ติดต่อ 02-203-4279 Email: architect@nccexhibition.com หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก www.asa.or.th/architectexpo และ Facebook Page : ASA EXPO