“ให้มองว่าทุกวันเป็นเหมือน new record ของเรา” คำพูดหนึ่งที่ออกจากปาก ‘คุณกระทิง’ หรือ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KASIKORN Business-Technology Group (KBTG) ซึ่งค่อนข้างสะท้อนถึง vision ที่มุ่งมั่น ชัดเจนเหมือนทุกๆ ครั้งที่เอ่ยปากพูดถึงแผนธุรกิจในอนาคต
อย่างที่รู้ๆ กันว่า ธนาคารกสิกรไทย พยายามปรับปรุง พัฒนา และยกระดับธนาคารให้เป็นมากกว่าธนาคาร ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ซึ่ง KBTG บริษัทเทคโนโลยีที่มุ่งมั่นด้านเทค-นวัตกรรมมาตลอด วันนี้คุณกระทิง ได้ย้ำวิสัยทัศน์อีกครั้งบนเวที KBTG Beyond the Future Day 2020 ว่า Mission ยิ่งใหญ่ที่สุดของ KBTG ยังมุ่งไปที่การเป็น ‘one of the best technology in Southeast Asia’
“ผมอยากให้ทุกคนนึกถึง KBTG หากเราพูดถึงบริษัทเทคโนโลยีจากประเทศไทย เหมือนกับเวลาที่เราพูดถึง อินโดนีเซีย แล้วหลายๆ คนนึกถึง gojek หรือ traveloka”
ด้วยกระแสของ ‘เทคโนโลยีและนวัตกรรม’ ที่มันมาแน่ๆ (Innovation is the call.) หมายความว่า มันจะอยู่กับเราทุกขั้นตอนของชีวิต ดังนั้น สิ่งยั่วยวนเหล่านี้ทำให้ KBGT ต้องแอคทีฟตัวเอง ทั้งพัฒนาองค์กร ทรัพยากร จนทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมเดียวกัน เพื่อปูทางให้กับการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต
โดยผลิตภัณฑ์ที่ถูกปล่อยมาจาก KBGT พูดได้ว่า มูฟเมนต์การเติบโตค่อนข้างน่าสนใจ อย่าง ‘KhunThong’ เหรัญญิกของคนรุ่นใหม่ ที่เปิดตัวได้ไม่นาน ก็มีผู้ใช้งานกว่า 500,000 รายแล้ว
ส่วน ‘Make By KBank’ เป็นบริการช่วยจัดการการเงินให้กับเราง่ายๆ และ ‘Eatable’ แหล่งรวมร้านค้าจากทุกทิศทางบนแอพพลิเคชั่นเดียว ซึ่งทาง KBTG ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 10,000 ร้านค้าพาร์ทเนอร์ ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของ KBTG ทั้งหมดนี้ ทำให้เราเชื่อมั่นว่า KBTG กำลังเอาจริงเอาจังกับการเป็นบริษัทเทคโนโลยี และเป้าหมายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คุณกระทิง เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา KBTG ได้ร่วมมือกับหลายๆ ส่วนในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน co-innovation กับโรงพยาบาลสมิติเวช หรือร่วมทำ ‘Deep Tech Research’ เพื่อให้เข้าใจและพัฒนาโปรดักส์ใหม่ๆ ออกมาได้ตอบโจทย์ เป็นที่ต้องการมากกว่าเดิม
KBTG ไม่ได้จำกัดกรอบอยู่แค่ในไทย
การขยายขอบเขตความรู้ด้านนวัตกรรมของ KBTG ยังขยายไปยัง ‘จีน’ ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่อง ‘Fintech’ ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัวบริษัท KTECH ในนครเซินเจิ้น ซึ่งคาดว่าในปี 2030 จะมีพนักงานประมาณ 300 คน
นอกจากนี้ KBTG ยังมีการทำงานร่วมกับประเทศเวียดนาม เมียนมา และ อินโดนีเซีย ซึ่งคุณกระทิงพูดว่า “การ co-innovation กับหลายๆ ประเทศ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญระหว่างกันได้ อย่างที่เวียดนามจะแข็งด้าน development หรืออย่างที่เมียนมา เราได้ทำงานร่วมกับ Abank ชื่อดังของเขา”
คุณกระทิง ยังพูดขำๆ บนเวทีด้วยว่า “ตอนนี้เราต้องการพนักงานร่วมทำงานกับ KBTG อีก 700 คน ตามแผนที่จะอัพสเกลธุรกิจ จากพนักงาน 1,200 คนเพิ่มเป็น 1,900 คน”
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่คุณกระทิงพูดบนเวที คือ วิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างแน่วแน่ทั้งวัฒนธรรมขององค์กร, คนทำงาน และแนวคิด โดยพูดว่า “KBTG ไม่ได้สนใจหรือโฟกัสว่า การเปิดตัวโปรดักส์ใหม่จะสู้คนอื่นได้มั้ย หรือแข่งขันได้หรือไม่ แต่เราแข่งขันกับตัวเอง ทำยังไงก็ได้ให้ KBTG เข้าใกล้เป้าหมายมากที่สุด และบริการของเรา serve ลูกค้าได้ครบทุกกลุ่ม”
ถือว่าการให้มุมมองของคุณกระทิงครั้งนี้ ตอกย้ำ vision ได้ดีทีเดียว และน่าจะปลุกไฟในตัวใครได้หลายๆ คน หรือแม้แต่ภาคธุรกิจเองที่ยังต้องต่อสู้กับการระบาดของ COVID-19 และหมด passion ในการฟื้นธุรกิจ อย่างน้อยเป้าหมายที่ใหญ่ก็น่าจะทำให้เราเห็น aim ชัดขึ้น และกระตือรือร้นที่จะเดินไปถึงจุดนั้นให้ได้!