ตลาดจีน เป็นตลาดที่หลายแบรนด์อยากจะไปทำธุรกิจด้วยอย่างมาก ซึ่งแม้ว่าจะมีแบรนด์ไทยได้ไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกแบรนด์จะประสบความสำเร็จ เอเจนซี่ไทยหนึ่งเดียวที่ตอนนี้ได้ไปบุกเปิดบริษัทโฆษณายังประเทศจีน จะมาเล่าถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ รวมถึงเคล็ด (ไม่) ลับในการสร้างแบรนด์ในการไปจีนให้สำเร็จ ผ่านประสบการณ์การดีลงานกับลูกค้าโดยตรง คุณดิสรา CEO & Founder Yell Bangkok บนเซสชั่น “ไม่ใช่แค่จีนบุกไทย แต่แบรนด์ไทยก็ไปบุกจีนได้” ในงาน AdPeople ซึ่งเราขอสรุปใจความสำคัญ ดังนี้
ประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูงที่สุดในโลก ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน และเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตลาดจีนจึงเป็นเป้าหมายสำคัญของหลายธุรกิจทั่วโลกที่ต้องการขยายฐานลูกค้า อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ตลาดจีนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีลักษณะเฉพาะที่ต้องศึกษาและเตรียมพร้อมอย่างละเอียด
ตลาดจีนเป็นหนึ่งในโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายตัว เนื่องจากขนาดตลาดที่ใหญ่และความหลากหลายของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม การบุกตลาดนี้ต้องอาศัยความเข้าใจลึกซึ้งทั้งในด้านพฤติกรรมผู้บริโภคและวัฒนธรรม เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จได้
1.เข้าใจ “จังหวะที่ใช่” (Timing)
ความสำคัญของจังหวะเวลาถือเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจในจีน
ปัจจัยเศรษฐกิจ: จีนเป็นตลาดใหญ่ที่มี GDP คิดเป็น 18% ของโลก และเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย การส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่คือ “ช่วงเวลาทอง” สำหรับธุรกิจไทยที่ต้องการเข้าสู่ตลาดจีน
ตัวอย่างความสำเร็จ: การขายสินค้าจำเป็นในจังหวะที่เหมาะสม เช่น การขายเสื้อกันฝนบนกำแพงเมืองจีนในวันที่ฝนตก แม้ราคาแพง แต่กลับขายได้เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูงสุด
ข้อคิด: ธุรกิจต้องค้นหาจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าในสายตาผู้บริโภคจีน
2.วางตำแหน่งใน “โลเคชันที่เหมาะสม” (Location)
การเลือกเมืองและภูมิภาค: จีนไม่ได้เป็นเพียงประเทศเดียว แต่เปรียบเสมือนทวีปที่มีความหลากหลาย บางเมืองหรือบางมณฑลอาจเหมาะสมกับธุรกิจมากกว่าที่อื่น
• อุตสาหกรรมที่เติบโต: เช่น อุตสาหกรรมโฆษณาไทยได้รับการยอมรับในจีน โดยเฉพาะคลิปโฆษณาที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์และคุณธรรมซึ่งโดนใจผู้บริโภคจีน
• การใช้ความเป็นไทย: แบรนด์ไทยสามารถสร้างโอกาสผ่านวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับความเป็นไทย เช่น ผลิตภัณฑ์สกินแคร์หรืออาหาร
3. ผู้คนคน (People)
คือการรู้อกรู้ใจคน โดยเฉพาะเรื่องของ Trusting และการสร้าง Relationship ของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการให้เกียรติกัน การอดทนรอได้ ความยืดหยุ่น และการวางรีซัลที่ชัดเจน
นอกจากนี้ อีกสิ่งที่สำคัญต่อการสร้างแบรนด์ คือ “เรื่องราวที่ใช่” (Right Story) พฤติกรรมการบริโภค: ผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีเรื่องราวเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม ครอบครัว หรือประสบการณ์พิเศษ
ตัวอย่าง: แคมเปญ “สวัสดีเสี้ยว” ที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมไทย-จีนผ่านกุ้งไทยในช่วงเวลาพิเศษของครอบครัวจีน ประสบความสำเร็จด้วยการเล่าเรื่องที่ตรงใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
ความท้าทายและวิธีการปรับตัว
ระบบเซ็นเซอร์: การโฆษณาในจีนต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมายอาจถูกแบนได้ง่าย
ความเร็วและขนาด (Speed & Scale): การแข่งขันในจีนมักเน้นความรวดเร็วและโครงการขนาดใหญ่ เช่น การใช้ AI ในการสร้างโฆษณาเพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่าย
การบุกตลาดจีนต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ที่รอบคอบ ความเข้าใจในจังหวะและสถานที่ที่เหมาะสม รวมถึงการเล่าเรื่องที่สามารถสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคจีนได้อย่างลึกซึ้ง ธุรกิจที่สามารถผสมผสานปัจจัยเหล่านี้ได้จะมีโอกาสประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงในตลาดที่ใหญ่และมีความหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก