Performance Marketing อีกหนึ่งช่องทางของการทำโฆษณาบนสื่อออนไลน์ ที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่นักการตลาด เพราะเป็นสื่อออนไลน์ที่สามารถให้ผลตอบแทนในรูปแบบที่จับต้องได้มากกว่าแค่ การเห็น หรือการคลิก แต่สามารถส่งถึงยอดจำนวนลูกค้า ยอดสมาชิก หรือแม้แต่ยอดขายได้ ทำให้ Performance marketing เป็นการทำการตลาดที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมในต่างประเทศ และในไทย เอเจนซี่โฆษณาหลายๆแห่งก็ปรับตัวเพื่อให้ครอบคลุมถึงสื่อประเภทนี้ เพราะปัจจุบันมีออนไลน์มีเดียหลายประเภทที่สามารถรองรับการทำงานในรูปแบบ Performance media
ประเภทออนไลน์มีเดียที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ มีเดียประเภท Search, Display, Native Ad, Affiliate Marketing และ Activation campaign ซึ่งแต่ละช่องทางจะตอบโจทย์ได้ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ นักการตลาดออนไลน์ว่ามีความเข้าใจในแต่ละสื่อขนาดไหน ซึ่งโดยส่วนมากนักการตลาดจะเข้าใจดีกับมีเดียทุกประเภทที่กล่าวมา จะมีเพียง Affiliate Marketing ที่อาจจะยังสร้างความสับสนให้บ้าง เพราะมีการนำ Affiliate Marketing มาใช้กับสื่อประเภทอีคอมเมิร์ซมาก่อนด้วยการนำสคริปซ์ที่มีเนื้อหาของสินค้าไปแปะไว้ที่เว็บไซต์ และหากมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์นั้น การทำงานของ Affiliate Marketing ก็จะสมบูรณ์ ทางเจ้าของสินค้าก็ได้ขายสินค้า ส่วนทางเจ้าของเว็บไซต์ก็ได้รายได้ตามที่ตกลง เช่น 100 บาทของหนึ่งการสั่งซื้อ เป็นต้น
ในปัจจุบันมีการนำ Affiliate Marketing มาใช้มากกว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซในแบบเดิมๆ หากแต่นำมาประยุกต์ใช้เพื่อตอบโจทย์กิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ทั้งการเพิ่มยอดผู้สมัครบัตรเครดิต การเพิ่มจำนวนผู้สนใจซื้อประกัน การเพิ่มยอดลงทะเบียนร่วมงาน หรือแม้แต่การเพิ่มยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ซึ่งการทำงานของ Affiliated Marketing สามารถตอบโจทย์ผลทางการตลาดนี้ได้ทั้งหมด และนักการตลาดได้ให้คำศัพท์ของมีเดียออนไลน์ประเภทนี้ว่า CPA (Cost per acquisition หรือ Cost per action) ที่จะมีราคามีเดียที่สูงกว่า CPC (Cost per click) ทั่วไป เพราะให้ผลที่ตรงและลดขั้นตอนการทำงานการตลาดในส่วนอื่นๆได้
และเพื่อให้เกิดผลลัพท์ที่ดี มีคุณภาพ การทำงานของ Performance media จะต้องทำงานควบคู่ไปกับ Creative banner, Landing page, การ Optimization และ Analytics เพราะการส่งลูกค้าไปยัง Landing page ก็ต้องผ่านการเห็นแบนเนอร์โฆษณาก่อน ดังนั้น โฆษณาก็ต้องมีข้อความ รูปภาพ ที่ตรงประเด็น ชัดเจน และจูงใจ ในขณะที่ Landing Page ก็ควรมีรายละเอียดที่ครบถ้วนสำหรับการตัดสินใจ เมื่อลูกค้าเกิดความสนใจ ก็ควรมีข้อความหรือกราฟฟิกที่สร้าง Call to action และขั้นตอนการลงทะเบียนเตรียมให้พร้อม ในขณะเดียวกันก็ควรมีการจับวัดพฤติกรรมของคนที่เข้ามา เพื่อดูว่าลูกค้าที่มานั้นมาจากช่องทางไหน มีการคลิกไปสู่การขาย หรือเกิดความลังเลไม่สนใจ เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขการทำงานของมีเดียให้ดีขึ้น หรือเพิ่มการซื้อมีเดียในช่องทางส่งผลลัพท์ได้ดี และลดการซื้อมีเดียในช่องทางที่ไม่ค่อยได้ผลเป็นต้น
ประโยชน์ในการทำ Affiliate Marketing สำหรับแบรนด์สินค้า
- เจ้าของแบรนด์สินค้าสามารถตั้ง Action Point เองได้ เช่น การซื้อ, การลงทะเบียน, การทำแบบสอบถาม, กรอกแบบฟอร์ม หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชันมือถือ เป็นต้น
- มีเว็บไซต์พันธมิตร ที่มีคุณภาพกระจายข้อความทางการตลาดหรือสินค้าให้ในเวลารวดเร็ว
- ผลตอบแทนที่ดี (Best ROI)
ประโยชน์ในการทำ Affiliate Marketing สำหรับเจ้าของเว็บไซต์
- ไม่จำเป็นต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง
- ไม่จำเป็นต้องบริการหลังการขาย
- สามารถทำงานได้จากทุกที่ เพียงเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ต
หากต้องการทำ Affiliated Marketing จะต้องทำอย่างไร
ที่จริงแล้ว ทั้งเจ้าของเว็บไซต์ และเจ้าของสินค้าสามารถติดต่อกันโดยตรงได้ เพียงแต่เพิ่มเวลาในการทำงานของทั้งสองฝ่าย เพราะเจ้าของแบรนด์สินค้าก็มีความต้องการที่จะนำข้อความทางการตลาดหรือสินค้าไปแสดงในหลายๆเว็บไซต์ ในขณะเดียวกันเจ้าของเว็บไซต์ก็คงไม่อยากทำเงินจากโฆษณาหรือเจ้าของสินค้าเพียงรายเดียว ปัจจุบันจึงเกิดธุรกิจคนกลางที่เรียกว่า Affiliate Provider ขึ้น คือบริษัทที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของแบรนด์สินค้าและเจ้าของเว็บไซต์ โดยทาง Affiliate Provider จะมีเทคโนโลยีในการกระจายสินค้า และตรวจจับความแม่นยำของผลลัพท์อย่างโปร่งใส และที่สำคัญยังเป็นตัวกลางที่จะคอยติดต่อกับแบรนด์สินค้าที่ต้องการซื้อสื่อ Performance Media เพื่อกระจายให้กับพันธมิตรเว็บไซต์ โดยที่ทางแบรนด์สินค้าไม่จำเป็นต้องติดต่อกับเว็บไซต์ทีละราย และเว็บไซต์ก็ไม่ต้องเหนื่อยหาลูกค้าเอง
จะหา Affiliate Provider ในไทยได้ที่ไหน
ถึงแม้ Performance Marketing จะเป็นที่นิยม และ Affiliate Marketing จะให้ผลตอบรับดี แต่ในประเทศไทยกลับมีคนกลางเป็น Affiliated Provider ค่อนข้างน้อย ทำให้ตลาดประเทศญี่ปุ่นที่รุกหนักเรื่อง Performance Marketing เข้ามาเปิดให้บริการในไทย ด้วยการนำเทคโนโลยีและความรู้มาแบ่งปันให้กับนักการตลาดไทย ซึ่งปัจจุบันบริษัทเด่นๆ ก็จะมี Interspace บริษัทที่เกิดมาเพื่อเป็น Affiliate Provider หรือตัวกลางระหว่างแบรนด์สินค้าและเว็บไซต์โดยตรง ในชื่อ Access Trade ปัจจุบัน Interspace มีพนักงานกว่า 30 คน ทำธุรกิจด้าน Performance marketing ในไทยแล้วกว่า 3 ปี มีเว็บไซต์ที่รองรับ Affiliate Marketing แล้วกว่า 5,000 เว็บไซต์ ทั้งเว็บ Portal ติดอันดับ Top 10 ของไทย และเว็บไซต์เฉพาะด้าน และยังมีแบรนด์สินค้าให้ความไว้วางใจ เพราะมีบริการทั้้ง SEO, SEM และ SOCIAL CONTENT ให้บริการ
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากทำความรู้จักการทำงานของ Performance marketing หรือ Affiliate Marketing เพิ่มเติม สามารถติดต่อไปยัง Interspace ได้ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.interspace.co.th
