เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา @tukko ได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวสื่อโฆษณารูปแบบใหม่สำหรับคลิปวิดีโอ จัดโดยบริษัท Medimind (SEA) Pte. บริษัทผู้ให้บริการด้านระบบการยิง (Serve) และวัดผล (Measurement) โฆษณาในสื่อดิจิตอลชั้นนำของโลกที่ดิจิทัลเอเยนซี่ไทยรู้จักกันดี ทาง Mediamind ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการยิงโฆษณารูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า VPAID (Video-Player-Ad-Interface) ในประเทศไทย
ซึ่งหลังจากได้ทราบถึงความใหม่และฟีเจอร์ต่างๆมากมายของ VPAID จึงคิดว่าการโฆษณาในแบบของ VPAID นี้จะช่วยให้แบรนด์มีโอกาสได้ผลิตและนำเสนอสื่อโฆษณาแบบใหม่บนวิดีโอคลิปได้อย่างไม่จำเจ และสำหรับนักการตลาดออนไลน์จะได้ทราบถึงสื่อโฆษณาสำหรับวิดีโอคลิปที่สามารถสร้างชิ้นงานโฆษณาที่หลากหลายแลมีลูกเล่นมากขึ้น และยังวัดผลได้มากกว่าเดิม และเนื่องจากสถิติการใช้สื่อดิจิทัลของไทยใน 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่าโฆษณาที่อยู่ในเนื้อหาที่เป็นวีดีโอถือเป็นสื่อที่ได้ผลตอบรับดี เนื่องจากผลของทั้งอัตราการคลิก (CTR) และ อัตราการชมวีดีโอจนจบ (Video Completion Rate) นั้นสูงกว่าสื่อแบบแบนเนอร์ (Banner) อยู่หลายเท่าตัว สื่อโฆษณารูปแบบใหม่นี้จึงดูน่าสนใจ และถือเป็นของใหม่สำหรับวงการออนไลน์มีเดียไทย
ปัจจุบัน รูปแบบการติดโฆษณาบนวิดีโอคลิปมีอยู่ 2 มาตรฐานมีอยู่ด้วยกัน คือ 1.VAST (Video Ad Serving Template) และ 2.VPAID (Video Ad Interface Definition)
VAST หรือ Video Ad Serving Template สื่อโฆษณาใช้สำหรับวิดีโอคลิปในปัจจุบัน
VAST คือสื่อโฆษณาที่ใช้วิดีโอคลิป หรือที่เราเรียกกันว่า Video Pre-Roll Ad ซึ่งเป็นโฆษณาบนวิดีโอในแบบที่เราคุ้นเคยกัน คือการชมโฆษณาก่อนเข้าชมเนื้อหาวิดีโอที่เราต้องการ VAST หรือ Pre-Roll นี้ถูกใข้บนเว็บไซต์วิดีโอหลายแห่งในไทย ในมุมของ User หรือผู้เข้าชมเว็บไซต์จะไม่เห็นอะไรแตกต่างไปจากที่เราเห็นๆกันอยู่ คือมีโฆษณาขึ้นก่อน ผู้ชมสามารถจะเลือกชมจนจบ หรือกด skip ข้ามไปยังวิดีโอที่ต้องการชมเลยก็ได้ แต่สำหรับนักการตลาด การยิงโฆษณา Preroll และแบบ VAST นั้น จะแตกต่างเป็นอย่างมากในมุมของนักการตลาด โดยนักการตลาดจะเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคมากขึ้น เช่น จำนวนการเข้าถึง user (Reach) อัตราการชมโฆษณาจนจบ (Video Completion Rate)
VPAID หรือ Video Ad Interface Definition คือสื่อโฆษณาใช้สำหรับวิดีโอคลิปในรูปแบบใหม่
VPAID เป็นสื่อโฆษณาบนวิดีโอรูปแบบใหม่ ที่มีความต่างจาก VAST และ Preroll อย่างมาก เนื่องจากมีความสามารถในการนำเสนอโฆษณาในหลากหลายรูปแบบ และวัดผลได้มากกว่าหลายขั้นตอน จุดเด่นของ VPAID คือ ผู้ชมสามารถมีปฏิสัมพันธ์ (interact) กับวิดีโอได้แบบต่อเนื่องและมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ที่ชื่อนชอบ เช่น เลือกชมวิดีโอเป็นซีรี่ส์ คลิกชมอัลบั้มภาพ รวมถึงการคลิก Like ให้กับ Facebook Page ของแบรนด์นั้นๆ Retweet ข้อความจากแบรนด์ ผ่านโฆษณาประเภท VPAID ได้โดยตรง
ส่วนนักการตลาด จะสามารถนำเสนอโฆษณาได้อย่างมีครีเอทีฟ พร้อมนำเสนอเนื้อหา (content) ที่ต้องการ และที่สำคัญคือการวัดผลที่ละเอียดมากขึ้น เช่น การวัดถึงอัตราผู้บริโภคที่ปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ (Dwell Rate) ทราบระยะเวลาเฉลี่ยในการปฎิสัมพันธ์กับแบรนด์ต่อครั้ง (Dwell Duration) และการวิเคราห์ชิ้นงานโฆษณาเฉพาะจุด (Custom Interaction) ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดทางการตลาดได้ทั้ง Below และ Above the line
ชมดัวอย่างโฆษณาในแบบ VPAID – MediaMind Interactive InStream Showreel
httpv://youtu.be/HXFKXNmjrjg
แผนการเปิดตัว VPAID ของ Mediamind
ปัจจุบันทาง Mediamind ได้แนะนำและเปิดตัวสื่อโฆษณาในรูปแบบใหม่ VPAID สื่อโฆษณาแบบใหม่สำหรับวิดีโอคลิปให้กับเว็บไซต์ชั้นนำของไทย และออนไลน์เอเยนซี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง Mediamind ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถให้บริการการยิงโฆษณาแบบ VPAID ให้กับ 5 เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ของไทยภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม นี้ คือ Mthai.com, Sanook.com, Kapook.com เว็บในเครือ Nationchannel.com, Clipmass และ Komli Media และรวม 20 เว็บไซต์วิดีโอชั้นนำภายในสิ้นปีนี้
ภายใต้ด้วยวิสัยทัศน์ของ DG Mediamind ที่มีความต้องการที่จะนำเทคโนโลยีโฆษณาในสื่อดิจิตอลที่ล้ำสมัยให้กับนักการตลาดไทยตลอดเวลา ดังนั้น สำหรับเว็ปไซด์ที่ต้องการเข้าโครงการ สามารถติดต่อ DG Mediamind สำนักงานประเทศไทยได้โดยตรง หรือส่งอีเมล์มาที่ Thailand@mediamind.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ตัวเลขน่าสนใจที่นักการตลาดควรรู้เกี่ยวกับสื่อโฆษณาประเภทวิดีโอ
มูลค่าเม็ดเงินโฆษณาในรูปแบบวิดีโอของไทยในปี 2013 คาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 742 ล้านบาท
อัตราการชมรายการทีวีผ่านช่องทางออนไลน์มีการเติบโตมากขึ้นทุกปี เมื่อเทียบตั้งแต่ปี 2010 – 1012
ความต่างของระหว่าง VAST และ VPAID คือ VAST เป็น Non-Interactive แต่ VPAID เป็นแบบ Interactive
โฆษณาในรูปแบบวิดีโอ ให้ผลการคลิกเฉลี่ยที่ 1.63% สูงกว่าโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์
สามารถเพิ่มผลการค้นหา และเพ่ิมอัตราผู้บริโภคที่ปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์
โฆษณาบนวิดีโอในแบบ VPAID วัดผลอะไรได้บ้าง
ผู้ชม หรือ Users นิยมคลิกที่ In-Stream Ad มากกว่าโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์ถึง 200 เท่า
สื่อวิดีโอออนไลน์ช่วยสนับสนุนสื่อทีวี โดยช่วยให้การจดจำแบรนด์มีมากขึ้น
ยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้บริโภคเลือกที่จะรีบกลับบ้านไปชมวิดีโอออนไลน์ มากกว่ากลับไปชมทีวี
เม็ดเงินโฆษณาบนวิดีโอออนไลน์ดึงความสนใจจากนักการตลาดมากขึ้น เนื่องจากสามารถดึงความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่ามีเดียอื่นๆ
วิดีโอในแบบ (In-stream) VPAID มีเรทการชมวิดีโอโฆษณาจนจบมากกว่า วิดีโอในแบนเนอร์ทั่วไป (In-Banner)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก DG Mediamind