กระแสฮ็อตฮิต ที่กำลังกลายเป็นมุมเม้าส์ ของคนในแวดวงโฆษณา ผู้ผลิตสินค้า และในมุมของผู้บริโภค ก็คือเรื่องของการโฆษณาสินค้า ผ่านสื่อทีวีและสปอตโฆษณาทางวิทยุ โดยล่าสุดมีผู้ชมรายการทีวี ตั้งข้อสงสัย เกี่ยวกับรายการทีวี ที่สรุปไม่ได้ว่านี่คือรายการทีวี หรือ เป็นการซื้อเวลาโฆษณาในรายการทีวีกันแน่
โฆษณากาแฟของค่ายเนเจอร์กิฟ ชุดหนึ่ง กลายเป็นโฆษณาที่ได้รับการตอบรับจากคนดูทุกระดับ ในมุมของนักธุรกิจ นักโฆษณาด้วยแล้วละก้อ บอกว่าเป็นโฆษณาที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืน จริงๆ กระแสตอบรับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ครีเอทีฟและ “เจ๋ง” จริง ทั้งๆที่รู้ว่าการเคลมคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ในแง่ของการอ้วดอ้างประสิทธิภาพนั้นไม่สามารถทำได้ แต่เนเจอร์กิฟ ก็ยังเผยโฉมโฆษณาออกมาจนได้ …แถมโฆษณาโปรดักส์ล่าสุด ยังสร้างความเฮฮา ด้วยการเลือกใช้พรีเซนเตอร์คุณยาย ที่สุดแสนจะน่ารัก มาเป็นดาราที่เรียกความจดจำให้กับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ได้ดีทีเดียว
ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากกำลังชื่นชมกับโฆษณาของเนเจอร์กิฟ แต่เมื่อได้ดูโฆษณาสินค้าบางยี่ห้อ ผ่านจอทีวี กลับมีข้อสงสัยหลายประกาศ พร้อมกันนั้นยังได้ตั้งข้อสังเกตุมากกมายว่า โฆษณาแบบนี้ ทำได้ด้วยหรือ …? เพราะแง่มุมในการนำเสนอโฆษณาผ่านจอทีวี สะกิดใจคนดูในเชิงเปรียบเทียบระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ถูกห้ามโฆษณากับผลิตภัณฑ์เดียวกันแต่โฆษณาได้แบบไม่อั้น ..!
ความล่อแหลม ของโฆษณาบางชิ้น ที่กลายเป็นเส้นแบ่งบางๆ จนบางครั้งยากแก่การแยกแยะว่าแบบนั้นห้าม แบบนี้ได้ กลายเป็นข้อถกเถียงที่เป็นวงกว้างมากขึ้นในยุคนี้ แม้กระทั่งคนที่อยู่ในแวดวงโฆษณาด้วยกันก็ยังหาคำตอบไม่ได้
ล่าสุด หลังการออกอากาศของรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ทำให้คนที่ดูรายการจำนวนไม่น้อย ต่างขบคิดกันว่า รายการที่นำเสนอเรื่องราวแบบนี้ ตกลงมันคือการทำรายการ หรือ เจ้าของธุรกิจเข้าไปซื้อช่วงเวลาในรายการ หลายคนที่ได้ร่วมวงสนทนา จึงรู้สึกแปลกๆกับรายการที่ว่า กลายเป็นข้อถกเถียงต่อมาอีกว่า โฆษณาหรือรายการแบบนี้ ใครที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และพิจารณา ว่าให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน
“เทคนิคการโฆษณาสินค้าหรือบริการต้องห้ามนั้น มีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ แต่หลังๆดูเหมือนจะโจ่งครึ่มขึ้นไปทุกที จึงชักไม่แน่ใจว่า อะไรคือปัจจัยให้รูปแบบของโฆษณาเปลี่ยนและเพี๊ยนไปมากกว่าในอดีต”
ยิ่งไปกว่านั้น ในการโฆษณาของสปอตวิทยุ ก็ยิ่งได้เห็นความผิดเพี๊ยนมากขึ้นของการโฆษณาที่ส่อลักษณะอวดอ้างสรรพคุณ จนผู้ฟังเองยังไม่เชื่อ …โฆษณาลักษณะเช่นนี้ก็ถูกปล่อยให้ออกอากาศได้ด้วย
ผู้บริโภคจำนวนมาก ยังคงเฝ้ารอที่จะได้เห็นรายการทีวีที่เผยแพร่รายการที่ดีมีคุณภาพ เช่นเดียวกัน กับการรับชมโฆษณา ที่ต้องการเห็นมุมมองใหม่ๆของการทำโฆษณาในเชิงสร้างสรรค์ และสะท้อนถึงไอเดีย ที่แยบยล เห็นแล้วยิ้ม น่ารัก จุดประกายไอเดียในการทำโฆษณาต้องห้ามให้ดูเป็นงานศิลปะที่ไร้ข้อกังขา
ผู้บริโภคในวันนี้ ฉลาดขึ้นและรู้เท่าทัน และต่างรอคอยโฆษณาในเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงรายการที่ให้สาระความบันเทิง และความรู้แก่ผู้บริโภคมากกว่าการแฝงโฆษณาจนหาสาระไม่ได้
ผู้ร่วมวงสนทนา ยังได้ข้อสรุปร่วมกันอีกว่า ทุกสิ่งอย่างจะไม่เกิดขึ้นหากว่า มีความตระหนักและมีความรับผิดชอบต่อสังคมและไม่ดูถูกผู้บริโภค ถึงเวลานี้เราเลยนึกภาพไม่ออกว่ากฏหมายต่างๆที่กำลังนำมาใช้เพื่อปกป้องผู้บริโภคนั้นจะเป็นเช่นไร
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์