Microsoft Advertising ประเทศไทย เผยผลสำรวจผู้บริโภคกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ในปัจจุบัน พบว่าผู้ใช้งานเว็บไซต์ MSN และผู้ใช้บริการ Windows Live ยอมรับการโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต โดย 56% เห็นว่า การโฆษณาแบบ Interactive ทางอินเทอร์เน็ต น่าดึงดูดมากกว่าการโฆษณาแบบอื่นๆ และ 42% เห็นว่าการโฆษณาทางเน็ตมีผลต่อการตัดสินใจซื้อแบรนด์สินค้า และกว่า 42% มักอ้างอิงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตก่อนจับจ่ายซื้อสินค้า
ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มว่ากลุ่มคอนซูเมอร์หันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น และจะทำให้โฆษณาออนไลน์ปีนี้โตขึ้นประมาณ 20% แต่เม็ดเงินอาจไม่มาก เพราะปัญหาเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบ
“เชื่อว่าเม็ดเงินในส่วนของ online ยังโตได้ แต่จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เม็ดเงินที่จะใช้จ้าง creative ในการทำโฆษณาออนไลน์ให้ดึงดูดและน่าสนใจ กับอีกส่วน คือ เม็ดเงินในเลือกใช้สื่อ ปัจจุบันตลาดโฆษณาออนไลน์ยังอยู่ที่ 1% ของมูลค่าตลาดโฆษณาทั้งหมด 8 หมื่นล้านบาท”
ในส่วนของสื่อ online ของ Microsoft ปัจจุบันมีสินค้า และบริการเข้ามาลงโฆษณาออนไลน์ในบริการ Hotmail และ Messenger มากที่สุด ขณะที่ MSN Portal ก็มีแนวโน้มของการลงโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนผู้ใช้เป็นประจำ (active users) ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคนต่อเดือน
สินค้า 4 อันดับแรก ที่ลงโฆษณามากที่สุด
- 1. สินค้าอุปโภคบริโภค
- 2. เทเลคอม
- 3. สถาบันการเงิน สินเชื่อ และบัตรเครดิต
- 4. สินค้าเทคโนโลยี อุปกรณ์ไอทีต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีผลสำรวจของ Mindshare Agency โฆษณาชื่อดัง ระบุว่า ปีนี้เม็ดเงินโฆษณาจากทีวี และสื่อที่เป็นแมสที่มีเม็ดเงินกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท จะไหลสู่สื่อโฆษณาออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 3% หรือประมาณ 2 พันล้านบาท
ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ใช้งาน MSN Portal และผู้ใช้บริการ Windows Live 85% เป็นผู้ที่รับผิดชอบในการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับครอบครัว โดยกลุ่มสินค้าของใช้ส่วนตัว อาหารและเครื่องดื่ม เป็นสินค้าที่ผู้ตอบแบบสอบถามจับจ่ายบ่อยกว่าสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง
ส่วนปัจจัยสำคัญที่สุดในการผลักดันการตัดสินใจซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค คือ คุณภาพ 86% ราคาสินค้า 84% และแบรนด์สินค้า 80%
การสำรวจยังครอบคลุมถึงแหล่งข้อมูลสินค้า ซึ่งผู้บริโภคจะสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์แบรนด์สินค้าดังกล่าว หรือสืบค้นข้อมูลสินค้านั้นทาง search engine ก่อน ทั้งยังพบว่าเว็บไซต์พอร์ทัล เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการหาข้อมูลสินค้าประเภทอาหาร และเครื่องดื่ม
ผลสำรวจ ยังระบุว่า เหตุผลที่ผู้บริโภคนิยมจับจ่ายสินค้าทาง online เนื่องจากสะดวก และมีราคาที่พิเศษกว่า ขณะที่การตัดสินใจซื้อสินค้าแต่ละแบรนด์ พบว่าคนที่ซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่มีแบรนด์สินค้าอยู่ในใจแล้ว และมีเพียงประมาณ 1 ใน 5 ที่ไม่ได้มีสินค้าแบรนด์ใดในใจมาก่อน
สำหรับการสำรวจครั้งนี้ ได้ทำผ่านแบบสอบถามผู้ใช้งานเว็บไซต์เอ็มเอสเอ็น และผู้ใช้บริการวินโดว์สไลฟ์ จาก 11 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
ในส่วนของประเทศไทยมีผู้ตอบแบบสอบถามรวม 1,238 ราย โดยกว่า 58% อายุระหว่าง 15-34 ปี ขณะที่ 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นคนทำงาน และ 21% มีรายได้ต่อครัวเรือนปีละกว่า 6 แสนบาท ในจำนวนนี้เป็นผู้ชาย 48% และผู้หญิง 52%