หากหญิงลี ขอ ‘ใจ’ แลกเบอร์โทร…นักการตลาด ก็คงแจก ‘โปรฯ’ แลก ‘ใจ’ ลูกค้า
เดี๋ยวนี้นักการตลาดมีช่องทางมากมายให้โลดแล่นและปล่อยของในการทำการตลาดมัดใจลูกค้า ไหนจะช่องทางแบบเดิมๆที่เคยมีมาแต่อ้อนแต่ออก ไหนจะโลกออนไลน์…โซเชียลมีเดียที่กำลังเป็นที่นิยมในทุกวันนี้ และรวมไปจนถึงช่องทางที่นักการตลาดไม่อาจอุตริมองข้ามไปได้เลย นั่นก็คือ…เจ้ามือถือหรือสมาร์ทโฟนนั่นเอง
มิอถือและสมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะคู่กายอีกชิ้นนึงของคนยุคนี้ เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้…จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักการตลาดหลายคนให้ความสำคัญกับช่องทางนี้กันอย่างแพร่หลาย จุดเปราะบางของการทำการตลาดแบบนี้คือการรั้งแต่จะสร้างความรำคาญให้แก่ลูกค้า มิหนำซ้ำยังทำให้ลูกค้าเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อแบรนด์อีกด้วย ทว่า, จะมีนักการตลาดสักกี่คนที่รู้จักและเข้าใจการทำการตลาดแบบ Mobile Marketing ได้อย่างถ่องแท้ และนำมันออกมาใช้ได้อย่างเหลือล้ำกว่าผู้อื่น นี่คือ 7 เคล็ดลับสั้นๆในการทำ Mobile Marketing ที่แม้แต่เจ้านายของเราเองก็ยังไม่รู้เรื่องเลยเชียวล่ะ!
เอาใจลูก ‘ค้า’…มิใช่เอาใจลูก ‘เครื่อง’
นักการตลาดหลายคนมักหลงหูหลงตาเข้าใจผิดคิดว่าการทำ Mobile Marketing นั้น คือการทำอย่างไรก็ได้ให้มันรองรับและเข้าทีกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนนั้นๆ ผิดอย่างไม่น่าจะผิดครับ! สิ่งเหล่านั้นเหมือนจะสำคัญ แต่อันที่จริงมันเป็นเพียงปัจจัยรองต่างหาก เราต้องไม่ลืมเสมอว่า…เป้าประสงค์หลักๆของเราคือ ลูกค้านั่นเอง ต้องยึดและคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตอบโจทย์ อำนวย และทำให้พวกเขาเห็นว่าการตลาดของเรานั้นมีประโยชน์ต่อพวกเขาจริงๆ ไม่งั้นลองนึกดูเสียว่าเวลาล้มเหลวที ลูกค้านี่แหละที่เป็นตัวกำหนด นับประสาอะไรกับการประสบความสำเร็จล่ะครับ…
งบสูงลิ่ว…แต่ซิวอยู่หมัด
งบในการทำ Mobile Marketing นั้นอยู่ในขาขึ้นชนิดที่ว่าเฉียดๆถึง 83% ตั้งแต่ปี 2013 มีการใช้งบไปกับการโฆษณาบนมือถือกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และก็ยังคงให้ประสิทธิผลที่ดีต่อการบริโภค Mobile Media ของลูกค้าเสมอมา แม้จะใช้งบเยอะ แต่สำหรับผลตอบรับแล้ว…ก็คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ
‘ไร้สาย’ ไร้เทียมทาน
ยุคสมัยที่ผันผ่านไปทำให้เทคโนโลยีไร้สายถือเป็นอาวุธผูกขาดที่ใครๆก็โผเข้าหา ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีประชากรจำนวน 7.6 ล้านคนที่ยกเลิกการใช้งานเครือข่ายแบบใช้สายหรือการส่งสัญญาณแบบผ่านสายเคเบิ้ลนั่นเอง ต้องยอมรับว่าสมัยนี้อะไรก็ได้ที่ชาญฉลาด คล่องแคล่ว และฉับไว…นับเป็นสิ่งที่ลูกค้าหรือไม่ว่านักการตลาดเองก็ต่างโหยหาวิ่งเข้าใส่กันทั้งนั้น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม Mobile Marketing ถึงยังใช้การได้ดีจวบจนทุกวันนี้
Vambile…ผีดูดเลือดในยามรัตติกาล
ผลสำรวจจากหลายๆสำนักที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มลูกค้ามักจะใช้เวลาในช่วง Primetime ยามรัตติกาลไปกับหน้าจอสมาร์ทโฟน มากกว่าจอแก้วเทเลวิชั่นเสียอีก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่การทำ Mobile Marketing ได้เปรียบทวีคูณมากขึ้นทุกวันทุกคืน ยิ่งช่วงตอนเช้าหรือกลางวันคงไม่มีใครสามารถพกโทรทัศน์ติดตัวได้ทุกที่ แต่เจ้ามือถือหรือสมาร์ทโฟนเนี่ยสิ เรียกได้ว่าอิงแอบแนบนิ้วลูกค้าเกือบตลอดเวลาเลยเชียวล่ะ โดยต่างประเทศเรียก Media ชนิดนี้ว่า ‘Vampire Media’ นั่นเอง
การเข้า ‘ดู’ ที่ไม่มีสิ้นสุด
ลูกค้าที่เลือกกดดู Ads บนมือถือ ราวๆ 60%-67% มักจะกดเข้าไปเชยชมหน้าอื่นๆอย่างไม่มีสิ้นสุด หากเรารังสรรค์ Mobile Marketing ที่น่าสนใจสำหรับลูกค้า รับรองว่าการกดดูอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั้นจะบังเกิดกับงานของเราอย่างแน่นอนครับ เผลอไผลมีกดแชร์ต่อให้เพื่อนฝูงอีกด้วย
‘หู’ เงี่ยฟังเสียงทีวี… ‘ตากับนิ้ว’ อยู่ที่หน้าจอ
เกือบ 54% ของคนส่วนใหญ่มักจะใช้หูเงี่ยฟังเสียงทีวี ในขณะที่สายตาและนิ้วมือนั้น จดๆจ่อๆอยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟน จึงทำให้นักการตลาดสาย Mobile อย่างพวกเรา มีโอกาสที่จะสร้างสรรค์ผลงาน หรือแคมเปญต่างๆได้อย่างคล่องตัว และยังสามารถสร้าง Engagement กับลูกค้าได้หลากหลาย Platform อีกด้วย
เฟส ‘บุก’…จนไม่มีใครดูทีวี!
Facebook แย่งชิงลูกสมุนคนดูทีวีไปเกือบหมด จะเห็นได้ว่าสมัยนี้ไม่มีทีวีดู หรือไม่ได้ดูทีวี ก็ยังพอทนได้ แต่หากไม่ได้เล่นเฟสบุ๊ค ไม่มีประตูโลกออนไลน์ให้เปิดเข้าแล้วล่ะก็…เป็นเรื่องเชียวล่ะ! ในขณะที่ปัจจุบันนี้ ทีวียังมีกลุ่มคนดูอยู่ที่ 294 ล้านคน แต่เฟสบุ๊คมีกลุ่มคนเล่นถึง 200 ล้านคน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆวัน เฟสบุ๊คจึงเปรียบเสมือนพันธมิตรร่วมทุกข์ร่วมสุขของการทำ Mobile Marketing นั่นเอง
การลงทุนด้วย ‘ความจริงใจ’ กำไรคือ ‘มิตรภาพ’…ไม่ว่าจะทำอะไร อย่าละทิ้งความดีงามนะครับ