ในโลกที่มีการ Disrupt อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่เทคโนโลยีรวมไปถึงการวางแผนการตลาดที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในยุคที่ Data มีความสำคัญอย่างมาก การค้นหา Data จึงกลายเป็นเรื่องที่สำคัญที่นักการตลาดต้องวางแผน เช่น หลายธุรกิจมักจะใช้กลยุทธ์ CRM ในการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า แต่ในอนาคตกำลังจะเกิดเทรนด์ใหม่ในการเก็บ Data
โดย 4 เทรนด์ในด้านการจัดเก็บข้อมูลที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจต้องตัดสินใจในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดเก็บข้อมูลขึ้นมาใหม่ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ส่งผลให้การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบเดิมๆไม่สามารถทำได้อีกต่อไปหรือทำได้ยากมากขึ้น
CRM เครื่องมือแก้ปัญหาไม่ใช่แหล่งข้อมูลหลัก
มันเป็นเพราะหลายธุรกิจมองว่า กลยุทธ์ CRM จะช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่แท้จริงของลูกค้าได้ ขณะที่จริงๆ แล้วข้อมูลส่วนใหญ่ถูกจัดเก็บไว้อยู่ในระบบอัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบันหลายธุรกิจดำเนินการสร้างแพลตฟอร์มในลักษณะที่มีความฉลาด (AI) สามารถบันทึกและวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคได้
ในขณะที่ CRM คือรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหา หรือใช้ในการกระตุ้นตลาดเพื่อสร้างยอดขายในช่วงระยะเวลาอันสั้น ขณะที่ข้อมูลในการจัดเก็บแบบอัตโนมัติจะเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลแต่ละประเภทเข้าไว้ด้วยกัน ประกันตลาดที่เชี่ยวชาญจะใช้เทคโนโลยี AI ในการแบ่งหมวดหมู่ของข้อมูลแต่ละประเภท เพื่อใช้ประกอบภาพความต้องการของตลาดได้อย่างชัดเจน
แหล่งข้อมูลจะถูกเก็บกระจายหลายที่เพื่อลดความเสี่ยง
ในบางครั้งเทคโนโลยีมูลค่าราคาแพงและความทันสมัยของเทคโนโลยี อาจตกม้าตายได้ง่ายๆ หากระบบไม่เสถียร ที่สำคัญยังส่งผลกระทบต่อความล่าช้าในการวางแผนธุรกิจ ในอนาคตการจัดเก็บข้อมูลจะมีการจัดเก็บหลายๆ ที่ และอาจมีการจัดแบ่งประเภทของข้อมูลในแต่ละที่
มันจะทำให้นักการตลาดต้องทำงานหนักขึ้นในการรวบรวมข้อมูลของแต่ละแห่ง เพื่อสร้างแผนในการจัดการ วิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์ความต้องการในอนาคต ที่สำคัญยังช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายของข้อมูลได้ แถมยังช่วยป้องกันให้ข้อมูลเหล่านั้นอยู่ในระดับของ “ความปลอดภัย”
การลงทุนเพื่อลดเวลาและงบประมาณจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า
สืบเนื่องมาจากการกระจายแหล่งเก็บข้อมูลไปในหลายๆ จุด ธุรกิจจึงจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่อข้อมูลจากหลายๆ แห่งเข้ามาไว้ในแพลตฟอร์ม เพื่อให้นักการตลาดสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งานได้ รวมไปถึงการที่ต้องมีบุคลากรด้านข้อมูลเพิ่มขึ้น
และเพราะระบบการจัดเก็บข้อมูลกระจายแหล่งเก็บข้อมูลไปในหลายๆ จุด ซึ่งแต่ละจุดอาจใช้แพลตฟอร์มคนละชนิดกัน จึงจำเป็นต้องมีการลงทุนระบบที่ช่วยให้การนำข้อมูลจากหลายๆ แพลตฟอร์ม สามารถมารวมกันอยู่ในแพลตฟอร์มกลางเพื่อให้สะดวกในการใช้งานด้านข้อมูล
แบบสำรวจยังมีมนต์ เมื่อใช้ร่วมกับข้อมูล
จะว่าไปแล้วนักการตลาดในปัจจุบัน ใช้ข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ ในการวิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้บริโภค เช่น การเยี่ยมชมเว็บไซต์ การกรอกแบบฟอร์ม และการคลิกเพื่อความสนใจ เพื่อให้หาความต้องการ รวมถึงความสนใจในข้อมูลองผลิตภัณฑ์และบริการผ่านระบบอัตโนมัติ
แต่ข้อมูลเหล่านั้นไม่สามารถบอกถึงระยะเวลาความต้องการและการรับรู้ การจัดทำแบบสำรวจจึงยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทราบถึงข้อมูลเชิงลึก ยิ่งเมื่อผสมผสานกับข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค จะยิ่งช่วยให้นักการตลาดทราบถึงความต้องการ ระยะเวลาที่ต้องการ และการรับรู้ข้อมูลของผู้บริโภค
ไม่มีใครบอกเลยว่าความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภค และความต้องการเข้าถึงข้อมูลของธุรกิจในยุค Data Driven ยิ่งชี้ให้เห็นว่า ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค
Source: MarTech Today