เปิด 5 Use Case ใช้ Adobe AI Assistant เอไอตัวใหม่ที่ใส่มาให้ใน Acrobat และ Reader

  • 16
  •  
  •  
  •  
  •  

ปีนี้เราได้เห็นพัฒนาการของ Generative AI ที่เข้าไปอยู่ในหลากหลายผลิตภัณฑ์เปิดตัวออกมาไม่ว่าจะเป็น Copilot ของ Microsoft Gemini ของ Google รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้อย่างสมาร์ทโฟน Galaxy S24 จาก Samsung ล่าสุด อะโดบี (Adobe) ก็เข้าร่วมวงด้วยเช่นกัน ด้วยการเปิดตัว AI Assitant ใน Acrobat และ Reader แอปพลิเคชั่นสำหรับจัดการเอกสารยอดนิยมอย่าง PDF (Portable Document Format) ที่เราคุ้นเคย ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับการอ่านเอกสารได้อย่างหาศาลด้วยการให้ AI ช่วยสรุปเนื้อหา ร่างเนื้อหาเหล่านั้นเป็ฯอีเมล์ หรือพรีเซนเทชั่นได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 Use Case ที่น่าสนใจจากหลากหลายอาชีพที่บรรดาพนักงาน Adobe ใช้จริงมาแนะนำให้ลองพิจารณากันก่อนที่ Adobe จะเปิดให้ได้ใช้จริงหลังจากช่วงทดลองใช้ (beta) ในเร็วๆนี้

1. งานเลขา – ช่วยเขียนรายงานการประชุมจาก Transcript

แถบเครื่องมือ AI Assistant จะอยู่ทางด้านขวา

หนึ่งใน Use Case น่าสนใจที่จะมาแนะนำก็คือการเขียนสรุปการประชุมด้วย AI Assistant ใน Adobe Acrobat เราสามารถนำ Text Trascript ถอดเทปจากแพลทฟอร์มการประชุมออนไลน์ต่างๆ Export ออกมาและ import เข้าไปใน Acrobat และให้ AI Assistant อ่านและช่วยเขียนอีเมล์สรุปการประชุมครั้งนั้นให้ได้ในทันที

มีอ้างอิงคำตอบไปยังเนื้อหาในเอกสารต้นทางเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง

AI Asistant มีข้อดีก็คือเราสามารถตรวจสอบความถูกต้องจาก “ตัวเลขอ้างอิง” ที่ใส่มาให้ในเนื้อหาที่สรุปมาเพียงแค่คลิกที่ตัวเลขเหล่านั้นก็จะลิงก์ไปยังเนื้อหาต้นทางในเอกสาร Transcript การประชุมได้ทันทีทำให้เราสามารถตรวจสอบความถูกต้องของสิ่งที่ AI สรุปมาให้เราได้อีกครั้ง

หลังจากนั้นที่เราทำก็แค่กด Copy และนำไปปรับแต่งอีกเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถส่ง อีเมล์ รายงานการประชุมให้ทีมกันได้ทันทีเพราะ AI Assistant ร่างมาให้แล้ว ประหยัดเวลาลงไปได้มากเลยทีเดียว

ชมคลิป

2. งานสอน – วิทยากรใช้ AI สร้าง Study Guide จากหนังสือทั้งเล่ม

เป็น Use Case ที่ดีเลยสำหรับวิทยากร อาจารย์รวมถึงบุคลากรในอุตสาหกรรมการศึกษาที่จะสามารถลดเวลาการทำ Study Guide สำหรับผู้เรียนให้รวดเร็วขึ้นโดยใช้เวลาในไม่กี่นาทีเท่านั้นโดยเฉพาะการสร้าง Study Guide จากหนังสือที่มีความยาวเป็นร้อยๆหน้า

สร้าง Study Guide ได้ในเวลาไม่กี่นาทีจากหนังสือความยาวเป็นร้อยหน้า

เริ่มต้นด้วยการเปิดไฟล์หนังสือที่เป็น PDF ขึ้นมาจากนั้นกดไปที่ปุ่ม AI Assistant ที่มุมขวาบน แถบ AI จะเด้งขึ้นมาที่ด้านขวาของหน้าจอพร้อมกับเนื้อหา Overview ของเอกสารที่ AI อ่าน พร้อมกับ “คำถามแนะนำ” 3 คำถาม ที่เราต้องทำก็แค่ Prompt สั่งสิ่งที่เราอยากให้ AI ทำให้เรานั่นก็คือการทำ Study Guide

ผลลัพธ์ก็คือ AI จะร่าง Study Guide มาให้อย่างรวดเร็วและเนื้อหาก็จะมีอ้างอิงไปยังจุดต่างๆในหนังสือให้เหมือนการสรุปรายงานการประชุมเช่นกัน เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง และเราก็สามารถ Copy เนื้อหาที่ AI สร้างขึ้นไปยังเอกสารอื่นๆและนำไปปรับแต่งต่อได้ก่อนนำไปใช้งานได้

ชมคลิป

3. งานขาย – ศึกษาข้อมูลลูกค้าปรับแต่ง Pitch Deck

จากตัวอย่างนี้เป็นการใช้งานของเจ้าหน้าที่ตำแหน่งเซลของ Adobe ที่ศึกษาข้อมูลบริษัทของลูกค้าก่อนนำผลิตภัณฑ์ไปนำเสนอขายด้วยการศึกษาจากเอกสารจดหมายข่าวถึงผู้ถือหุ้นความยาว 10 หน้าเพื่อหา Pain Point และนำโซลูชั่นของบริษัทไปตอบโจทย์ทางธุรกิจให้กับลูกค้า

ศึกษาข้อมูลบริษัทลูกค้าจากจดหมายข่าวที่ส่งให้ผู้ถือหุ้น

จากเดิมที่จะต้องนั่งอ่านจดหมายข่าวทั้ง 10 หน้าก็ใช้ AI Assistant ใน Acrobat ช่วยอ่านและเพียงแค่ถามเข้าไปว่า “มีอะไรบ้างที่เป็นความท้าทายมากที่สุดของบริษัทนี้” (What are the top challenges this company faces?) ซึ่งก็สามารถสรุปมาได้เป็นข้อๆ

ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เซลที่กำลังทำข้อมูล Proposal สามารถปรับข้อเสนอทั้งสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ และเพิ่มโอกาสที่จะได้งานมากยิ่งขึ้นใน Pitch Deck

ชมคลิป

4. งานการตลาด – สรุปข้อมูล Insight จากงานวิจัย

สำหรับงานการตลาดการศึกษาข้อมูลคู่แข่งหรือข้อมูลจากรายงานเพื่อให้ได้ insight ในอุตสาหกรรมเป็นสิ่งที่สำคัญในงานการตลาด ซึ่งจากตัวอย่างเป็นการสรุปข้อมูลจากรายงานงานวิจัยเกี่ยวกับ Small and Medium Business Marketing ที่เป็นไฟล์ PowerPoints ซึ่ง Acrobat ก็สามารถแปลงไฟล์ทุกรูปแบบเป็นไฟล์ PDF ได้

ผลลัทธ์จากฟังก์ชั่น generative summary

ในขณะที่ AI Assistant ก็ยังสามารถช่วยสรุปภาพรวมของเอกสารด้วยฟังก์ชั่น Generative Summary ด้วยปุ่มเดียวจะช่วยสรุปหัวข้อสำคัญทั้งหมดในเอกสารมาให้และสามารถกด Drop Down เพื่ออ่านแต่ละหัวข้อได้ด้วย

แต่หากอยากถามคำถามเองก็สามารถกดปุ่น Ask AI Assistant เพื่อ Prompt คำถามลงไปเองได้ซึ่งจากตัวอย่างก็ใช้คำถามว่า “บริษัทต่างๆในอุตสาหกรรมนี้จะลงทุนอย่างไรในปีหน้า” (How are companies in this industry investing in the next year?)

การอ้างอิงจาก slide ที่แปลงไฟล์เป้น PDF แล้วได้ทุกรูปแบบ

และ AI ก็จะ Generate คำตอบมาให้พร้อมกับอ้างอิงข้อมูลต้นทางให้เราตรวจสอบความถูกต้องได้เช่นกัน จากนั้นก็สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ส่งอีเมล์ให้กับทีมเป็นข้อมูลในการทำการตลาดต่อได้

5. งานบริการลูกค้า – ตอบคำถามลูกค้าจากเอกสารข้อมูลเชิงลึก

อีกหนึ่ง Use Case ที่ Adobe ทำให้ดูก็คือการตอบคำถามลูกค้าโดยเฉพาะข้อมูลเชิงลึกเชิงเทคนิคที่ต้องใช้วิธีการค้นข้อมูลที่ถูกต้องจากคู่มือเช่นเรื่องของนโยบายด้านความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนของของสินค้าและบริหาร โดยเฉพาะในขั้นตอนของการส่ง RFP ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องการข้อมูลที่ละเอียดชัดเจน

ค้นข้อมูลเชิงลึกเพื่อตอบคำถามลูกค้า

กรณีนี้เราก็สามารถใช้ AI Assistant ช่วยอ่านช่วยสรุปเนื้อหาสำคัญรวมถึงนำคำถามจากลูกค้าไปถามได้เลยซึ่งคำตอบเราก็สามารถนำไปเช็คกับเอกสารต้นทางได้เช่นเดิม นี่พลังของ AI Assistant ที่เข้ามาช่วยลดเวลาการทำงานลงได้อย่างมากมาย

ชมคลิป

นั่นคือ 5 Use Case ในการใช้ AI Assistant ที่จะมาช่วยเราอ่านเอกสารไฟล์ PDF ที่จะช่วยลดเวลาทำงานลงได้มากมายและใช้ได้ในหลายๆสถานการณ์กับหลายๆรูปแบบการทำงาน

อย่างไรก็ตามการใช้งานก็จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลจากไฟล์ต้นทางด้วยเพราะคำตอบอาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ซึ่งเรื่องนี้ AI Assistant ก็ได้เขียนเตือนไว้ในหน้าจอที่เข้าไปใช้ครั้งแรกว่า “ให้ดับเบิลเช็คคำตอบและแหล่งที่มาด้วยเพราะคำตอบอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป” ด้วยเช่นกัน

Adobe ในเวลานี้อยู่ระหว่างการทดลองใช้และเตรียมที่จะเปิดให้ได้ใช้สำหรับคนที่มี Acrobat Individual, Acrobat Pro และ Acrobat Teams ส่วน Adobe Reader จะได้ใช้งานฟีเจอร์ใหม่นี้ในภายหลัง โดยจะเปิดให้ใช้ AI Assistant ในภาษาอังกฤษก่อน ส่วนภาษาอื่นๆรวมถึงภาษาไทยจะพัฒนาตามมาในอนาคต


  • 16
  •  
  •  
  •  
  •