ผู้ประกอบการ และคนที่เริ่มทำธุรกิจหลาย ๆ คนในตอนนี้มีความสนใจในเรื่องการตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะ Digital marketing ทำให้เราเห็นปรากฏการณ์ที่เกิดคอร์สสอนจำนวนมากที่หลาย ๆ คนจ่ายเงินตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักหมื่นไปเรียนกันอย่างมากมาย แต่ทำไมเรียนแล้วปรากฏว่ากลับมาใช้ไม่ได้จริง หรือรู้สึกว่าทำแล้ว Digital Marketing หรือทำ Marketing แบบที่เรียนมานั้นไม่เวิร์ค เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดเฉพาะที่เมืองไทย แต่ที่ต่างประเทศนั้นก็มีปัญหานี้เช่นกัน
ตอนนี้ที่ต่างประเทศนั้นก็กำลังตั้งคำถามกับการมี Qualification ของทางด้าน Marketing หรือ Digital Marketing นั้นมีความจำเป็นต่อไปในยุคนี้ไหม หรือคนที่จะทำการตลาดหรือการตลาดดิจิทัลนั้น ควรจะเรียนหรือได้ใบประกาศนียบัตรว่าผ่านหลักสูตรพวกนี้มาหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จากนักการตลาดที่มีประสบการณ์ในยุคตามต่างประเทศนั้นได้ให้คำตอบเลยว่า ยุคนี้คุณไม่จำเป็นต้องจบการตลาดหรือเรียนด้านการตลาดดิจิทัลมา เพื่อให้ทำงานดิจิทัลเป็น แถมเรียนมานั้นสิ่งที่เรียนมาก็อาจจะใช้ไม่ได้เลย ในยุคที่การตลาดและพฤติกรรมของคนนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้
ที่ต่างประเทศนั้นตั้งคำถามถึงการเรียนการสอน หรือการไปเข้าคอร์สอบรมต่าง ๆ เพื่อที่จะให้มีวุฒิทางด้านการตลาดหรือการทำการตลาดดิจิทัลออกมา เพื่อไปทำงานต่อหรือการไปสมัครงาน แต่เมื่อมาถึงกลับโดนคำถามมากมายในการสัมภาษณ์ที่ความรู้นั้นไม่ได้ตอบได้เลย หรือเอาไปใช้จริงแล้วช่างแตกต่างกับที่เรียนมาอย่างมาก มากไปกว่้านั้นคือบางคนเชื่อในสิ่งที่เรียนมาอย่างมาก ลงทุนในงบประมาณไปอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่คุ้มค่ากับการลงทุนที่เรียนไป สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความรู้สึกไม่เชื่อมั่นในการตลาดดิจิทัลหรือการตลาดที่เรียนมาอีก เมื่อเจอคนตัวจริงไปแนะนำกลับกลายเกิดกำแพงในใจที่ไม่ยอมรับอีกต่อไปอีกแล้ว แล้วทำไมสิ่งที่เรียนทางด้านการตลาดด้านต่าง ๆ นั้นเกิดไม่ได้ผล นั้นเป็นเพราะบริบทของการเรียนนั้นไม่ได้สอดคล้องกับความจริงทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป หรือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่การปรับเปลี่ยนทุกวัน ทำให้ผู้ที่เรียนจบมาและติดในทฤษฎีต่าง ๆ ไม่สามารถปรับตัวได้ทันหรือรู้สึกว่าสิ่งที่เรียนมากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับความเป็นจริงนั้นทำไมมันแตกต่างกันอย่างมาก
สิ่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเองนั้นตอนนี้การทำงานทางด้านการตลาดหรือการตลาดดิจิทัลนั้น ไม่ได้สนใจว่าคุณจะจบอะไรมา หรือคุณเรียนอะไรมา แต่อยู่ที่ mindset มากกว่า การมีปริญญาด้านการตลาดหรือการตลาดดิจิทัลนั้นไม่มีความสำคัญเทียบเท่ากับความตั้งใจและแนวความคิดริเริ่มในการเข้าใจผู้บริโภคและอยากจะสื่อสารกับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังปรากฏด้วยอีกว่าคนที่ไม่ได้จบสายทางด้านการตลาดหรือการตลาดดิจิทัลโดยตรงในต่างประเทศนั้น กลับมีความคิดที่ทำการตลาดได้ดีกว่าคนที่จบในสายการตลาดอย่างมาก สิ่งที่จำเป้นสำหรับคนเหล่านี้คือการฝึกฝนในระหว่างการทำงานจริง 70% การได้เรียนรู้การทำงานกับทีม 20% และการได้เรียนเรื่องเทคนิคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่อีก 10% ตัวอย่างที่คนที่ไม่ได้จบสายการตลาดมาหรือไม่ได้เรียนการตลาดดิจิทัล แต่สามารถทำการตลาดได้อย่างเชี่ยวชาญและเป็นผู้บริหารการตลาดระดับโลก เช่น Matt Barwell ที่เป็น CMO ของ Britvic นั้นจบประวติศาสตร์สมัยใหม่ หรือ Keith Weed ที่เป็น CMO ของ Unilever นั้นจบด้านวิศวกรรมศาสตร์มา แต่ด้วยงานที่ทำและการฝึกฝนในระหว่างการทำงานทำให้สามารถให้พื้นฐานทางการตลาดได้อย่างรวดเร็ว
ทำไมการไม่มีวุฒิทางการตลาดหรือการตลาดดิจิทัล ถึงมีความสำคัญในต่างประเทศนั้น เพราะผู้บริหารหรือองค์กรนั้นรู้สึกว่าการเรียนการสอนต่าง ๆ นั้นเป็นการสร้างกรอบในการทำงานที่ต้องคิดตามสิ่งที่เรียนมา Peter Boucher ที่เป็น CCO ของ Addison Lee ผู้ให้บริการรถยนต์เหมือน Uber ได้เล่าประสบการณ์ว่าเมื่อตอนเริ่มต้นทำงาน ตัวเค้าเองนั้นจบด้านธรณีวิทยามา แล้วไปสมัครงานที่ Kraft และทางที่นั้นเอง Kraft ก็บอกว่าเขาสามารถเลือกที่จะไปอบรมทางด้านการตลาดที่ Kraft มีให้ก็ได้ แต่ถ้าเขาตั้งใจทำงานและทำงานหนัก เขาจะเรียนรู้ทุกอย่างที่คนที่เรียนจบการตลาดมานั้นได้แน่นอนโดยไม่ต้องไปเรียนหรืออบรมเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริง ในตอนนี้องค์กรในต่างประเทศนั้นคิดว่าการมีวุฒิในการศึกษาด้านการตลาดหรือการตลาดดิจิทัลนั้นเป็นการเรียนในสิ่งที่ไม่ได้ทันกระแสของโลกนี้ที่เปลี่ยนไป ทาง Dawn Paine ซึ่งเป็น Chief Marketing and Strategy Officer ของ Creative England นั้นได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ เรานั้นเข้าสู่ยุคใหม่ที่เป็น Digital Transformation แล้ว และคนที่อยากจะทำงานการตลาดหรือต้องทำการตลาดเองต้องมีทักษะที่แตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงไปจากการที่ได้ร่ำเรียนมาจากตำรา
ในยุคนี้สิ่งที่เรียนมาจากห้องเรียนนั้นอาจจะใช้ไม่ได้เลย เพราะโลกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน สิ่งสำคัญในยุคนี้กลับกลายเป็นพื้นฐานทางการตลาดและการเข้าใจความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก กับการที่ประสบการณ์ในการเรียนรู้จากการทำงานนั้นที่สำคัญที่สุด