อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยในปี 2566 การส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบกับปี 2565 รวมมูลค่ากว่า 39,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.37 ล้านล้านบาท ซึ่งความต้องการสินค้าอาหารในภูมิภาคต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะจีนที่มีอัตราเติบโต 25.9% และอาเซียนเติบโต 21.5% โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 12 ของโลก ปรับขึ้นจากอันดับที่ 15 ของโลก
โดยในปี 2567 คาดว่าการส่งออกสินค้าอาหารของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 2% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 1.4 ล้านล้านบาท นั่นจึงทำให้มีการส่งเสริมอุตสาหกรรม F&B อย่างจริงจัง โดยล่าสุดมีการจัดงาน ThaiFEX 2024 งานที่รวมผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้ารวมกว่า 3,000 บริษัท มากกว่า 6,000 คูหา จากกว่า 50 ประเทศ และมีผู้เข้าชมงานจากกว่า 130 ประเทศ คาดการณ์ผู้เข้าชมงานมากกว่า 80,000 ราย
3 เทรนด์อาหารเครื่องดื่มที่เกิดขึ้น
สำหรับงาน ThaiFEX 2024 นอกจากมีผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มของไทยจำนวนมากแล้ว ยังมีผู้ประกอบอาหารและเครื่องดื่มจากต่างประเทศเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเดินรอบงานจะเห็นว่า เทรนด์ด้านอาหารในปีนี้จะแบ่งออกเป็น 3 เทรนด์หลักๆ ประกอบด้วย
- เทรนด์ซอสเครื่องปรุง: ที่หลายแบรนด์หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของซอส ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์การทำครัว
- เทรนด์เพื่อสุขภาพ: ที่นอกจากเน้นในเรื่องของการทานอย่างพอดี ยังเน้นเรื่องของผลิตภัณฑ์ออแกนิค
- เทรนด์เพื่อสิ่งแวดล้อม: โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มี Packaging สร้างจากวัสดุธรรมชาติและสามารถรีไซเคิลได้
ที่สำคัญทั้ง 3 เทรนด์ยังได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงาน โดยเฉพาะผู้เข้าร่วมงานที่มาจากต่างประเทศที่ให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่จับเทรนด์เหล่านี้ เห็นได้จากผู้เข้าชมบูธเหล่านี้มีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Interactive ที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
ซอสเครื่องปรุงเขย่าโลกของต้องมีติดครัว
ปีนี้หลายแบรนด์ให้ความสำคัญกับซอสอย่างมากมาย และดูเหมือนซอสฝนงานจะมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ซอสเครื่องปรุงปกติที่ใช้กันในครัว ไปจนถึงซอสปรุงอาหารสำเร็จรูป และที่ดูโดดเด่นจะเป็นกลุ่มซอสที่ใช้ทดแทนอย่างซอสปลาร้าที่ใช้ทดแทนน้ำปลาและซอสน้ำจิ้มต่างๆ ที่ถูกนำมาทดแทนซอสมะเขือเทศหรือซอสพริก
ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาทำครัวเองมากขึ้น ช่วยให้สามารถเลือกวัตถุดิบคุณภาพ ซึ่งซอสที่สามารถใช้ครอบคลุมหลายเมนูอาหารจะได้รับความสนใจอย่างมาก ประกอบกับการที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาเที่ยวเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาด ส่งผลให้ร้านอาหารจำเป็นต้องใช้ซอสเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้การปรุงอาหารเพื่อให้รสชาติถูกปากมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นซอสหลายชนิดยังถูกพัฒนาให้สามารถใช้แทนซอสมะเขือเทศและซอสพริก ซึ่งในตลาดโลกมีมูลค่าตลาดสูงกว่าตลาดของไทยมาก เพราะพฤติกรรมการทานซอสเหล่านี้ของต่างประเทศสูงกว่าของประเทศไทย นั่นจึงทำให้ผู้ประกอบการหลายรายของไทย เริ่มมองหาคู่ค้าจากต่างประเทศมากขึ้นเพื่อเจาะสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น
สุขภาพที่ดีมาจากการทานอาหารที่ดี
ไม่เพียงแต่พฤติกรรมการปรุงอาหารเองที่บ้านจะเป็นหนึ่งในเทรนด์ของอาหารแล้ว ยังช่วยให้สามารถนำวัตถุดิบที่มีคุณภาพและมีประโยชน์มารับประทาน และเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้ประกอบการหลายแบรนด์ให้ความสำคัญ โดยจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่เป็นลักษณะอาหารออแกนิคที่เป็นรูปแบบพร้อมทาน รวมถึงวัตถุดิบที่พร้อมนำไปปรุงแบบที่เป็นวัตถุดิบที่ไม่มีการแต่งเติม
รวมไปถึงแนวการทานอย่างพอดี (Optimised) ผ่านการวางแผนเพื่อเลือกเมนูอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถควบคุมปริมาณและวางแผนการรับประทานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทานอาหาร ทำให้หลายแบรนด์มีการนำเสนอเมนูต่างๆ ที่ช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดของแต่ละผลิตภัณฑ์ และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เกิดการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เพื่อสุขภาพ
ไม่เพียงแต่ด้านอาหาร ขนมและเครื่องดื่มก็มีการนำเสนอในเรื่องของเทรนด์สุขภาพเข้ามาด้วย ไม่ว่าเป็นน้ำผลไม้ หรือแม้แต่กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ยังเน้นในเรื่องของวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อมยังสำคัญสำหรับอาหาร
อีกเทรนด์ที่น่าจับตามองอย่างเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่หลายผู้ประกอบการให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของ Packaging ที่มีการนำวัสดุจากธรรมชาติเข้ามาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีการนำวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้มาใช้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโฟมที่สามารถย่อยสลายได้หรือพลาสติกที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้
การเลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืนก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่แบรนด์ด้านอาหารถือเป็นเทรนด์ เช่น การใช้พืชที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย และการเลือกใช้สัตว์ที่เลี้ยงด้วยวิธีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งหลายแบรนด์เริ่มนำผลิตภัณฑ์เหล่านั้นออกมาจำหน่าย
นอกจากนี้หลายแบรนด์ยังมีการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มาจากชุมชนท้องถิ่น ซึ่งนอกจากจะช่วยผู้ประกอบการรายย่อยแล้ว ผู้ผลิตยังสามารถควบคุมกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เรียกว่างาน ThaiFEX 2024 ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ที่ผู้ประกอบการทั่วโลกต่างเข้าร่วมงาน และมีแนวโน้มที่จะมีการเจรจาธุรกิจจนสามารถนำผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบของไทยสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะกลุ่ม HORECA ที่ปีนี้จะเติบโตจากการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทย