คงไม่ง่ายที่จะสรุปคำศัพท์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Marketing Technology หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า MarTech ซึ่งความหมายก็คือ การทำการตลาดในรูปแบบใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนสำคัญในการทำมาร์เก็ตติ้ง ไม่ว่าจะรูปแบบไหน หรือกระบวนการใดก็ตาม
มีประโยคหนึ่งของ John Koetsier นักพูดที่เชี่ยวชาญด้าน Consumer Tech ทั้งยังเป็นนักวิเคราะห์ และนักเขียน เขาได้พูดว่า “คำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ MarTech ในปี 2022 ส่วนใหญ่จะเชื่อมโยง หรือเป็นคำๆ เดียวกับปี 2021 เพราะทิศทาง สถานการณ์ ประเมินว่าจะยังเหมือนเดิมแต่จะเห็นอะไรชัดเจนขึ้น”
คล้ายๆ กับมุมมองของ CMOs หรือผู้นำด้านการตลาดคนอื่นๆ ในบทความที่ Koetsier ได้สรุปมาให้ ซึ่งมองว่าปี 2022 จะเป็นปีแห่งการพัฒนาเต็มรูปแบบ คงอารมณ์เหมือนปี 2021 ได้บ่มเพาะมาเต็มที่และปีนี้ก็จะถึงเวลาแสดงผลว่าเวิร์คหรือไม่ ดังนั้น คำศัพท์ที่(ยัง) สำคัญในปีนี้ และน่าจะเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่
Metaverse
โลกเสมือนจริง หรือการสร้างสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความจริงผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีจนกลายเป็นโลกเดียวกัน คำๆ นี้เกิดขึ้นมาสักพักใหญ่ และถูกพูดถึงหนักๆ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากการที่ Facebook ประกาศรีแบรนด์ ล้างจุดยืนองค์กรไม่ใช่แค่แพลตฟอร์ม Facebook อีกต่อไป
ดังนั้น มาร์เก็ตเตอร์ที่ปรับใช้ Metaverse ได้ช้ากว่าคนอื่นจะนับเป็นว่าล้าหลังกว่าคนอื่นเสมอ ซึ่งตอนนี้องค์กร, ธุรกิจ, ประสบการณ์ลูกค้าหลายๆ แห่งเริ่มปรับใช้ Metaverse กันแล้วไม่ว่าจะ 1 หรือ 2 ก้าวนำหน้า
สิ่งที่ต้องคิดก็คือ วิธีที่จะทำให้การตลาดและการโฆษณาสามารถดำเนินการในสภาพแวดล้อมส่วนบุคคล และระบบนิเวศที่สมจริงได้โดยไม่ติดขัด ซึ่งปีนี้เป็นปีแห่งการคิดไอเดีย brain storm ของนักกลยุทธ์ในเรื่องนี้
A/B Testing หรือ Split Testing
กระบวนการนี้ที่จริงถือว่าทำกันมานานมากในการตลาดดิจิทัล เพื่อทดสอบผู้บริโภคโดยสร้างผลงานขึ้นมา 2 แบบขึ้นไปและดูว่าแบบไหนที่คนนั้น (กลุ่มเป้าหมาย) จะชอบใช้งานมากที่สุด ซึ่งในบทความของ Richard Bayston ที่เชี่ยวชาญในด้านอีเมล์มาร์เก็ตติ้ง มองว่า A/B testing ยังเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจของปี 2022 โดยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นจะทำให้รู้มุมคิดของผู้บริโภคได้ลึกขึ้น
ทั้งนี้ ในปีนี้การทดสอบตลาดผู้บริโภคแบบ A/B เราจะเห็นการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วย เพื่อเข้าใจอินไซต์ของคนแต่ละ gen ถือว่าเป็นเครื่องมือทีมีประสิทธิภาพ, คุ้มค่า, สร้างการเข้าถึงได้หลายกลุ่ม, เพิ่มโอกาสในการรับรู้ของแบรนด์, เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายมากขึ้น และใช้เครื่องมือนี้ได้ก่อนที่จะขยายตลาดไป ocean ใหม่ๆ
Web3
ในเมื่อในปี 2022 เราก็ยังจะพูดถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่เหมือนเดิม ดังนั้น Web3.0 หรือ Web3 ก็ยังคงมีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งมันก็คืออินเทอร์เน็ตรุ่นที่ 3 ที่จะให้บริการเว็บไซต์, แอปพลิเคชั่นต่างๆ โดยการทำงานของเทคโนโลยี AI หรือ P2P (Peer to Peer) เช่น บล็อกเชน
แต่ที่จะเห็นเพิ่มเติมมากขึ้นก็คือ Web3 ในสกุลเงินดิจิทัล, smart contracts (ขั้นตอนการทำธุรกรรมอัตโนมัติที่ตั้งไว้ล่วงหน้า), NFT หรือ องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO) ซึ่งก็คือสิ่งที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Decentralized Application หรือ DApp ที่ประยุกต์ใช้กับ smart contract ร่วมกับเทคโนโลยีบล็อกเชน
ที่น่าสนใจคือ DAO จะถูกเขียนขึ้นมาในรูปแบบของชุดคำสั่งทางคอมพิวเตอร์ และอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน ที่มีการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ซึ่งจะง่ายต่อทุกคนที่อยู่ในเครือข่ายโดยสามารถตรวจสอบได้ว่าชุดคำสั่งของ DAO มีหลักการทำงานหรือน่าเชื่อถือขนาดไหน ซึ่งความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญของยุคนี้
ชอบคำพูดหนึ่งจาก Joanna Lambert ประธานและ GM ของ Yahoo ที่พูดว่า “ปี 2022 จะเป็นปีแห่งการเข้ารหัสลับกันทุกวัน ทั้งสำหรับธุรกิจและผู้บริโภค (เพราะความน่าเชื่อถือ ความเป็นส่วนตัว เป็น priority แรกๆ ของยุคที่ทุกอย่างเกิดขึ้นบนออนไลน์ 100%”
ทั้งนี้ Balenciaga, Adidas และแบรนด์สินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ อีกมากได้เริ่มทดลองใช้ Web3 แล้ว แต่ยังคงต้องจับตาดูว่าการโต้ตอบเสมือนจริงเหล่านั้นจะมีความสมจริงมากแค่ไหน เพราะสามารถส่งผลต่อยอดขายได้
ESG
ในปีนี้เราจะเห็นสัญลักษณ์มากมายที่เกี่ยวข้องกับ ESG มากขึ้น ซึ่งมันก็คือ Environment, Social และ Governance แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน จากความเครียดะสมช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
หากูดว่าเป็นเทรนด์ของ ESG ก็คงถูกแม้ว่าอาจไม่ได้เกี่ยวกับ MarTech โดยตรง แต่เพราะกระแสนี้ที่กลายเป็นกระแสหลัก ดังนั้นเทคโนโลยีหรือการตลาดต่างๆ จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากกว่าเดิม ต่อเนื่องจาก 5 ปีก่อนที่ผู้บริโภคแสดงความต้องการในเรื่องความยั่งยืน, แนวคิดที่ยั่งยืน ฯลฯ มากขึ้นเรื่อยๆ
Marketing fortresses
มันคือการให้ความสำคัญของการทำการตลาดในทุกช่องทาง ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งเป็นการปรับใช้แนวคิดของ Eric Seufert ที่ได้พูดถึงคำว่า Content Fortresses มาก่อน โดยมี key หลักในการคิดย่างหนึ่งก็คือ ความสามารถในการซื้ออะไรก็ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งธุรกิจ/แบรนด์ต้องนึกเป็นสิ่งแรกของยุค 2022
อย่างที่ Irina Marciano ผู้อำนวยการของ Payoneer ที่อธิบายว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณให้คิดว่าธุรกิจต้องผสมผสานระหว่างสภาพแวดล้อมดิจิทัลมากขึ้น อย่างที่เราเห็นบริษัทเทคโนโลยีหลายรายที่เปิดฟีเจอร์สำหรับช้อปปิ้งโดยเฉพาะ หรืออยู่บนแพลตฟอร์ม เช่น Instagram, Facebook, TikTok ที่เปิด marketplace ของตัวเอง ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดว่าการทำการตลดต้องครอบคลุมขนาดไหนถึงจะเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ
Freemium
เป็นการรวมคำแบบตรงตัว ก็คือ Free + Premium ซึ่งที่จริงเป็นรูปแบบที่ธุรกิจใช้กันมานาน แต่ว่าในปี 2022 เราจะยังเห็นเทรนด์นี้อยู่เพราะการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่จะเปิดให้ทดลองใช้สินค้าและบริการบางอย่างก่อนเพื่อทดลองก่อนอัพเกรดเป็น ‘พรีเมียม’ จริงจัง เช่น YouTube ที่จะเห็นว่ามีให้ทดลองใช้ก่อน 1 เดือนขึ้นเป็น pop up อยู่บ่อยๆ
โดยในปีนี้เชื่อว่าหลายๆ บริษัทจะปล่อยสินค้าและบริการเด็ดๆ หลังจากซุ่มเงียบพัฒนามาหลายปี ซึ่งการตลาดแบบ Freemium ถือว่าเป็นหลักการที่ CMOs หลายๆ คนเปรยมาว่าจะใช้ในหลายๆ โปรดักส์ในช่วงที่เปิดตัว
คำศัพท์ที่จริงมีอีกเยอะมาก แต่ส่วนมากที่หยิบมาแชร์ต่อคือคำศัพท์ที่ CMOs พูดถึงบ่อยๆ ตั้งแต่ปี 2021 จนถึงปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้เราคงได้เห็นคำเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าคงจะมีคำศัพท์ใหม่ให้เราได้เรียนรู้กันในอนาคตเกี่ยวกับวงการ MarTech
ที่มา: forbes, moosend, techcrunch
