สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ไม่เอื้อให้ออกเดินทางท่องเที่ยวมากว่า 17 เดือน (หรือประมาณปีครึ่ง) ทำให้เหล่านักเดินทางโหยหาช่วงเวลาพิเศษมากกว่าปกติ นอกจากนี้ความรู้สึกอยากลองสิ่งใหม่ๆ กำลังเข้ามาทดแทนมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้หลังจากที่เราถูกห้ามให้ทำอะไรบางอย่างเป็นเวลานานๆ ตามหลักของจิตวิทยา
ข้อมูลของ Airbnb ที่เผยแพร่ล่าสุดน่าสนใจ เพราะบรรยากาศในการหาที่พักของนักท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนไป โดยเกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป ที่อนุญาตให้เดินทางได้แล้ว
โดยข้อมูลจากรายงาน Travel & Living ของ Airbnb ระบุว่า นักท่องเที่ยวเกือบ 70% ต้องการที่พักที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำเดิม (unique stays) และบางคนระบุด้วยว่า ที่พักในจินตนาการของพวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็น “ห้องสี่เหลี่ยม หรือบ้านเป็นหลังๆ อย่างเดิมอีกแล้ว” เหตุผลเพราะว่า พวกเขารู้สึกว่าการที่ไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวเป็นเวลานาน ทำให้พวกเขาอยากจะลองอะไรใหม่ๆ ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ หรือสุดโต่งของความแปลกไปเลยก็ได้
ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมด Airbnb สรุปมาจากข้อมูลของบริษัทให้เช่าบ้านและที่พัก ที่เป็นพาร์ทเนอร์ในแพลตฟอร์ม Airbnb โดยแนวโน้มความเป็นไปได้จากผลสำรวจผู้เดินทาง มุ่งมาที่ที่พักแบบ ‘quirky’ (แปลก, แหวกแนว) ในหลายๆ ประเทศ และมองว่าหากสถานการณ์ดีขึ้น และในหลายๆ ประเทศที่เหลือเปิดประเทศ เทรนด์การท่องเที่ยวแบบใหม่นี้จะเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง
ทำไมต้องเป็นที่พักแปลกใหม่?
เหตุผลที่ Airbnb อธิบายในข้อมูลอินไซต์นี้ ก็คือ การถูกขังหรือต้องกักตัวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม หรือบ้านแบบเดิมๆ เป็นเวลานาน ทำให้นักท่องเที่ยวโหยหาความแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส โดยเฉพาะที่พักที่หน้าตาเหมือนไม่ใช่ที่พัก เช่น ที่พักในถ้ำ, ในป่า, บ้านต้นไม้, ในปราสาท ฯลฯ ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่จริงการค้นหาที่พักแบบแปลกใหม่บนแพลตฟอร์ม Airbnb เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2019 แต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 และทั่วโลกจำเป็นต้องล็อกดาวน์ ปิดประเทศ มาตรการต่างๆ ทำให้ความโหยหาที่พักรูปแบบนี้พุ่งสูงขึ้น โดย 8 อันดับแรกที่มีการค้นหามากที่สุดใน Airbnb คือ
-
เยิร์ต หรือกระโจมที่จัดตั้งแบบชั่วคราว
-
ที่พักในหมู่เกาะ แบบไหนก็ได้ที่อยู่ในธรรมชาติมากที่สุด
-
กระท่อม (มีตั้งแต่แบบทั่วไปจนถึงกระท่อมไฮโซ)
-
บ้านดิน
-
โรงนา
-
ฟาร์มสเตย์
-
เรือนแพ
-
บ้านเล็กๆ แบบ tiny
นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2021 ในหลายๆ ประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้แล้ว เช่น แคนาดา, สหราชอาณาจักร, สหรัฐฯ, สเปน, เม็กซิโก, บราซิล, เยอรมนี ฯลฯ เกิดปรากฎการณ์ท่องเที่ยว ‘ใกล้บ้าน’ (ไม่เกิน 500 กิโลเมตร) มากขึ้นในช่วงแรกๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย ดังนั้น Airbnb จึงมองว่า เทรนด์เที่ยวใกล้บ้านก็เป็นโอกาสในหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน
ที่มา: Airbnb, fastcompany, Airbnb Report on Travel & Living 2021