เมื่ออนาคตคุณต้องถูกแนะนำจากจากระบบ Platform ยักษ์ใหญ่ แล้วนักการตลาดจะทำอย่างไรดี?

เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นผมได้อ่านบทความหนึ่งที่ทำให้ระลึกเรื่องที่นักการตลาดต่างประเทศมีความกังวัลกันนั้นคือในอนาคตที่จะมาถึงนี้ชีวิตเรานั้นจะถูกกำหนดหรือสร้างทางเดินโดย AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่จะแทรกอยู่ตามผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น TV, มือถือ หรืออื่น ๆ และปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะมีอิทธิผลต่อผู้ใช้และทำให้มีผลต่อการทำการตลาดอย่างมากในอนาคต

เร็ว ๆ นี้มีบทความน่าสนใจเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Google ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในระดับที่น่าสนใจ ตัวผลิตภัณฑ์นั้นชื่อ Google Maps ซึ่งทาง Google เองนั้นได้ออกมาบอกว่าในอนาคตนั้น Google Maps จะมีความฉลาดในขั้นที่ว่าจะสามารถแนะนำเส้นทางเดินทางที่แม่นยำขึ้น และสามารถคาดเาล่วงหน้าว่าผู้โดยสารหรือคนใช้นั้นจะเดินทางไปที่ไหน หรืออยากเห็นอะไร ทำให้ชีวิตของผู้ใช้นั้นเข้าใกล้ความสะดวกสลายมากขึ้น เมื่อผนวกกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเองได้ในอนาคตนั้นจะทำให้ Google มีระบบที่พร้อมทั้งการเดินทางและการขนส่งไปอีก

ในปี 2016 นี้ระบบที่นักการตลาดยังใช้กันอยู่หรือที่ Consumer คุ้นเคยกันดีคือระบบอัตโนมัติ (Autonomous) เช่นในการซื้อขายมีเดียหรือโฆษณาออนไลน์ หลายๆ ที่ใช้ระบบการซื้อขายอัตโนมัติมาช่วยเหลือ ซึ่งระบบอัตโนมัตินี้เป็นแค่ระบบทำตามคำสั่งที่เราได้วางไว้ให้ปฏิบัติตามเมื่อผู้สั่งไม่อยู่หรือให้ทำตามเพื่อผู้สั่งไม่ได้ทำงานเอง โดยระบบอัตโนมัตินี้ยังคิดเองเป็นไม่ได้ แต่ระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์นั้นเป็นระบบที่ใหญ่กว่าระบบอัตโนมัตืในตอนนี้อย่างมาก เป็นระบบที่จะสามารถคิดเองได้ว่าต้องทำอะไร และแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้คนตัดสินใจหรือ สามารถตัดสินใจเองได้เลย ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์นี้จะเป็นระบบสำคัญอย่างมากในการทำงานให้มนุษย์นั้นมีความสะดวกสบายมากขึ้นซึ่งในระดับการทำงานเองก็มีการใช้ระบบ AI นี้อย่างมากเช่นกัน ซึ่งในชีวิตประจำวันของเราเองนั้นระบบ AI ก็จะเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต ทีนี้ลองนึกภาพว่าเมื่ออนาคตอันใกล้นี่จะมาถึงกับผลิตภัณฑ์ของ Google ต่าง ๆ ที่จะมีระบบ AI นั้นใช้เข้าไปด้วย การที่เราจะลงมือลงแรงหาอะไรเองนั้นจะเริ่มน้อยลง และถามระบบต่าง ๆ เพื่อให้แนะนำอะไรให้เราได้เองโดยอัตโนมัติมากขึ้นเช่น เมื่อเราค้นหาระบบ Google Search แทนที่เราจะพิมพ์หรือ Evalutate ข้อมูลต่าง ๆ เอง ในอนาคตเราจะให้ Google หรือระบบการค้นหานั้นแนะนำมาเลย หรือการเดินทางที่ผ่าน Google Maps ในอนาคตพร้อมรถยนต์อัตโนมัตินั้นก็สามารถนำไปสู่เส้นทางเองเลยได้ โดยที่ผู้บริโภคไม่ต้องทำอะไรเลย ทั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณไม่ถูกระบบเหล่านี้แนะนำขึ้นมา

httpv://www.youtube.com/watch?v=TsaES–OTzM

สิ่งเหล่านี้เมื่อผู้บริโภคมีอะไรที่สามารถมาช่วยเหลือในการทำงาน การค้นหา การเดินทาง ทำให้ผู้บริโภคมีเวลาจดจ่อกับอย่างอื่นมากขึ้น ชีวิตที่จะมองเห็นสิ่งรอบตัวได้นั้นจะน้อยลงไป เพราะทุก ๆ อย่างนั้นมีระบบที่คิดเองได้ทำให้หมด ทำให้ผู้บริโภคจะใช้เวลากับกิจกรรมส่วนตัวมากขึ้น เช่นการใช้มือถือเพื่อทำกิจกรรมต่าง หรือการอ่านหนังสือ เมื่อนึกภาพเหล่านี้ในขณะที่คุณเดินทางโดยรถยนต์อัตโนมัติที่คุณไม่ต้องจดจ่อกับสิ่งแวดล้อมแล้ว การเดินทางของคุณจะสะดวกขึ้นจริง แต่ประสบการณ์ที่จะเห็นในการเดินทางนั้นแทบจะหายไปทั้งหมด และคุณไม่สามารถเลือกเองได้ด้วยว่าอยากจะเจออะไรในระหว่างเดินทาง เพราะระบบการเดินทางนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความรวดเร็วหรือถูกแนะนำโดย Google Maps และพาคุณไปโดยรถที่ขับขี่ได้ด้วยตัวเองอีกแล้ว ด้วยความที่ระบบ AI เหล่านี้จะมีอิทธิพลอย่างสูงการในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะแนะนำสิ่งต่าง ๆ ให้กับผู้บริโภคให้มีความสนใจหรือโน้มน้าวสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดการบริโภคหรือความต้องการได้ ทำให้การตลาดหรือการนำเสนอข้อมูลสินค้าหรือสถานที่ต่าง ๆ นั้นจะต้องขึ้นอยู่ว่าระบบเหล่านี้จะแนะนำให้แบรนด์ของนักการตลาดเองหรือไม่ และถ้าไม่เกิดการแนะนำโดยระบบเหล่านี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิด

หลาย ๆ คนคิดว่าอนาคตนี้ไม่น่าจะเป็นจริงได้ แต่ในงาน CES ที่ผ่านมานั้นเราได้เห็นว่าเรื่องรถยนต์ขับขี่อัตโนมัตินั้นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของงานที่มีคนสนใจอย่างมาก แถมยังมีผลิตภัณฑ์ที่ Google กำลังพัฒนาอยู่อย่างเช่น Google Now นี้ที่จะมาช่วยทุก ๆ เรื่องในการค้นหา การเดินทางหรือการช่วยเหลือที่ผู้บริโภคนั้นต้องการผ่านโลกออนไลน์ ทำให้การแม้แต่จะค้นหาเองนั้นยังหมดไป และด้วยความฉลาดของ AI นี้เองจะทำให้ Google Now ยกระดับตัวเองไปอีกขั้นที่สามารถแม้แต่รู้ว่าผู้บริโภคนั้นต้องการอะไร หรืออยากได้อะไรในช่วงเวลาไหนก่อนที่ผู้บริโภคจะเอ่ยปากถามนั้นอีก

httpv://www.youtube.com/watch?v=pPqliPzHYyc

ในอนาคตนี้นักการตลาดนั้นคงต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่จะรับมือกับการที่ชีวิตของผู้บริโภคนั้นจะมีผู้ช่วยในการแนะนำต่าง ๆ นักการตลาดเองนั้นต้องการหาทางที่จะเข้าถึงผู้บริโภคเองได้ผ่านทาง Touchpoint อื่น ๆ แทนไม่ว่าจะเป็นทาง Social Network หรือการนำเสนอผ่านความสนใจของผู้บริโภคนั้นเองขึ้นมา นอกจากนี้นักการตลาดคนไหนที่ชะล่าใจไม่ทำเรื่อง content ไปสู่โลกออนไลน์ในอนาคตนั้นอาจจะหายไปจากการแนะนำนี้ได้อย่างทันที