ไทยกำลังจะเป็นประเทศแรกในโลก ที่ ‘สเวนเซ่นส์’ (Swensens) ร้านไอศกรีมชื่อดังสัญชาติอเมริกา จะทดลองโมเดลธุรกิจใหม่ นั่นคือ เปิดให้บริการแบบ 24 ชม. โดยสาขาแรกอยู่ที่ ‘สามย่าน มิตรทาวน์’ ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องเปิดโมเดลนี้ และเหตุใดถึงเลือกไทย เป็นแห่งแรกของโลก Marketing oops! จะพาไปค้นหาคำตอบ
ปัจจุบันสเวนเซ่นส์ทั่วโลกมีสาขาอยู่ราว 400 สาขาทั่วโลก ซึ่งไทย ถือเป็นตลาดใหญ่และสำคัญที่สุดของแบรนด์ ทั้งการสร้างยอดขายและจำนวนสาขาที่มีมากที่สุดถึง 290 สาขา ดังนั้นทางบริษัทแม่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ จึงเปิดให้ไทยได้แสดงฝีมือหรือคิดพัฒนาอะไรใหม่ ๆ ได้เต็มที่ รวมถึงการพัฒนาโมเดล 24 ชม.ขึ้นมา
“ที่ผ่านมาเรามีการปรับรูปแบบร้าน และเพิ่มเมนูให้เข้ากับโลคอล เข้ากับ season เช่น บิงซู ไอศกรีมมะม่วง ไอศกรีมข้าวเหนียวทุเรียน ทำให้เราเติบโตต่างจากสเวนเซ่นส์ในประเทศอื่น ๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน” ชุมพจน์ ตันติสุนทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มโคลด์เชน เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ไขข้อข้องใจให้ฟัง
จับเทรนด์ Sleepless society เพิ่มโอกาสธุรกิจ
ก่อนหน้านี้ สเวนเซ่นส์ในไทยเอง ก็มีสาขาที่เปิดให้บริการดึก ๆ ถึงเที่ยงคืนและตี 1 แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสาขาสแตนอะโลนและอยู่ในย่านของนักท่องเที่ยว เช่น สาขาบางลำภู , สาขาจังซีลอน ภูเก็ต และสาขาพัทยา ฯลฯ
ส่วนเหตุผลที่พัฒนาโมเดล 24 ชม. ขึ้นมา นั่นเพราะ
1.ต้องการตอบเทรนด์ Sleepless society การใช้ชีวิตไม่จำกัดเวลาที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ซึ่งเอื้อให้หลายธุรกิจมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจรีเทล (อ่านเพิ่มเติม Retail 24 hours มาแรง)
2.ต้องการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจด้วยโมเดลใหม่ ๆ เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ด้วยการใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไป ได้สิ่งผลกระทบต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ผู้บริโภคไปห้างน้อยลง , ชอบความสะดวกสบาย , หันมาใช้ออนไลน์และบริการเดลิเวอรี่มากขึ้น ฯลฯ
ดังนั้น หากตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ย่อมหมายถึงโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
‘หาลูกค้าให้เจอ-มีโปรดักท์ที่เหมาะ’ ความท้าทายของโมเดลใหม่
สำหรับโมเดลให้บริการ 24 ชม. จะเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ ที่สามย่าน มิตรทาวน์ มีขนาดพื้นที่ร้านประมาณ 100 ตร.ม. ซึ่งที่นั่งจะถูกดีไซน์ให้นั่งสบาย ๆ มีปลั๊กไฟ และอินเตอร์เน็ตให้บริการ โดยความท้าทายของโมเดลนี้ ชุมพจน์ บอกว่า คือ ต้องหาลูกค้าให้เจอ และต้องมีโปรดักท์ที่เหมาะสมกับลูกค้าด้วย
เริ่มตั้งแต่ การเลือกสามย่าน มิตรทาวน์ เป็นสาขาแรก เหตุผลก็เพราะว่า
– เป็นโลเคชั่นที่มีกลุ่มเป้าหมายของสเวนเซ่นส์อยู่ครบ คือครอบคลุมตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงวัย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีทั้งชุมชนเก่า , คอนโด , มหาวิทยาลัย , สำนักงาน , มี Co-working space สำหรับสตาร์ทอัพ เรียกได้ว่า เป็นโลเคชั่นที่ Full fill กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
– บริเวณรอบ ๆ สามย่าน มิตรทาวน์ มีหลายบริการที่เปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมงอยู่โดยรอบ เช่น ร้าน Too Fast To Sleep (อยู่ใกล้ ๆ วัดหัวลำโพง) เป็นต้น
“ที่ผ่านมาเรายังไม่มีโลเคชั่นที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขนาดนี้ มีออฟฟิสมีคอนโดที่สตาร์ทอัพทำงานไม่เป็นเวลา เรามีสาขาที่สยามพารากอน อันนั้นเป็นคนรุ่นใหม่กับนักท่องเที่ยว สาขามาบุญครอง ก็เช่นกัน ส่วนสาขาที่จามจุรีสแควร์ กลุ่มคนรุ่นใหม่ กับคนทำงาน สาขาสีลมคอมเพล็กซ์ เป็นคนทำงาน ส่วนสามย่าน มิตรทาวน์ Mix ของลูกค้าหลากหลาย มีโซนเปิด 24 ชม.ชัดเจน เรามองเป็นโอกาส”
แน่นอนการเลือกโปรดักท์มาวางขายในโมเดลใหม่ จะมีการวางแผนไฮไลท์สินค้าให้เหมาะสมกับเวลาและกลุ่มลูกค้า โดยมีทั้งโปรดักท์เดิมที่มีอยู่แล้ว หรืออาจพัฒนาโปรดักท์ใหม่ขึ้นมา และจะมีการใช้กลยุทธ์ของ sizing เข้ามามีส่วนสำคัญ
เช่น ช่วงเช้า จะเน้นเมนูกินง่าย ๆ เช่น อาจเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น และเป็นเมนูในลักษณะ grap and go อาทิ บราวนี่หรือวาฟเฟิล ส่วนช่วงดึก จะเน้นเมนูที่ไม่หนักจนเกินไป และไซด์อาจจะเล็กกว่าเวลาปกติ
สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง คือ พนักงานต้องถูกฝึกมาให้สามารถแนะนำเมนูให้เหมาะสมกับเวลาได้ด้วย
หากโมเดล 24 ชม. เวิร์ค เราอาจจะได้เห็นร้านสเวนเซ่นส์ในโมเดลนี้เพิ่มเติม โดยเบื้องต้นจะนำไปขยายเริ่มจากสาขาสแตนอะโลนที่มีอยู่ประมาณ 10 แห่งก่อนพิจารณาไปสู่โลเคชั่นอื่น ๆ