ปัจจุบันนี้เรากำลังมีเพื่อนๆ จากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาร่วมชะตากรรมเป็นฟรีแลนซ์กันมากขึ้นตามลำดับ โดยการสำรวจในปี 2014 จาก Freelancers Union and ElanceoDesk ของอเมริกันระบุว่าปัจจุบันนี้มีชาวอเมริกันทำหน้าที่เป็นฟรีแลนซ์กว่า 14.3 ล้านคน เชื่อว่าในประเทศไทยตอนนี้เราก็มีจำนวนฟรีแลนซ์เพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราดเช่นกัน ดังนั้น เรามาทำเช็คลิสต์ 7 ข้อกันดีกว่าว่าทำอย่างไรงานฟรีแลนซ์ของคุณจะไม่ถูกยึดไป
1.ดูสัญญาให้ดี
หลายบริษัทอาจมีสัญญาป้องกันไม่ให้คุณไปทำงานให้คู่แข่งหรือบังคับให้คุณจ่ายภาษีมากมายอย่างที่คุณไม่ควรจ่าย หากคุณไม่อ่านสัญญาให้ดีก่อนก็จำไว้ว่าคุณกำลังเสียงต่อการถูกไล่ออกหรือแม้กระทั่งถูกฟ้องร้อง
2.จงซื่อสัตย์
หากคิดว่านายจ้างจะไม่มีวันรู้ความลับที่ไม่ซื่อสัตย์ของคุณแล้วล่ะก็ คุณคิดผิด ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่มีทั้งโซเชียลมีเดีย กูเกิ้ล และการเชื่อมต่ออื่นๆ ที่คุณทำในอุตสาหกรรมเดียวกัน ดังนั้น พยายามอย่าทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนกันระหว่างแต่ล่ะบริษัทที่คุณรับงาน
3.บอกพวกเขาไปว่าคุณรับงานฟรีแลนซ์แบบไหนบ้าง
แน่นอน! คุณก็ต้อง “โฆษณา” ไปว่าคุณทำอะไรได้บ้าง เชี่ยวชาญงานแบบไหน มีผลงานให้ดูไหม อย่างไรก็ตาม หากคุณมีงานประจำและจะรับงานที่อยู่ในแบบเดียวกับงานประจำคุณ ก็อาจต้องปรึกษานายจ้างก่อน
4.เน้นประโยชน์ที่การเป็นฟรีแลนซ์จะมีประโยชน์แก่ชีวิตคุณ
ประโยชน์อย่างแรกๆ คือเวลา! คุณมีเวลาเหลือเฟือมากหากเป็นฟรีแลนซ์ ประเด็นคือคุณต้องฝึกใช้เวลาว่างนั้นให้ productive หรือเกิดผลลัพธ์ขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ ขุดโปรเจกต์ต่างๆ ขึ้นมาทำและพัฒนาต่อยอดไปตามความฝันของคุณ
5.แน่ใจว่าคุณยังเต็มร้อยกับการทำงาน (หรือบางที 110%)
การเป็นฟรีแลนซ์คือผลงานของคุณจะต้องดีกว่าปกติเพื่อให้เกิดความประทับใจและเกิดการบอกต่อ (Word of Mouth) เกี่ยวกับตัวคุณไปเรื่อยๆ ผลงานแบบพอไปได้ ฟรีแลนซ์ต้องไม่ทำ! คุณต้องทำงานที่ดีที่สุดเพราะมันจะเป็นตัวชักชวนให้เกิดงานอื่นๆ ตามมามากมาย
6.จำกัดเวลาการทำงาน
แม้จะเป็นฟรีแลนซ์แต่คุณก็ควรแบ่งเวลาทำงาน พักผ่อน เหมือนทำงานก่อนหน้านี้ ไม่เช่นนั้นคุณก็จะทำงานมากมายและไม่ได้พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ ชีวิตคุณจะยิ่งตกเป็นทาสงานไม่ต่างจากการทำงานประจำ
7.ใช้เวลาที่เหลือจากงานฟรีแลนซ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อทำงานฟรีแลนซ์แล้ว คุณจะเริ่มมีเวลาว่างน้อยลง ดังนั้นให้บริหารเวลาว่างเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงานประจำ การวางแผนและการโฟกัสในจุดที่สำคัญจะทำให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากเวลาว่าง