วันนี้บทความนี้เหมาะกับคนที่ยังเริ่มทำงานไม่กี่ปี ทำงานที่แรก ทำไปนานๆเริ่มรู้สึกอยากเปลี่ยนงาน คราวนี้แต่ละคน มี background นิสัย ความชอบที่แตกต่างกัน ดังนั้นการจะเลือกบริษัทที่เหมาะกับนิสัยคุณเป็นสิ่งสำคัญเลือกถูกก็จะรุ่งเรืองและมีความสุข และถ้าคุณเลือกผิด คุณก็จะไม่ก้าวหน้าและทุกข์ในงานดังนั้นวันนี้ผมจะ share ประสบการณ์ของผมที่ผ่านมา มาเล่าให้ฟังบริษัทในเมืองไทยหลักๆที่ผมเคยผ่านมามีลักษณะใหญ่ๆอยู่ 5 แบบ
#1 บริษัทที่เจ้าของและเครือญาติยังคุมการบริหารอยู่ หรือ บางคนเรียกว่า family business
บริษัทแบบนี้ เงินเดือนปานกลาง แต่ใช้งานหนัก นอกจากงานที่คุณได้รับมอบหมายแล้วบางทีคุณต้องทำงานส่วนตัวให้บรรดาลูกหลานท่านๆ และบางบริษัทที่เจ้าของบริหารเครือญาติได้ดี ก็จะมีการเมืองน้อย การชิงดีชิงเด่นในหมู่เครือญาติน้อย แต่ในทางกลับกันถ้าเจ้าของดูแลไม่ดีในบริษัทก็จะมีก๊ก มีก๊วน คุณต้องดูให้ดีว่าลูกหลานคนไหนมี power ต้องคอยเอาใจ หมั่นเอาของไปฝาก บริษัทแบบนี้คนจะได้ดี อาจจะไม่ต้องทำงานเก่งมาก แต่ต้องเก่งทั้งงานและทำงานถูกใจกลุ่มลูกหลานที่มีอำนาจถึงจะได้ดี หรือไปช่วยงานส่วนตัวบ้านนาย จงรักภักดีอย่างสม่ำเสมอ ถ้าคุณทำได้คุณก็รุ่งและเจ้านายเค้าจะดูแลคุณไปจนแก่เลย แต่ถ้าทำงานอย่างเดียวจะก็พออยู่ได้ไปวันๆถ้าไม่ไปขัดใจนาย แต่วันใดถ้าคุณทำงานขัดใจนายเมื่อไหร่รับรองชาตินี้ไม่ได้เกิดครับ
#2 บริษัท ต่างชาติ ( ขอไม่นับ ญี่ปุ่นนะครับไม่เคยผ่านเลยไม่อยากนั่งเทียนเขียนครับ )
บริษัทแบบนี้เงินเดือนสูงมาก สวัสดิการเยี่ยม งานบริษัทเหล่านี้เหมาะกับเด็กจบนอก หรือ คนที่ภาษาดีๆคุ้นเคยกับวัฒนธรรมตะวันตก บริษัทแบบนี้ เน้นผลงานเป็นหลัก นายสั่งงานงานจะต้องเสร็จเรียบร้อยทันเวลา หรือก่อนเวลา ดังนั้น คุณต้องทำงานหนัก ประชุมเยอะ แล้วเอาเวลานอกเวลางานมา clear งาน routine ดังนั้นการทำงานจนดึกเป็นเรื่องธรรมดามาก เนื่องจากระบบการประเมินผลมีระบบที่ดีเน้นที่ผลของงานเป็นหลัก ซึ่งจะมีตัวKPI รายคนและรายทีม ดังนั้นคุณจะทำงานอยู่บนความกดดันค่อนข้างสูง จากการวัด KPI รายตัวนั้นจะทำให้ ต่างคนต่างเอาตัวรอดเป็นหลัก คุณจะเจริญรุ่งเรืองได้นั้นคุณจะต้องเก่งและทำงานให้meet KPIตลอด และอึด เข้าใจวัฒนธรรมตะวันตกเป็นอย่างดี และทนต่อ pressure จากรอบด้านได้ และต้องทำใจกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายตามบริษัทแม่ให้ได้ ถ้าเกิดบริษัทแม่ขาดทุน ต้องลดคน ถึงคุณเก่งทำงานดี คุณก็อาจจะตกงานได้ทุกเมื่อ
#3 ราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
จำนวนงานขึ้นกับหน่วยงานที่ทำ บางหน่วยงานที่ต้องติดต่อกับประชาชนก็จะทำงานหนักหน่อย แต่ถ้าเป็นหน่วยงานที่งานน้อย แต่ละวันก็จะจับกลุ่มคุยกันเรื่องชาวบ้าน เอาเวลาไปทำงานส่วนตัว นั่งเล่นหุ้น ทำงานต่อเมื่อนายสั่งเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่เจริญเติบโต ต้องเป็นคนปรับตัวเก่ง ให้เข้ากับนายที่มีการโยกย้ายอยู่เป็นประจำ หรือเส้นสายดี ต้องมีของฝากนายหรือ ภรรยานายเสมอ ถ้าเกิดคุณเป็นข้าราชการที่ไม่มีเส้น หรือไม่เข้าหานาย โอกาสที่จะเติบโตยาก แต่ถ้าคุณมีเส้นดี ฐานะดี ไม่ชอบทำงานเยอะ มีเวลากับครอบครัวมากจะเหมาะกับคุณมาก แต่ถ้าคุณมีฐานะไม่ดีก็อาจจะต้องทนกับเงินเดือนที่น้อยเมื่อเทียบกับบริษัทเอกชน แต่สวัสดิการดีมาก เพราะสวัสดิการนั้นจะรวมไปถึงพ่อแม่คุณ ลูกคุณ แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือ ต้องทำใจว่าอาจจะมีช่วงที่รุ่งและร่วงได้ ขึ้นอยู่กับนายที่คุณติดตาม การเปลี่ยนแปลงในชีวิตการทำงานเกิดได้เสมอเช่นกัน
#4 บริษัทเล็กๆ office มีคนไม่ถึงสิบคน
เงินเดือนจะดีหรือไม่นั้นขึ้นกับธุรกิจที่ทำ ข้อดีของบริษัทแบบนี้ คุณจะต้องทำงานได้ แบบ multifunction คือทำงานได้หลายอย่าง คนจะทำงานแบบนี้แล้วรุ่งคือคนที่ยอมทำงานทุกอย่างด้วยใจอยากทำ ไม่เกี่ยงงาน นายใช้ทำอะไรคุณทำได้หมด แต่ข้อเสียบริษัทลักษณะนี้มักจะสวัสดิการไม่ค่อยดี อาจจะดีเฉพาะเงินเดือนและโบนัส แต่ข้อดีมากๆคือบริษัทเล็กจะสอนงานคุณทุกอย่าง และเห็นงานทุกฝ่าย จนวันที่คุณอยากเป็นเจ้าของกิจการคุณจะได้เปรียบ นอกจากนั้น โอกาสในการแสดงผลงานมีอย่างชัดเจน แต่ถ้าคุณทำงานแย่โอกาสที่คุณจะโดนไล่ออกก็สูงครับ
#5 บริษัทไทยลูกครึ่ง อเมริกัน
บริษัทนี้มักจะถูกก่อตั้งจาก founder ที่จบจากต่างประเทศ เห็นข้อดีและข้อเสียของบริษัทแบบไทยแท้ๆ และบริษัทที่เป็นต่างชาติแบบ 100% บริษัทนี้มักจะพยายามสร้างวัฒนธรรมที่เน้น ผลการทำงานเป็นหลัก แต่จะพยายามเอาหลักการบริหารคนแบบไทยๆมาผสมผสาน มีการทำงานแบบพี่ๆน้องๆ มีการสอนงาน เน้นการทำงานเป็น teamwork โดยอาจจะเอากีฬา หรือกิจกรรมที่ทำให้พนักงานรักกัน คนที่จะรุ่งในในบริษัทแบบนี้ คือคนทำงานเก่ง ทำกิจกรรมในองค์กรเก่ง สามารถทำงานได้ดีและสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรที่ founder สร้างไว้ บริษัทแบบนี้พนักงานจะรักกันแบบพี่น้อง เงินเดือนและสวัสดิการก็จะมีระบบประเมินผลที่ดี มีการเมืองในองค์กรน้อย ความมั่นคงในงานก็ขึ้นกับผลงานที่คุณทำ หลังจากผม share ประสบการณ์ที่เคยผ่านงานมาหลายรูปแบบขององค์กร คงพอที่จะทำให้คุณเห็นข้อดีข้อเสีย ของแต่ละองค์กร หรือ แบบไหนที่เหมาะกับนิสัยของคุณ ผมไม่ได้บอกว่าองค์กรแบบไหนดี แบบไหนไม่ดี แต่สำหรับผมความสุขนั้นอาจจะไม่ได้ดูที่เงินเดือนเยอะๆตำแหน่งสูงๆ แต่ผมอยากทำงานในที่ๆหลายๆอย่างเหมาะกับตัวผม นิสัยผม เพราะผมต้องอยู่กับงานทุกวันไม่ต่ำกว่า 8 ชม. ดังนั้นลองเลือกดูนะครับว่าบริษัทลักษณะไหนที่เหมาะสมกับนิสัยคุณและจะทำให้คุณประสบความสำเร็จและมีความสุขตลอดไป ขอให้โชคดีทุกคนนะครับ ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.jobstutorthailand.com