[how to] 5 ขั้นตอนเปลี่ยนคุณที่ “ช่างฝัน” ให้เป็นคุณที่ “ช่างทำ”

  • 4
  •  
  •  
  •  
  •  

startup

ขอบคุณภาพประกอบจาก Pantheon

เคยได้ยินคำว่าฝันเป็นจริงไหม…อ่านบทความนี้สิครับแล้วคุณจะรู้ว่ามันเป็นอย่างไร!

ร้อยทั้งร้อยของผู้คนมักจะมีความฝันไปต่างๆ นานา อยากเปิดร้านเค้กเล็กๆ น่ารักบ้าง อยากเปิดร้านเบเกอรีสวยหรูบ้าง แต่อะไรเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้เขาเหล่านั้นไปถึงฝั่งฝันได้ล่ะ นั้นคือเป้าหมายที่แข็งแรงและสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้มากพอยังไงล่ะ(แต่ก็อย่าลืมว่าการเป็นนักฝันนั้นสำคัญพอๆ กับการเป็นนักทำเหมือนกันนะ)

ต่อไปนี้เป็น 5 ขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ฝันอันสวยหรูของคุณกลายเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างงดงาม

1. เขียนเป้าหมายของคุณลงไปและให้ deadline กับมันด้วย

เช่น หากคุณเขียนนิยายก็ต้องกำหนดว่าถึงช่วงนี้นิยายของคุณจะมีพัฒนาการไปแค่ไหน และไม่เพียงแค่เป้าหมายใหญ่แต่ต้องมี “เป้าหมายย่อย” ที่ให้คุณไล่ความสำเร็จไปเป็นลำดับขั้นได้อีกด้วย ลองวัดศักยภาพของคุณและประเมินว่าเป้าหมายแบบไหนที่จะเป็นจริงได้ จากนั้น? ลงมือทำกันเถอะ

2. สมดุลความต้องการและความอยาก

เมื่อคุณมีความต้องการอะไร แยกแยะมันให้ออกว่าเป็นความอยากหรือความจำเป็นจริงๆ หากมันเป็นความจำเป็นให้ลำดับขั้นตอนหรือวิธีการที่จะทำให้ความต้องการนั้นได้รับการสนอง หากความฝันของคุณยิ่งใหญ่คุณก็อาจยิ่งต้องลงแรงมากขึ้นเพื่อให้มันกลายเป็นจริงขึ้นมา

3. อยู่ในหมู่คน “ช่างทำ”

ไล่ชื่อเพื่อนรัก 5 คนของคุณและดูว่าพวกเขาเป็นพวก “ช่างทำ” เหมือนกันหรือเปล่า หากไม่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเลิกคบแต่คุณอาจต้องพาตัวเองออกไปหาเพื่อนที่เป็นช่างทำมากขึ้น การมีเพื่อนที่เอางานเอาการจะช่วยให้เกิดบรรยากาศขยันแล้วคุณก็จะมุมานะไปเอง นอกจากนั้น เพื่อที่ “ช่างทำ” มักประสบความสำเร็จในชีวิตและพวกเขาจะกลายเป็นคอนเนคชั่นที่ทรงคุณค่าของคุณในอนาคตอีก

4. หยุดทำอะไรที่ไม่ได้เรื่องซะที

อย่างที่ อัลเบิร์ต ไอสไตน์ นิยามความ “บ้าคลั่ง” ไว้นั้นแหละ การทำอะไรซ้ำๆ และหวังจะให้ผลมันออกมาแตกต่างกัน การฝันถึงสิ่งใหม่และวิธีการใหม่จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ใหม่ ดังนั้นหยุดยึดติดกับวิธีการเก่าๆ ที่อาจเคยได้ผลในอดีตแต่มันไม่เวิร์คในปัจจุบันแล้ว ถ้าคุณไม่อยากเป็นไปตามนิยามของไอสไตน์

5. คิดซะว่าทุกอย่างจะต้องใช้เวลานานขึ้นและราคาแพงขึ้น

การเป็นนักฝันที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะคุณรู้สึกว่าความฝันนั้นไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ งั้นลองคิดถึงเรื่องเงินเฟ้อ ข้าวของที่แพงขึ้นและการทำงานที่จะมีคู่แข่งเข้ามามากขึ้นทุกขณะสิ คุณจะมีกำลังใจเริ่มมันให้เร็วขึ้นอีกโขเลยล่ะ

Source


  • 4
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง