4 ข้อผิดพลาด ที่คุณไม่ควรทำระหว่างการสัมภาษณ์งาน !

  • 32
  •  
  •  
  •  
  •  

job1

การสัมภาษณ์งานถือเป็นอีกก้าวที่คุณใกล้จะได้งานตามที่คุณคาดหมายไว้ ดังนั้น จึงไม่มีใครอยากผิดพลาดในจุดนี้ และเพื่อพิสูจน์ว่าคุณนั้นเหมาะสมกับตำแหน่งที่คุณสมัครเข้ามามากที่สุด แต่การสัมภาษณ์งานก็ถือว่าเป็นจุดที่ยากที่สุดเช่นกัน เพียงนิดเดียวคุณอาจจะทำทุกอย่างที่เดินมาดีๆ ให้พังได้ในพริบตา

ดังนั้น หากคุณกำลังจะต้องไปสัมภาษณ์งานบทความนี้เหมาะกับคุณอย่างมาก เพื่อให้คุณได้เตรียมพร้อมอย่างดีที่สุด เรามีข้อแนะนำจากผู้เชี่ยชาญจะมาไกด์ทางการสัมภาษณ์งานที่ดีที่สุดให้กับคุณ

Liz Wessel ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง WayUp เว็บไซต์สำหรับการหากงาน ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 2 แสนคน โดยส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจบใหม่หางานอย่างที่ Microsoft, Uber, The New York Times, Disney, และ Google เป็นต้น เธอกล่าวว่า “ฉันจัดการสัมภาษณ์งานมามากกว่า 200 อาชีพ  และสัมภาษณ์งานมาแล้วมากมายในช่วง 12 เดือนมานี้ ซึ่งชั้นเห็นด้วยว่าแม้แต่คนที่ฉลาดที่สุดมีประสบการณ์มากที่สุดก็จะต้องเตรียมพร้อมมาอย่างดีในการที่จะสัมภาษณ์งาน”

ทั้งนี้ Wessel ได้ให้คำแนะนำว่าอะไรคือสิ่งที่ผิดพลาดมากที่สุดในการสัมภาษณ์งาน ซึ่งจะทำให้คุณเสี่ยงที่จะเสียงานนั้นไปเลย

1.พูดถึงแต่ความกังวลของคุณ

คุณอาจจะคิดว่านั่นทำให้คุณดูน่ารักน่าเอ็นดู ที่จะแสดงความกังวลในระหว่างการสัมภาษณ์ แต่ความจริงก็คือไม่ได้ทำให้มันดูดีเลย “ผู้จ้างงานคาดหวังที่จะเห็นความเป็นผู้ใหญ่ในตัวคุณ สงบนิ่งยามอยู่ในสภาวะความกดดัน และสามารถจัดการกับความเครียดได้ หากจะแสดงออกถึงความวิตกของคุณนั้นทำได้แค่สื่อเป็นนัยๆ นิดๆ หน่อยๆ ก็พอ มันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมที่จะสื่อข้อความได้ดีที่สุดว่าคุณพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาในออฟฟิศจริงๆ ได้”

2.ไม่ได้ทำการบ้านมาเลย

“ครั้งหนึ่งฉันเจอแคนดิเดทคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องแล้วถามฉันว่า ฉันเป็นผู้จัดการหรือเปล่า” สิ่งที่เกิดขึ้น Wessel เรียกว่า “แค่เริ่มต้นก็ไม่สวยซะแล้ว”

ถ้าคุณเตรียมพร้อมและทำการบ้านมาอย่างดี คุณจะรู้ได้ทุกอย่างเกี่ยวกับบริษัทนี้ ไม่ว่าจะเป็น ผู้นำขององค์กรหรือคนที่คุณกำลังจะคุยด้วย Wessel กล่าวด้วยว่า “นายจ้างต้องการเห็นว่าคุณได้ทำการบ้านมาบ้างหรือไม่ และคุณเข้าถึงบริษัทได้มากแค่ไหนและนั่นเป็นประเด็นสำคัญ” เธอกล่าวต่อด้วยว่า เป็นเรื่องดีที่คุณจะถามคำถาม แต่คำถามประเภทที่คุณสามารถเตรียมพร้อมมาก่อนได้นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะถามเลย เพราะสามารถหาได้อย่างง่ายๆ ในการเสิร์ชข้อมูลทั่วไป ที่สำคัญการเตรียมพร้อมมาก่อนจะทำให้คุณโดดเด่นเหนือคู่แข่งคนอื่นๆ ด้วย

3.ตอบคำถามแบบไม่อรรถาธิบาย

ผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ต้องการคำตอบเพียแค่คำๆ เดียว แต่พวกเขามองหาเรื่องราวเกี่ยวกับว่าคุณทำมันได้อย่างไร จัดการมันได้อย่าง เช่น เมื่อถูกถามถึงบทบาทต่างๆ ของคุณในอดีต เช่น การเป็นประธานชมรม หรือจุดเปลี่ยนของการเริ่มต้นสิ่งต่างๆ คุณไม่ควรตอบแค่ว่า “ใช่ และมันสนุกมาก” อธิบายมันซี่! นี่คือโอกาสทองของคุณ บอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ ที่คุณทำ ว่าคุณจัดการมันอย่างไร และทำอย่างไรมันถึงประสบความสำเร็จ

4.ไม่มีแม้แต่คำถามเดียวถามกลับผู้สัมภาษณ์งาน (หรือทำท่าทางราวกับว่าผู้สัมภาษณ์ได้บอกทุกอย่างไปครบหมดแล้ว)

ในช่วงท้ายของทุกๆ การสัมภาษณ์งาน ผู้สัมภาษณ์งานมักจะถามคุณกลับว่า “คุณมีคำถามอะไรจะถามหรือไม่?” ซึ่งในเรื่องนี้Wessel ให้ความเห็นว่า “คุณอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องของรูปแบบทางการทั่วไป แต่สิ่งนี้กลับสะท้อนให้เห็นว่าคุณขาดการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมด้วย หรือแม้แต่อาจจะไม่มีปฏิภาณไวพริบในทันทีทันใด

ทั้งนี้ Wessel ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อเป็นคำถามกลับไปยังผู้สัมภาษณ์ให้ได้ว่าควรจะพูดว่าอะไร

  • ในวันปกติงานโดยทั่วไปที่จะได้รับนั้นเป็นอย่างไร?
  • อะไรคือจุดยากที่สุดของงานในหน้าที่นี้?
  • ตรงส่วนไหนของงานที่คุณคิดว่าจำเป็นจะต้องรีบปรับปรุง?

Wessel กล่าวว่า การถามคำถามกลับในตอนท้ายของการสัมภาษณ์จะช่วยให้การสนทนาเป็นแบบมีปฏิกริยาตอบกลับระหว่างกันด้วย และยังจะแสดงให้เห็นถึงความกระตืนรือร้นของคุณด้วย

หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้น่าจะพอช่วยให้คุณผ่านการสัมภาษณ์งานไปได้ด้วยดีนะคะ.

แหล่งที่มา 


  • 32
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!