15 เคล็ดลับ! สำหรับ ‘หัวหน้า’ มือใหม่

  • 35
  •  
  •  
  •  
  •  

dorio_tony_baby

‘จิตใจ’ มิใช่สิ่งที่ฝึกฝนได้ด้วยตำรา…แต่ต้องฝึกฝนวิชาด้วย ‘ตัวเราเอง’

ว่ากันว่า, การได้เป็น ‘หัวหน้า’ หรือ ‘เจ้านาย’ ไม่ได้มีแค่เรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ ความรับผิดชอบ และเงินเดือนอันสูงลิ่วเพียงอย่างเดียว หากแต่มีเรื่องของ ‘คุณภาพทางจิตใจ’ ที่หัวหน้าหลายคนต้องหมั่นฝึกฝนทำกันอยู่เป็นประจำ แน่นอนว่าการเป็นหัวหน้าที่ดีไม่ได้อยู่ที่ 3 สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนอยู่ที่ตัวเราเอง

หัวหน้ารุ่นเก๋าปราบเซียนที่ยืนจังก้าค้ำตำแหน่งมาหลายสมัย คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก เพราะวิชาติดตัวคงแก่กล้า ชนิดที่ว่า…เดินหมากตัวไหนก็แบหงายกินเรียบ แต่สำหรับหัวหน้ามือใหม่ ที่เพิ่งจะตบเท้าขึ้นมารับตำแหน่งนี้ อาจต้องมีการขัดเกลาฝึกฝนกันเสียหน่อย เพราะโลกแห่งความเป็นจริง อาจไม่ได้สวยใสงดงามอย่างที่คิดนัก นี่คือ 15 เคล็ดลับที่หัวหน้ามือใหม่ควรมีพกไว้ติดตัว รับรองว่าหากฝึกครบผ่านทั้ง 15 ข้อแล้ว คุณจะเป็นหัวหน้าที่ดีและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง และที่สำคัญ, ใครๆต่างก็พากันหลงใหลรักใคร่เลยเชียวล่ะ!

 

Write-สาระ

459418871

ฝึกตัวเองให้เป็นคนช่างสังเกต และจดสิ่งต่างๆด้วยตนเอง การเขียนจดสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อคิด/ไอเดีย/วัตถุดิบ หรือแม้แต่ตารางนัดหมายก็ตาม จะช่วยให้เรามีความรอบคอบและมีสติมากขึ้น ลองเปลี่ยนจากการใช้นิ้วแตะปุ่ม ใช้มือกดเม้าส์…มาเป็นการใช้มือจับปากกา ใช้นิ้วเขียนถ้อยคำกันเถอะครับ การเขียนนอกจากจะทำให้เราได้มีเวลาไตร่ตรองกับตัวเองแล้ว ยังช่วยให้เราจัดระบบทางความคิดและสิ่งต่างๆได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย เมื่อเรา ‘พูด’ ถ้อยคำดังก้องเพียงข้ามห้อง…แต่เมื่อเรา ‘เขียน’ ถ้อยคำดังก้องข้ามเวลา

ดวงตาหลังศีรษะ

ฝึกเป็นคนมองโลกให้กว้างเข้าไว้ มองอะไรให้เป็นสองด้าน อย่ามองแต่เพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้น มันจะช่วยทำให้เรารู้จักยอมรับ และเคารพคนอื่นได้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน, คนอื่นก็จะทำแบบนั้นกับเราเช่นกัน มองโลกสองด้าน…แล้วเราจะอยู่ร่วมกันได้ ครับ

สัจจะวาจา, สัตย์จะวางใจ

การรักษาคำพูด รักษาคำมั่นสัญญา…ถือเป็นเรื่องที่หัวหน้าควรจะต้องมีเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญเราต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองเสมอ เมื่อไหร่ที่หัวหน้าอย่างเราไม่มีสัจจะ และไม่ซื่อสัตย์กับตัวเอง ก็อย่าไปคาดหวังว่าจะให้คนอื่นเขามาวางใจกับเราเลยครับ เรื่องง่ายๆที่หัวหน้ามือใหม่ทุกคนควรมี ถ้า ‘หัวใจ’ ยังไม่มั่นคง…แล้วใครจะซื่อตรง ล่ะครับ

‘สติ’ มา ‘สันติ’ เกิด

แน่นอนว่าในการทำงานจะต้องมีเรื่องผิดพลาดอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน, คนเป็นหัวหน้าอย่างเราก็ย่อมต้องทำพลาดได้เช่นกัน อย่าวู่วาม ร้อนเนื้อร้อนตัวจนดิ้นพรากมากเกินไป ยิ่งดิ้น…เชือกยิ่งแน่น สงบเข้าไว้ครับ และค่อยๆคิดหาทางแก้อย่างมี ‘สติ’ เข้าใจว่ามือใหม่ เวลาพลาดทีอาจจะตื่นกลัวมากจนยั้งตัวไม่อยู่ จำไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เรามี ‘สติ’… ‘สันติ’ ก็จะเกิดแก่เราและคนรอบข้าง ด่านแรกที่จะทดสอบจิตใจของเรา แค่ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้อย่างไม่หวาดกลัว อย่าลืมว่าลูกน้องของเราคอยจับตามองเอาเราเป็นเยี่ยงอย่างอยู่ ถ้าเราทำได้ เรื่องอื่นๆก็จะผ่านไปได้เช่นกัน ความจริงเป็นเพียงภาพลวงตา…แม้มันจะคงอยู่นาน

แชร์ที่ให้…ใจที่แชร์

การร่วมแบ่งปันไอเดีย หรือแชร์ความรู้สึกต่างๆกับลูกน้องในทีม เป็นสิ่งที่หัวหน้าหลายคนอาจม้องข้ามไป กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้องของเราเกิดความสบายใจในการทำงานมากขึ้น นอกจากนั้นพวกเขายังรู้สึกว่าหัวหน้าของเขา รู้จักรับฟังและเข้าใจพวกเขาอีกด้วย สละเวลาสักนิด เรียกประชุมทีมเพื่อการแบ่งปัน รับรองว่าไม่ว่าคุณจะมีลูกน้องเป็นใคร จะมีสักกี่คนก็ตาม…พวกเขาจะรักใคร่ และอยากร่วมงานกับคุณมากที่สุด

Point of Feel

บางครั้งทุกความคิด และการตัดสินใจของคนเป็นหัวหน้า ต้องมีหลักการ และวิสัยทัศน์ที่ดี แต่มันไม่อาจสำเร็จผลได้ หากปราศจากการใช้อารมณ์ของหัวใจ ทุกสิ่งสำเร็จได้เพราะใจ มีคนเคยกล่าวว่า…งานศิลปะที่ดีต้องมาจาก ‘ใจ’ มิใช่ ‘สมอง’ ในคราวเดียวกัน, การทำงานทุกชิ้นบนโลกใบนี้ ล้วนเป็นศิลปะทั้งสิ้น เพราะอย่างน้อยๆศิลปะอย่างนึงที่เราต้องใช้แน่ๆ คือ ‘ศิลปะการดำเนินชีวิต’ นั่นเอง เมื่อไหร่ที่เราใช้แต่หลักการและเหตุผล เราจะพบว่ามันมักจะออกมาในแบบไร้ความละเอียดอ่อน อิสระจากสีสันและความไหลลื่น จงรัก ‘หัวใจ’ ของเรา…เพราะมันไม่เคยถูกควบคุมด้วย ‘หัวสมอง’ เลย ใช้หัวใจกันเยอะๆครับ

เอกลักษณ์เฉพาะทาง

แน่นอนว่าการทำงานเมื่อใช้ ‘ใจ’ แล้ว ก็อย่าลืมใส่ความเป็นตัวเอง หรือความเป็นเอกลักษณ์ของทีมเราลงไปด้วย 80% ของผลลัพธ์งานที่ออกมาดี คือการใส่ความเป็นตัวเองลงไป ลองคิดดูสิครับว่า…ถ้างานทุกชิ้นบนโลกใบนี้ มีความเหมือนกันหมด ก็คงไม่มีอะไรที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นเป็นอย่างแน่ ที่สำคัญ, คงไม่มีวันขายได้อย่างแน่นอน

เป็นลูกน้อง…เปิดตาให้กว้าง, เป็นหัวหน้า…หรี่ตาเสียบ้าง

บ่อยครั้งที่คนเป็นหัวหน้า มักจะเผลอไผลลืมตัวปล่อยให้อำนาจเข้าครอบงำ ด้วยการติดตาม และเรียกขอดูงานชิ้นต่างๆจากลูกน้อง ทั้งที่ความเป็นจริง, การเป็นหัวหน้าที่ดี เราควรจะปล่อยให้ลูกน้องได้ลองฝึกฝน และคิดแก้ปัญหาเอง ด้วยการเป็นคนคอยดูอยู่ห่างๆอย่างไม่ละสายตา คอยเป็นคนแนะนำและให้คำปรึกษา ไม่ใช่คอยควบคุมกำกับไปเสียซะทุกเรื่อง ในฐานะของคนที่เป็น ‘หัวหน้า’ หน้าที่ของเราไม่ใช่เป็นคนคอย ‘ทำ’ ให้…แต่ต้องเป็นคนคอย ‘แนะ’ ให้ต่างหาก

‘วิถี’ ที่ชัดเจน

บางครั้งคำว่า ‘หัวหน้า’ จึงทำให้เราต้องคอยดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับบริษัท อาทิ งบประมาณ/รายรับ/รายจ่าย/ตารางงาน และอีกมากมายก่ายกอง ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของลูกน้องเสียบ้าง พอวันนึงที่เราต้องอำลาแท่นบัลลังก์นี้ไป ลูกน้องจะได้ขึ้นมารับหน้าที่ต่อได้อย่างภาคภูมิใจ เลือก ‘วิถี’ ของเราให้ชัดเจน และเคารพในหน้าที่ของแต่ละคน เพราะบางครั้งมันอาจทำให้เราเกิดความสับสน และเครียดกับการทำงานมากจนเกินไป

แพ้บางก็ได้

ในการทำงานที่แท้จริง ไม่จำเป็นว่าเราต้อง ‘ชนะ’ เสมอไป บางครั้ง ‘แพ้’ บ้างก็ได้ การที่เราเพ่งมองแต่ความสำเร็จ ความชนะอย่างเดียว จะทำให้เรามองข้ามคนอื่นๆไป ส่งผลให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคน ‘เห็นแก่ตัว’ มิหนำซ้ำ, ยังทำให้ลูกน้องเกิดความเครียดและกดดัน พานให้ไม่อยากร่วมงานกับเราอีกด้วย Good somtimes bad, Bad somtimes good…เมื่อมีได้ก็ต้องมีเสีย เมื่อมีเสียก็ต้องมีได้ ครับ

No vote…ไม่ออก ‘เสีย’

ผู้นำที่ดีต้องมีความเป็นประชาธิปไตย การเป็นผู้นำคือการรับฟังและตัดสินใจให้กับลูกบ้าน หากต้องมีการลงคะแนนเสียง หรือโหวตเลือกตัดสินใจในสิ่งต่างๆ อย่าออกเสียงดีกว่าครับ ให้คำแนะนำ ความคิดเห็น และคอยตัดสินให้ลูกน้องดีกว่า เพราะนั่นไม่ใช่หน้าที่ของคนเป็น ‘หัวหน้า’ การที่เราร่วมโหวตคะแนนเสียงต่างๆ จะทำให้ลูกน้องรู้สึกว่าเราอยู่ระดับเดียวกันกับพวกเขา และอาจเกิดความไม่เคารพ ไม่เชื่อมั่นในตัวเราได้ครับ

กติกาย

บางคนอาจหลงคิดว่า…เมื่อเป็นหัวหน้าแล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในกฎกติกาของบริษัทมากนัก อาทิ มาสายสักหน่อย, แต่งตัวผิดระเบียบบ้าง หรือโดดงานดีกว่า อย่าลืมว่าหัวหน้าที่ดี ลูกน้องก็จะดีตาม เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกน้องเห็น หากไม่รักษากฎระเบียบ…จิตใจจะดึงดูดค่าติดลบ

อย่ารี ‘รอ’ แต่ประชุม

จงพึงระลึกไว้เสมอว่าการประชุมไม่ได้ทำให้ทุกการตัดสินใจสำเร็จได้เสมอไป บางครั้งการรอแต่จะ ‘ฟันธง’ ตัดสินใจในห้องประชุมเพียงอย่างเดียว จะทำให้เกิดความล่าช้า และจะสั่งสมความเกียจคร้านให้แก่ลูกน้องของเรา หากตัดสินใจได้ หรือมีหนทางอะไรที่น่าสนใจ ก็เรียกคุยได้เลยครับ จำไว้ว่า…ยิ่งรอ ยิ่งรั้ง ครับ

Slow perfect

ไม่จำเป็นเสมอไปว่างานทุกชิ้นจะต้องรีบเร่ง รีบทำให้เสร็จ ยิ่งเสร็จเร็วยิ่งดี เพราะการมีวิธีคิดแบบนั้น จะทำให้งานของเราออกมาอย่างไร้ประสิทธิภาพ การที่ไม่รีบเร่ง จะทำให้เราได้ใช้เวลากับงานชิ้นนั้นได้อย่างละเอียด และรอบคอบมากขึ้น ถึงเสร็จเร็ว แต่งานออกมาไก่กาอาราเล่ ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดีครับ โลกไม่ได้เร่งรีบอะไร…แต่รอได้จนกว่าจะเพอร์เฟ็ค

‘เม้าท์’ ไปทำไมให้สึก

หลีกเลี่ยงทุกสมาคมซุบซิบของลูกน้อง และอย่าได้นินทาลูกน้องของเราให้คนอื่นฟังเชียวล่ะ ผู้นำที่ดีจะไม่ทำตัวเหมือนเด็กๆ การซุบซิบนินทาถือเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะที่ไหน ยุคสมัยใดก็ตาม ยับยั้งชั่งปากไว้มั้งครับ เราเองก็คงไม่อยากให้ลูกน้องมานั่งนินทาเราเช่นกัน…จริงไหมล่ะครับ?

ไม่ว่าจะฝึกวิชาอะไรมา…หัวใจก็คือดวงเดิม เคารพและให้เกียรติตัวเองเสมอครับ

แหล่งที่มา


  • 35
  •  
  •  
  •  
  •