ยอมรับเสียเถอะว่าจริงๆ แล้วคอนเทนต์มาร์เกตติ้งกว้างกว่าการแค่โพสต์ข้อความโพสต์รูปภาพในโซเชียลมีเดีย หากคุณอยากเป็นเบอร์หนึ่งบนสงครามออนไลน์นี้คุณต้องมีอะไรมากกว่า text text และ text สิ
ชะตากรรมของแบรนด์ขึ้นอยู่กับการพัฒนาและรักษาภาพลักษณ์ที่คุณอยากให้ลูกค้าจดจำเกี่ยวกับแบรนด์และอะไรที่จะทำให้พวกเขาจดจำคุณได้ดีขึ้นเท่าสิ่งที่มองเห็นได้เล่า?
ประเภทของ visual content
รูปภาพบรรจุคำนับพัน แต่รูปภาพสมัยนี้สามารถสร้างข้อมูลที่เป็นระบบและเข้าใจง่ายนั้นคือ infographic นั้นเอง
พลังของ infographic ต่างจากรูปภาพทั่วไปตรงที่มันบอกเนื้อหาเชิงลึกที่ไม่ต้องตีความเอง มี keyword และสิ่งที่ผู้อ่านควรนำไปปรับใช้ในชีวิตอย่างชัดเจน การผสมผสานภาพกับเนื้อหาในลักษณะนี้ทำให้ผู้ใช้ได้สาระตามที่คุณต้องการอย่างตรงจุด
นอกจาก infographic แล้วก็มี slideshow presentation, images, screenshot และบางครั้งก็ memes
แล้วทำไมต้องใช้ visual content ล่ะ?
ง่ายๆ ในยุคที่คุณต้องรีบเร่งอ่านทุกอย่างแถมยังอ่านแต่อะไรที่แชร์อยู่บนโซเชียล infographic เป็นรูปแบบนำเสนอที่รวดเร็ว เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใส่ได้หลายแฟลตฟอร์ม เช่น Pinterest หรือ IG แต่จริงๆ แล้วมันเหมาะกับ Facebook, Google+ และ Twitter ที่สุด
ต่อไปนี้เป็นเหตุผลดีๆ ที่คุณควรรีบใช้ visual content ได้แล้ว
1.มันเร็วกว่า
คุณรู้ไหมว่าสมองมนุษย์ประมวลผลภาพได้เร็วกว่าตัวอักษรถึง 6 หมื่นเท่า
เวลาเราเห็นเราจะย่อยข้อมูลเหล่านั้นได้เร็วมากและส่งมันไปยังฐานข้อมูลและความรู้สึกทันที นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมวีดีโอที่ยาวกว่า 1 นาทีจึงเริ่มไม่ได้ผลเพราะมันเริ่มน่าเบื่อและรบกวนฐานข้อมูลเก่า ขณะที่วีดีโอที่ดีจะสร้างคอนเทนต์ที่ต่อเนื่องและนำไปสู่ calls-to-action ที่เป็นหัวใจสำคัญของโฆษณา
2.มันทำให้พวกเขาสนใจ
คุณเห็นข้อความล้วนถูกแชร์บนโซเชียลมีเดียครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ไม่ค่อยใช่ไหมล่ะเพราะข้อความเหล่านี้ไม่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่านเลย หากไม่มี visual content ก็เตรียมตัวให้คอนเทนต์ของคุณจมลงในดิจิตอลคอนเทนต์ที่ไหลเวียนกว่า 1.5 แสนชิ้นบนแฟลตฟอร์มได้เลย เหตุผลแค่นี้ก็น่าจะทำให้คุณลุกมาสร้าง visual content ได้แล้วใช่ไหมล่ะ
3.มันได้ผล
การทำทุกอย่างเป็น visual content จะทำให้อุปสรรคด้านภาษาลดน้อยลงและข้อมูลดูน่าเชื่อถือเพราะผ่านการคัดกรองที่เยี่ยมยอดมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลที่คุณจะนำเสนอนั้นเข้าใจยากมาก
4.ผู้อ่านชอบมัน
สถิติหลายตัวบ่งชี้ว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียชอบ visual content เช่น นักการตลาดบน Facebook จะมียอด engagement มากขึ้น 65% เมื่อใช้ visual content ขณะที่บน LinkdIn, Google+ และ Twitter มียอด engagement เพิ่มขึ้น 37%
นอกจากนั้น visual content ยังมีโอกาสเป็นไวรัลได้ดีกว่าและทำให้แบรนด์คุณมี visibility ได้อย่างรวดเร็ว
5.มันเป็นเครือข่ายสังคม
การสร้างความน่าเชื่อถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้แบรนด์อยู่รอดได้แต่การสร้างความน่าเชื่อถือนี้ไม่ได้เกิดจากคำพูดของแบรนด์แต่มาจากผู้ใช้ที่พูดปากต่อปากกันเอง ดังนั้นการสร้างเครือข่ายจึงเป็นหนทางที่จะช่วยให้พวกเขามาเชื่อมต่อกันและออกไปพูดถึงคุณในทางที่ดี
visual content จะทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมกันไปในทางเดียวกันซึ่งสร้างบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจและนำไปสู่ call-to-action ในอนาคต